หลายท่านที่ทำ SEO ก็อาจจะรู้จักการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization มาพอสมควร แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะจงได้อยู่ดีว่าในการทำ SEO แบบใดที่จะให้ผลและประสบความสำเร็จได้ 100% แต่สิ่งที่ควรทำต่อไปนี้อาจจะช่วยให้การทำ SEO ของเรานั้นติดอันดับที่ดีขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้งานประทับใจเว็บไซต์ของเรามากขึ้น และเป็นการอยู่ใน Search Engine อย่างมั่นคงและมั่นใจ

อัปเดตเนื้อหาในเว็บไซต์เป็นประจำ 
เนื่องจากว่า Google นั้นชอบที่จะให้เว็บไซต์มีการอัปเดตข้อมูลอยู่เสมอ เพราะต้องการนำเสนอเว็บไซต์ที่มีข้อมูลใหม่และทันสมัยต่อผู้ค้นหามากที่สุดนั่นเอง เช่นเดียวกันเว็บไซต์ที่ติดอันดับการค้นหา หรืออยู่ในอันดับต้นๆ แล้วนั้นก็ต้องมีการอัปเดตเนื้อหาเพื่อเป็นการรักษาอันดับในการค้นหาต่อไป
*การใช้ระบบเว็บไซต์ที่เป็น CMS (Content Management System) เช่น  Wordpress จะช่วยให้เราอัปเดตข้อมูลหรือการเพิ่มบทความในเว็บไซต์ด้วยตัวเองอย่างง่ายดายอีกด้วย

สร้างบทความที่มีคุณภาพไปยังกลุ่มเป้าหมาย
เนื้อหาที่จะใช้จะต้องมีความสอดคล้องกับ Keyword และ SEO เพื่อให้ Google สามารถค้นหาเราเจอได้ อีกทั้งหากเนื้อหาที่เราใช้นั้นมีประโยชน์เราก็อาจะได้ Backlinks ที่มีคุณภาพกลับมาด้วยก็เป็นได้ และเหล่านี้ก็จะส่งผลต่ออันดับของเว็บไซต์ใน SEO จากนั้นเมื่อนำ Content ไปแชร์ลงในแพลตฟอร์มต่างๆ ของโซเชียลมีเดีย ก็จะทำให้สามารถเข้าถึงผู้อ่านและกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น (หรือเรียกวิธีการเหล่านี้ได้ว่า Content Marketing) ทั้งหมดจะมีส่วนที่ช่วยให้เว็บไซต์ของเรานั้นติดอันดับการค้นหาอีกด้วย

เขียน Title และ Meta Description ให้น่าคลิก
ส่วนของ Title และ Meta Description จะแสดงอยู่บนหน้าผลการค้นหา จากการค้นหาโดยใช้ Keyword ผ่าน Search Engine และในส่วนนี้จะสามารถกำหนดเองได้ เทคนิคง่ายๆ นั่นคือการใส่ Keyword ใน Title และ Meta Description ให้ตรงหรือใกล้เคียงกับ Keyword ที่ผู้ใช้มักใช้ค้นหา (Title คือชื่อเรื่องของหน้าเว็บไซต์, Meta Description คือคำอธิบายโดยรวม หรือใจความสำคัญของหน้าเว็บไซต์)

ทำเว็บไซต์ให้รองรับการใช้งานบนมือถือ (Mobile-Friendly)
ปัจจุบันมีการใช้งานและเข้าอินเทอร์เน็ตด้วยอุปกรณ์อย่างหลากหลายมากขึ้น เว็บไซต์จึงจำเป็นที่จะต้องมีการปรับและจัดการให้เว็บไซต์ของเรานั้นสอดคล้องและรองรับการใช้งานมากที่สุด  เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและอยู่กับเว็บไซต์ของเรานานยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือ Google ยังใช้ Mobile-Friendly เป็นปัจจัยในการจัดอันดับเว็บไซต์ในการทำ SEO อีกด้วย

เว็บไซต์มีความเป็นระบบและใช้งานได้ง่าย (User-Friendly)
เว็บไซต์ที่ดีนอกจากจะมีการดีไซน์ที่สวยงามแล้ว และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือรูปแบบการใช้งานต้องตอบโจทย์ และสามารถใช้งานได้ง่าย ควรจัดหมวดหมู่ให้เป็นระบบ สามารถทำการค้นหาได้ง่าย และมีเนื้อหาหมวดหมู่ย่อยอย่างชัดเจน นอกจากนี้การเชื่อมโยงลิงก์ไปยังหน้าเว็บอื่นๆ เพื่อให้ผู้ที่สนใจยังคงอยู่ที่หน้าเว็บของเราได้นานขึ้น (Avg. Time on Page) ก็จะช่วยให้เว็บไซต์ของเรามีคุณภาพ (Bounce Rate) มีผลต่อการทำ SEO






ที่มา : seo-web.aun-thai