หลายธุรกิจได้ประสบปัญหากับค่า Bounce Rate ที่สูงบนเว็บไซต์ ทั้งที่สินค้าและบริการของเรานั้นมีคุณภาพ น่าสนใจ ราคาไม่แพง และลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ อีกทั้งยังรองรับความต้องการของลูกค้าด้วย เหล่านี้ทำให้เกิดเป็นความสงสัยว่าเพราะเหตุใดค่า Bounce Rate จึงสูง และปัจจัยใดบ้างที่มีผลต่อ Bounce Rate มีดังต่อไปนี้

1.ตกแต่งหน้าร้านไม่โดนใจ
ถึงแม้ว่าเว็บไซต์จะมีระบบจัดการหลังบ้านที่มีระเบียบและประสิทธิภาพ เว็บไซต์สามารถรองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก แต่เหล่านี้จะไม่มีประโยชน์ในทันทีถ้าหากเราไม่จัดการหรือออกแบบหน้าบ้านให้สวยงาม นั่นก็คือหน้าเว็บไซต์ และหน้า Landing page นั่นเอง การตกแต่ง การดีไซน์ รวมไปถึงสีที่ใช้ ปัจจัยเหล่านี้จะประกอบกันเกิดเป็นความสวยงามที่ทำให้ลูกค้าเลือกเข้ามาที่ร้านของเรา

2.ข้อความไม่ชัดเจน
การใส่รายละเอียด รวมไปถึงการให้ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับสินค้าและบริการลงไปในหน้าเว็บไซต์ หรือเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการทำแคมเปญต่างๆ ควรมีการใส่ไว้ให้ชัดเจนที่สุด เพื่อให้การอ่านและทำความเข้าใจจากลูกค้านั้น สามารถอ่านแล้วเข้าใจได้ทันที และสิ่งที่พบส่วนใหญ่คือเนื้อหาภายในมักจะเป็นการเชิญชวนมากกว่าการใส่รายละเอียดของสินค้า ส่งผลให้ลูกค้าไม่เข้าใจ ความไม่น่าเชื่อถือ จึงนำไปสู่ค่า Bounce Rate ที่สูงขึ้น

3.มีการใช้ Call-to-actions มากเกินไป
การมีปุ่ม Call-to-actions จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดยอดขายและผลกำไรที่เพิ่มขึ้น ปิดการขายได้ง่ายขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้การมีปุ่ม Call-to-actions ที่มากเกินไปก็ไม่ได้เกิดผลที่ดีมากขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากอาจทำให้รบกวนการเลือกชม เลือกซื้อสินค้า และอาจะทำให้เกิดการรำคาญใจจนทำให้ปิดเว็บเร็วขึ้น ซึ่งเหล่านี้จึงทำให้มี Bounce Rate ที่สูงมาก

4.การกำหนดกลุ่มเป้าหมายผิด
เพราะการเลือกกลุ่มเป้าหมายให้กับธุรกิจนั้นจะทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ และประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกันถ้าหากเราเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ผิดพลาด หรือมีการวางแผนที่พลาด ก็จะทำให้สิ่งที่วางแผนเอาไว้ล้ม ผิดพลาดและไม่ประสบความสำเร็จ ไม่เป็นที่น่าสนใจอีกด้วย ดังนั้นสิ่งที่เราควรจะทำมากที่สุด คือ การใช้เครื่องมือทดสอบแผนกลยุทธ์ การตั้งกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเป็นการป้องกันการเกิด Bounce rate ที่สูงขึ้น

5.Pop-up แสดงผลตลอดเวลา
เมื่อเว็บไซต์เป็นที่รู้จักและมียอด Traffic ต่อวันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีการทำงานร่วมกับผู้ให้บริการด้านโฆษณาต่างๆ และเว็บไซต์ของเรานั้นต้องแสดงผลโฆษณาแบนเนอร์ รวมไปถึงโฆษณาในรูปแบบ Pop-up อีกด้วย และสิ่งเหล่านี้จึงทำให้รบกวนการใช้งานของลูกค้า ทำให้ค่า Bounce Rate เพิ่มสูงขึ้น

6.เว็บไซต์โหลดช้า
เมื่อเข้าสู่ยุคที่มีอินเทอร์เน็ตติดตัว ความรวดเร็วต่างๆ ก็ต้องคล้อยตามความเร็วของอินเทอร์เน็ตส่งผลให้ สังคมเรานี้กลายเป็นสังคมที่เร่งรีบและไม่ชอบรอ ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เว็บไซต์ของเรานั้นโหลดช้า กว่าจะเข้าสู่แต่ละหน้าต้องรอนานๆ เนื่องจากรูปภาพหรือส่วนประกอบต่างๆ ในเว็บไซต์มีความใหญ่จนต้องทำการโหลดนานขึ้น รวมไปถึงหน้า Landing page และอื่นๆ อีกด้วย สิ่งที่ควรทำคือการตรวจเช็คความเร็วของเว็บไซต์ในการดาวน์โหลด เพื่อนำไปปรับปรุงและแก้ไขให้ตอบสนองกับความต้องการของผู้ใช้งานให้มากที่สุด

6 ข้อข้างต้นนี้คือสิ่งที่ทำให้ Bounce Rate สูงขึ้น และส่งผลเสียต่อเว็บไซต์ อย่าลืมที่จะตรวจสอบเกี่ยวกับเว็บไซต์ รวมไปถึงหน้า Landing Page เพื่อเป็นการตรวจสอบด้วยว่าเว็บไซต์ของเรานั้นมี Bounce Rate อยู่ในระดับใด อีกทั้งยังเป็นการทำให้เว็บไซต์ของเรามีลูกค้าอยู่อย่างยาวนานขึ้น และเป็นการเพิ่มยอดขาย เพิ่มผลกำไร ให้ธุรกิจของเราอยู่ได้นานมากขึ้นอีกด้วย

 

ที่มา : yengobuzz