02 พ.ย. 2566

1010

20  วิธีสร้างรายได้จากเว็บไซต์ by seo-winner.com

20 วิธีสร้างรายได้จากเว็บไซต์

แน่นอนเมื่อเรามีเว็บไซต์เป็นของตัวเองแล้ว เราจะมีโอกาสมากมายที่ไม่มีสิ้นสุดในการเริ่มสร้างรายได้ ฉะนั้นในบทความนี้เราจึงถือโอกาสมาแบ่งปันวิธีสร้างรายได้จากเว็บไซต์ของเรา พร้อมด้วยเคล็ดลับและแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายสำหรับการเริ่มต้นสร้างรายได้จากเว็บไซต์ 

ต่อไปนี้คือ 20 วิธีในการสร้างรายได้จากเว็บไซต์ของเรา 

1. สร้างเนื้อหาวิดีโอบน YouTube: วิธีหนึ่งที่เราสามารถสร้างรายได้จากเนื้อหาวิดีโอคือการอัปโหลดไปยัง YouTube และตั้งค่า Google Adsense อีกทั้งเมื่อเราสร้างเนื้อหาวิดีโอแล้ว เราสามารถฝังวิดีโอ YouTube ลงในบล็อกของเราได้ หากวิดีโอของเราแพร่ระบาด เราสามารถสร้างรายได้จากโฆษณาได้หลายร้อยรายการ

2. ใช้ Skimlinks: Skimlinks จะค่อนข้างคล้ายกับ Awin (และเครือข่ายพันธมิตรอื่นๆ) โดยที่ช่วยให้เราได้รับค่าคอมมิชชันจากการซื้อผ่านลิงก์บนเว็บไซต์ของเรา โดยข้อแตกต่างที่สำคัญคือ นอกจากการอนุญาตให้เราสร้างลิงก์ Affiliate แต่ละลิงก์เมื่อใดก็ได้ที่เราต้องการแล้ว ยังสามารถติดตั้ง Skimlinks บนเว็บไซต์ของเราเพื่อสร้างรายได้จากเนื้อหาของเราโดยอัตโนมัติอีกด้วย

3. บริจาค: หากเป็นไปได้ให้เพิ่มปุ่มบริจาคบนเว็บไซต์ของเรา ตัวอย่างเช่น หากพวกเขาชอบเว็บไซต์ของเรา พวกเขาสามารถสนับสนุนโดยกดที่ปุ่มเช่น อาจจะใช้ปุ่มชื่อว่า (Buy Me A Coffee) ได้หากมี แต่...เรื่องแบบนี้อยู่ที่ดุลพินิจของเจ้าของเว็บนะ 

4. เพิ่มโฆษณาแบนเนอร์: เราสามารถตั้งค่าโฆษณาเครือข่ายได้อย่างง่ายดายโดยใช้ Google Adsense หรือ Media.net โดยคัดลอกการวางโค้ดลงในเว็บไซต์ของเรา เพื่อสร้างโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตล่าสุดของผู้เยี่ยมชม 

5. ใช้โฆษณาลิงก์ข้อความ: โดยการเสนอลิงก์ข้อความพื้นฐานไปยังเว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณา (การโฆษณาเนื้อหา) และเรียกเก็บเงินในอัตราคงที่ต่อเดือน (เช่น 877.44 บาท) หรือเราสามารถเรียกเก็บเงินต่อคลิกได้

6. เผยแพร่บทความระดับพรีเมียม: สมมติว่าเรามีเว็บไซต์เกม และเราสามารถแบ่งปันกลยุทธ์ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักในบทความได้ เราสามารถดึงดูดผู้เยี่ยมชมได้โดยการแบ่งปันเคล็ดลับ จากนั้นเชื่อมโยงไปยังหน้าที่ป้องกันด้วยรหัสผ่าน (นี่คือตัวเลือกภายใน WordPress) เพื่อรับข้อมูลที่มีค่า (พรีเมียม) ที่สุดนั่นเอง

7. ขายให้กับสมาชิกอีเมล: รับบัญชีกับ AWeber ตั้งแต่วันแรกเพื่อดึงดูดผู้ชมของเรา และสื่อสารกับพวกเขาหลังจากที่พวกเขาออกจากไซต์แล้ว จากนั้นเราสามารถส่งอีเมลถึงพวกเขาพร้อมผลิตภัณฑ์แนะนำที่พวกเขาอาจสนใจ (โปรโมชัน Affiliate) และรับค่าคอมมิชชันต่างๆ หากพวกเขาสมัครหรือซื้ออะไรบางอย่าง

8. เผยแพร่โพสต์ที่ได้รับการสนับสนุน: โพสต์ที่ได้รับการสนับสนุน บางครั้งเรียกว่าการโฆษณา เป็นโฆษณาในรูปแบบของบทความ ซึ่งมักจะมีลิงก์เว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณา ซึ่งผู้ลงโฆษณาอาจส่งบทความถึงเรา แต่หากเราสามารถเขียนเนื้อหาให้พวกเขาได้ เราจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเนื่องจากเราสามารถเรียกเก็บเงินค่าเสียเวลาได้เช่นกัน

9. การตลาดแบบพันธมิตร: การเป็นพันธมิตรหมายความว่าเราโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการแก่ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา เพื่อแลกกับการรับค่าคอมมิชชันหากมีการซื้อเกิดขึ้นผ่านลิงก์ของเรา

10. รีวิวสินค้า: แม้ว่าผู้อ่านของเราจะไม่ได้มาจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เรายังคงสามารถเข้ารับการทดสอบผลิตภัณฑ์ได้ ตราบใดที่เรายินดีที่จะเขียนรีวิวผลิตภัณฑ์หลังจากลองใช้แล้ว บริษัทต่างๆ ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งฟรีตามที่เราต้องการ และอาจถึงขั้นจ่ายเงินให้เราด้วย!

11. ขายสินค้าทางกายภาพ: ใช้เว็บไซต์ของเราเป็นฐานในการขายสินค้าทางกายภาพของเราเองด้วย ตัวอย่างเช่น เราสามารถสร้างการออกแบบสำหรับเสื้อยืดหรือแก้ว ซึ่งอาจมีตราสินค้าของเว็บไซต์ของเราด้วยหากเราคิดว่าผู้คนจะซื้อ เรายังสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ทำมือเพื่อขายบน eBay หรือเว็บไซต์อื่นๆ ได้ด้วย

12. รวม directory ธุรกิจ: ตั้งค่าหน้า Directory ธุรกิจ โดยที่บริษัทต่างๆ จ่ายค่าธรรมเนียมให้เราเพื่อให้ธุรกิจของตนอยู่ในรายการ 

13. ขายสินค้าดิจิทัล: eBooks, printables, graphics, templates และ podcasts ล้วนเป็นตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ดิจิทัลที่สามารถช่วยให้เราสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องจากเว็บไซต์ของเรา

14. เพิ่ม Forum สมาชิก: เราสามารถเพิ่ม forum (เฉพาะสมาชิก) ลงในไซต์ของเราโดยใช้ปลั๊กอินฟรี จากนั้นเราสามารถสร้างรายได้จากการสมัครสมาชิกปกติ หรือค่าธรรมเนียมการเข้าถึงแบบครั้งเดียว 

15. สร้างโปรแกรมพันธมิตรของเราเอง: เมื่อเราสร้างผลิตภัณฑ์เว็บไซต์ของเราเอง เช่น หลักสูตรหรือ eBook แล้ว เราสามารถสร้างโปรแกรมพันธมิตรของเราเอง และรับสมัครพันธมิตรเพื่อช่วยกระจายข่าวได้ และไม่เพียงเท่านั้นซึ่งอาจนำไปสู่การขายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นและมีการเข้าชมเว็บไซต์ของเรามากขึ้นอีกด้วยนะ

16. เป็นที่ปรึกษา: เริ่มจากโฆษณาผ่านเว็บไซต์ของเรา และนำเสนอความเชี่ยวชาญของเราผ่านการสัมมนาผ่านเว็บและพอดแคสต์ที่สร้างรายได้ หรือแม้แต่แฮงเอาท์วิดีโอที่ผู้เยี่ยมชมจ่ายเงินล่วงหน้าเพื่อรับประโยชน์จากความรู้ของเรา

17. สร้างเพจ (จ้างฉัน): หากเป็นไปได้ให้ตั้งค่าหน้า "จ้างฉัน" บนไซต์ของเราและเสนอบริการเขียนบล็อกและการเขียนอิสระเพื่อเริ่มต้น ซึ่งหากเรามีบทบาทมากขึ้นในการตั้งค่าส่วนต่างๆ ของเว็บไซต์ของเรา ทำไมไม่โฆษณาบริการของเราในฐานะนักพัฒนาด้วยละ?

18. สร้างหลักสูตรออนไลน์: หากเป็นไปได้หรือมีความสามารถเฉพาะทาง เราสามารถสร้างหลักสูตรออนไลน์เป็นส่วนเสริมสำหรับเว็บไซต์ของเรา ฉะนั้นนี่จึงเป็นเนื้อหาพรีเมียมแบบชำระเงินอีกประเภทหนึ่ง ที่ผู้เยี่ยมชมจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมนั่นเอง 

19. สร้างเพจร้านค้า Amazon: เราสามารถเพิ่มหน้าร้านค้า Amazon แยกต่างหากลงในเว็บไซต์ของเราได้อย่างง่ายดาย และหากผู้คนเห็นว่าเราเป็นผู้มีอำนาจในหัวข้อของเรา พวกเขาจะรับฟังคำแนะนำของเรา เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ควรลองใช้ที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา  

20. ขายเว็บไซต์ของเรา: เมื่อเรามีเว็บไซต์ที่สร้างรายได้และมีปริมาณการเข้าชมที่ดีอยู่แล้ว เราจะมีทรัพย์สิน เช่นเดียวกับสินทรัพย์ใดๆ เว็บไซต์ของเราก็สามารถขายได้ โดยคาดว่าจะได้รับกำไรประจำปีของเว็บไซต์ของเรา 2 ถึง 3 เท่าหากเราตัดสินใจขาย

อย่างไรก็ตาม หากอยากมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี ได้ที่นี่

# การออกแบบเว็บไซต์

# การพัฒนา WEB APPLICATION

# การพัฒนา MOBILE APPLICATION

 


 

---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ

ข้อมูลจาก: savethestudent

 

 

 

บทความ

ทำความรู้จักกับ Web Crawler

ทำความรู้จักกับ Web Crawler

Web Crawler หรือที่บางครั้งเรียกว่า Spider, Bot คือโปรแกรมหรือสคริปต์ที่ใช้ในการท่องเว็บและดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ โดยการเยี่ยมชมหน้าเว็บแล้วเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อการประมวลผลต่อไป ... อ่านเพิ่มเติม

ทำความรู้จักกับ XML Sitemap

ทำความรู้จักกับ XML Sitemap

XML Sitemap หรือ แผนผังเว็บไซต์ในรูปแบบ XML คือ ไฟล์ในรูปแบบ XML ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับหน้าเว็บทั้งหมดภายในเว็บไซต์ โดยแสดงโครงสร้างและลำดับการจัดเรียงของเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์ ... อ่านเพิ่มเติม

Robots.txt คืออะไร

Robots.txt คืออะไร

Robots.txt เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยควบคุมการเข้าถึงของ search engine bots ซึ่งช่วยในการจัดการ Crawl Budget, ป้องกันไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ต้องการถูกดัชนี, และช่วยในการป้องกันการสำรวจเนื้อหาที่ซ้ำซ้อน ... อ่านเพิ่มเติม

เหตุผลที่ WordPress ต้องใช้ Web Hosting

เหตุผลที่ WordPress ต้องใช้ Web Hosting

WordPress ต้องใช้ Web Hosting เพราะ Web Hosting เป็นที่ที่เก็บไฟล์และข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ รวมถึงทำให้เว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้บนอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไม Dwell Time ถึงสำคัญสำหรับ SEO

ทำไม Dwell Time ถึงสำคัญสำหรับ SEO

Dwell Time เป็นหนึ่งในปัจจัยที่บ่งบอกถึงความพึงพอใจของผู้ใช้และคุณภาพของเนื้อหาในเว็บไซต์ การเพิ่ม Dwell Time จึงเป็นวิธีที่ช่วยปรับปรุง SEO และผลการจัดอันดับของเว็บไซต์ในเครื่องมือค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

Traditional SEO คืออะไร

Traditional SEO คืออะไร

Traditional SEO เป็นกระบวนการที่ใช้เทคนิคและกลยุทธ์ต่างๆ ในการปรับปรุงอันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา โดยการปรับแต่งทั้งด้านในและด้านนอกของเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและความน่าเชื่อถือให้กับเครื่องมือค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

อัตราการแปลง (Conversion Rate)

อัตราการแปลง (Conversion Rate)

อัตราการแปลง (Conversion Rate) ใน SEO เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดความสำเร็จของเว็บไซต์ในการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้าหรือผู้ที่ดำเนินการตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ... อ่านเพิ่มเติม

Impressions คืออะไร

Impressions คืออะไร

Impressions คือการวัดการแสดงผลของเนื้อหาหรือโฆษณาบนหน้าจอของผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้เข้าใจถึงการเข้าถึงและการมองเห็นแบรนด์หรือเนื้อหาของเราในตลาด ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Page Speed

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Page Speed

Page Speed เป็นสิ่งที่สำคัญทั้งในการเพิ่มประสิทธิภาพ SEO และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน เว็บไซต์ที่โหลดเร็วจะช่วยให้ผู้ใช้มีความสุขในการใช้งาน ทำให้โอกาสในการทำอันดับในผลการค้นหาดีขึ้น ... อ่านเพิ่มเติม