ทุกครั้งที่มีการลงมือทำธุรกิจ เราจำเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับกลุ่มของผู้บริโภคให้มากที่สุด เพื่อเป็นการนำข้อมูลมาวิเคราะห์และปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจของเรามากขึ้น และสิ่งจำเป็นที่นักการตลาดต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริโภคก็เพื่อที่จะได้นำไปปรับปรุงและพัฒนาให้เข้ากับรูปแบบของสินค้าและบริการของเรา อีกทั้งยังเป็นการสื่อสารกับลูกค้าเพื่อเข้าใจถึงความต้องการมากที่สุด และ 3 ข้อต่อไปนี้คือสิ่งที่นักการตลาดต้องรู้ไว้เกี่ยวกับผู้บริโภค

1.ลูกค้าไม่เคยอยากได้สินค้าของเรา
อาจจะเคยได้ยินประโยคที่ว่า ผู้บริโภคไม่ได้อยากได้สว่าน แต่เขาอยากได้รู จึงต้องซื้อสว่านเพื่อมาเจาะรู ไม่ได้อยากได้เสื้อผ้า แต่อยากได้ความสวยงาม ความเด่น หรือว่ารู้สึกอยากดูดีเป็นต้น ข้อความเหล่านั้นสะท้อนให้เห็นว่าสิ่งที่ลูกค้าอยากได้นั่นก็คือประโยชน์จากสินค้า และตอบสนองความต้องการในการใช้งานมากที่สุด ดังนั้นสิ่งที่แบรนด์ของเราต้องทำไม่ใช่การบอกว่าแบรนด์ของเรานั้นดีอย่างไร แต่ต้องแสดงให้เห็นด้วยว่าสินค้าของเรานั้นจะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค มีประโยชน์อย่างไรบ้าง และต้องทำให้รู้สึกว่าได้รับการแก้ปัญหาด้วยสิ่งที่ดีกว่า

2.ลูกค้าต้องการคำแนะนำ
ในบางครั้งลูกค้าบางคนก็ไม่ได้มีข้อมูลแน่นปึ๊ก ก่อนที่จะทำการเลือกซื้อสินค้า การได้รับคำแนะนำจากพนักงานขาย หรือการได้รับคำตอบบางอย่างก็อาจจะช่วยให้ตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกสินค้าแต่ละชิ้นได้ง่ายขึ้น สำหรับคำแนะนำที่ลูกค้าต้องการนั้นไม่ใช่คำแนะนำที่วกเข้าเรื่องการขาย หรือเชียร์แต่ผลิตภัณฑ์ของเราเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการคำแนะนำที่มาจากใจจริงและให้หน้าที่ในการตัดสินใจซื้อเป็นของผู้บริโภคเอง และอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้บริโภคมักจะอยากรู้คือ คนอื่นนั้นเลือกอะไร ซื้อสินค้าอะไร สิ่งนี้คือกฏทางจิตวิทยาที่เรียกว่า Social Proof ที่บริโภคนั้นกลัวความผิดพลาด จึงต้องการที่จะอยากรู้ว่าคนอื่นๆ นั้นเลือกอะไร และทำตามเพื่อให้รู้สึกว่าปลอดภัยกว่าการที่จะเลือกเสี่ยงกับสิ่งใหม่

3.ความสม่ำเสมอและทันสมัย
สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการนั้นคือความสม่ำเสมอจากแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นการดูแล บริการหลังการขาย หรือแม้แต่คุณภาพของสินค้า ไม่ใช่การทำดีเพียงต่อหน้าเพื่อหวังว่าจะขายสินค้าให้กับผู้บริโภคและหลับหลังนั้นเอาข้อมูลของเราไปต่อว่ากันอย่างเสียหาย หรือเมื่อซื้อสินค้าและจ่ายเงินแล้วกลับไม่สนใจใยดี สิ่งนี้จะทำให้ผู้บริโภครู้สึกแย่และจะไม่กลับมาเป็นลูกค้าของเราอีกครั้งก็เป็นได้ สิ่งเล็กน้อยที่ไม่เล็กเหล่านี้เองเชื่อหรือไม่ว่าจะทำให้ลูกค้านั้นประทับใจ และสามารถจงรักภักดีต่อแบรนด์ของเราได้อย่างยาวนาน อีกทั้งแจ็คพ็อตคือการถูกแนะนำและบอกต่อกันไปจากลูกค้ารายเก่าได้อีกด้วย และนอกจากการคงคุณภาพควรจะมีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ให้มีความน่าสนใจและตื่นเต้นอยู่เสมอ จะทำให้รู้สึกแบรนด์ของเรานั้นมีความพัฒนา ไม่หยุดอยู่กับที่ และพร้อมที่จะก้าวให้ทันยุคสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

สิ่งเหล่านี้คือ 3 ข้อที่นักการตลาดควรจะนำไปพัฒนา ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับธุรกิจ การเข้าใจและทำตามความต้องการของลูกค้าจะช่วยให้ธุรกิจของเรานั้นสามารถก้าวหน้าและเดินหน้าต่อไปได้ อีกทั้งยังทำให้ธุรกิจของเรานั้นอยู่ในใจของลูกค้าได้ตราบนานเท่านั้น

 

 

 

ที่มา : marketingoops