25 ธ.ค. 2560

3330

5 เทคนิคลงโฆษณาบน Facebook ให้ได้ผล by seo-winner.com

5 เทคนิคลงโฆษณาบน Facebook ให้ได้ผล


นอกจากการทำให้การขายของออนไลน์ของเราประสบความสำเร็จแล้ว ในปัจจุบันนี้การทำการค้าขายทางออนไลน์ก็มีช่องทางที่หลากหลายมากขึ้น เมื่อเรามีช่องทางออนไลน์ที่เอาไว้ติดต่อสื่อสารกันหลากหลายเท่าไหร่ ก็ไม่แปลกที่การติดต่อซื้อขายทางออนไลน์จะปรับตัวเข้าไปอยู่ในทุกๆ โซเชียลที่เราได้ใช้งานอยู่เช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่น Facebook ที่เรียกได้ว่าสามารถครองใจผู้ใช้งานส่วนใหญ่ได้เกือบทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีบัญชีการใช้งานที่สูงเพิ่มมากขึ้นจากปีที่แล้วเป็นเท่าตัว จากสิ่งนี้ก็สามารถทำให้เราเห็นได้ว่าคนไทยได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาในชีวิตประจำวันแล้ว ดังนั้นการใช้ Facebook เป็นช่องทางในการขายของออนไลน์นั้นก็มีความน่าสนใจและมีความเป็นได้สูงว่าจะมีผู้เข้ามาซื้อขายด้วยเป็นจำนวนมากเช่นกัน

สำหรับการลงโฆษณาใน Facebook ให้ประสบความสำเร็จก็ประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่าง และปัจจัยหลักที่มีผลต่อการโฆษณานั้นมีอยู่ 5 ข้อหลักๆ โดยจะเป็นปัจจัยีท่เกี่ยวกับอะไรบ้างนั้น มีดังต่อไปนี้

1.การเลือกรูปภาพให้โดนใจ
โลกออนไลน์และโลกแห่งโซเชียลนี้เองที่ให้ความสำคัญกับรูปภาพมากเป็นอันดับ 1 เพราะรูปภาพนั้นเป็นตัวสำคัญที่ให้คนให้ความสนใจ รูปภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับ 1 เช่นกันในการลงโฆษณาบน Facebook เนื่องจากเป็นสิ่งแรกที่ทำให้คนสะดุดตาและสนใจโฆษณาของเรา เพราะด้วยจิตวิทยาของคนส่วนใหญ่นั้นมักจะมองรูปภาพเพียงแค่เสี้ยววินาที โดยไม่ได้สนใจรายละเอียดเนื้อหาของโฆษณา ดังนั้นถ้าหากรูปภาพมีความดึงดูดใจก็จะมีโอกาสสูงที่จะทำให้โฆษณานั้นประสบความสำเร็จเช่นกัน และตรงกันข้าม ถ้ารูปภาพนั้นไม่มีความน่าสนใจ โฆษณาของเราก็จะได้รับเพียงแค่การมองที่ผ่านมาและผ่านไป

ยกตัวอย่าง การขายเครื่องสำอาง ครีม หรือของใช้เกี่ยวกับความงามต่างๆ ดังนั้นรูปภาพจะต้องทำให้ลูกค้าสามารถจินตนาการได้ว่า ใช้สินค้าแล้วเกิดเป็นผลลัพธ์อย่างไรบ้าง ในแว๊บแรกที่เห็นนั้นสิ่งที่อยากรู้คงไม่ใช่ส่วนผสม แต่จะเป็นผลลัพธ์มากกว่าว่าประโยชน์จากการใช้นั้นคืออะไร เราจึงต้องสื่อสารสิ่งเหล่านี้ออกมาเพื่อให้ลูกค้าได้เห็นและสะดุดตามากที่สุด ส่วนรูปแบบการโฆษณาจะทำอย่างไรนั้นก็คงต้องแล้วแต่ไอเดียของเจ้าของผลิตภัณฑ์นั่นเอง

2.เลือกรูปแบบโฆษณาให้ถูกและเหมาะสม
หลายคนนั้นพลาดตั้งแต่เริ่มต้นลงโฆษณาบน Facebook เพราะว่าเลือกรูปแบบโฆษณาผิด ส่วนการโฆษณาบน Facebook นั้นไม่จำเป็นต้องทำตาม Facebook หรือเชื่อตลอด เช่น การลงโฆษณาแบบ Click to Website คนส่วนใหญ่มักจะเลือกลงโฆษณาแบบนี้เพราะว่า เพื่อให้คนสามารถเข้าไปคลิกที่เว็บไซต์ได้เลย ตามชื่อที่บอกว่าคลิกไปที่เว็บไซต์ และใครที่เคยลงจะทราบว่าไม่คุ้มค่าและแพงไป บางธุรกิจก็เจ๊งไปแล้วด้วย แต่ไม่ใชว่าลงโฆษณาแบบนี้แล้วไม่ได้ผล เพียงแต่เงินที่เราใส่ลงไปนั้นต้องเยอะมากพอสมควร หากใส่เงินโฆษณาลงไปเพียงแค่ 100-1000 ก็เหมือนกับเอาเงินไปทิ้งโดยที่ไม่มีประโยชน์อะไร 

สำหรับโฆษณาที่ได้ผลจริงบน Facebook นั้นอาจจะเป็น Page Post Engagement เพราะสามารถมองเห็นได้ แม้จะเพียงแค่ผ่านตา แต่ก็มีโอกาสที่จะเป็นจุดสนใจต่อผู้ที่พบเจอ เพราะการลงโฆษณาแบบPage Post Engagement นั้นก็สามารถโพสต์บนแฟนเพจและสามารถลิงก์มาที่เว็บไซต์ได้ และรูปภาพก็มีขนาดใหญ่ไม่ต่างกับโฆษณาแบบ Click to Website และที่สำคัญช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย

3.เลือกกลุ่มเป้าหมายให้แคบลง
แน่นอนว่าเมื่อลงทุนโฆษณาไป เราก็ต้องอยากได้ผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล เช่นการลงทุนเงินไป 300 บาท และหวังผลลัพธ์ที่เกินตัว ต้องการให้คนเห็นโฆษณา 1,000,000 คน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว อาจลดลงให้เหลือสัก 50,000 คน หรือว่าน้อยกว่านั้นก็จะยิ่งดี และในขณะเดียวกันอาจจะต้องเลือกกลุ่มเป้าหมายและกำหนดเงินให้เหมาะสมเพื่อให้โฆษณาที่เราได้ทำการลงไปนั้นเกิดผลลัพธ์สูงสุด 

ตัวอย่างเช่น มีผู้ประกอบการท่านหนึ่งจะลงโฆษณา Facebook ด้วยเงิน 7 ล้านบาท โดยให้ Facebook รันโฆษณา 6 เดือน โดยเฉลี่ยต่อเดือนถือว่าเยอะพอสมควร ในส่วนนี้ก็ถือว่ามากเกินไป เพราะลงโฆษณาไป Facebook ก็ไม่รันให้ เพราะว่าเหมือนเป็นการลงโฆษณาที่ไม่มีหลักการอะไรที่แท้จริง

4.ลงโฆษณาให้ดีไม่ควรเกิน 3 วัน
เพราะว่าหลายคนนั้นจะไม่ชอบลงโฆษณาทุกวัน มักจะรันให้เสร็จทีละแคมเปญแล้วค่อยสร้างใหม่ แล้วก็วนลูปเดิม เหมือนเดิม แล้วรันยาวๆ แต่การลงโฆษณาที่ดีนั้นอาจจะต้องดูตั้งแต่วันแรกที่ลง เพราะหากไม่เปรี้ยงตั้งแต่วันแรกก็ให้ลงใหม่ เพราะไม่อย่างนั้นก็จะเปล่าประโยชน์ และโฆษณา Facebook จะรันดีที่สุดไม่เกิน 3 วัน เกินจากนี้โฆษณาจะทิ่มหัวลงและกินเงินค่าโฆษณาเท่าเดิม และได้ลูกค้าน้อยลงอีกด้วย หรืออีกอย่างหนึ่งคือโฆษณาของเรานั้นได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เกิดเป็นกระแส มีการ Like และ Share อย่างมากมาย ถ้าหากเป็นเช่นนี้ก็สามารถรันต่อไปยาวๆ ได้ ถ้าหากกระแสเริ่มเงียบก็เตรียมปิดและตั้งแคมเปญใหม่ดีกว่า

5.อย่าเน้นขายของเพียงอย่างเดียว
มีอยู่ทั่วไปและมีอยู่อย่างมากมายที่ทำการลงโฆษณาเพียงอย่างเดียวและไม่ได้สนใจว่าจะมีสิ่งอื่นที่น่าสนใจหรือไม่ แต่การลงโฆษณาที่แนบความรู้ หรือบทความอื่นที่น่าสนใจเข้าไปด้วยจะทำให้ตัวสินค้าเรามีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า การทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ว่าเรามีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับทางด้านสินค้า สามารถให้คำแนะนำกับลูกค้าได้ สามารถตอบคำถามที่ข้องใจได้ และสิ่งที่สำคัญนั่นก็คือสามารถทำให้ลูกค้าไว้ใจ วางใจ เปรียบเสมือนว่าเราคือเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง ไม่ใช่คอยแต่จะฉกฉวยโอกาสในการขายสินค้าอยู่ตลอดเวลา และเมื่อลูกค้าประทับใจและเกิดการจดจำเราได้ในภาพลักษณ์ที่ดี ก็จะช่วยส่งเสริมให้แบรนด์ของเราติดตลาดและมีลูกค้าเพิ่มขึ้นตามลำดับนั่นเอง







ที่มา : buddybuy

บทความ

ทำความรู้จักกับ Web Crawler

ทำความรู้จักกับ Web Crawler

Web Crawler หรือที่บางครั้งเรียกว่า Spider, Bot คือโปรแกรมหรือสคริปต์ที่ใช้ในการท่องเว็บและดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ โดยการเยี่ยมชมหน้าเว็บแล้วเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อการประมวลผลต่อไป ... อ่านเพิ่มเติม

ทำความรู้จักกับ XML Sitemap

ทำความรู้จักกับ XML Sitemap

XML Sitemap หรือ แผนผังเว็บไซต์ในรูปแบบ XML คือ ไฟล์ในรูปแบบ XML ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับหน้าเว็บทั้งหมดภายในเว็บไซต์ โดยแสดงโครงสร้างและลำดับการจัดเรียงของเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์ ... อ่านเพิ่มเติม

Robots.txt คืออะไร

Robots.txt คืออะไร

Robots.txt เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยควบคุมการเข้าถึงของ search engine bots ซึ่งช่วยในการจัดการ Crawl Budget, ป้องกันไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ต้องการถูกดัชนี, และช่วยในการป้องกันการสำรวจเนื้อหาที่ซ้ำซ้อน ... อ่านเพิ่มเติม

เหตุผลที่ WordPress ต้องใช้ Web Hosting

เหตุผลที่ WordPress ต้องใช้ Web Hosting

WordPress ต้องใช้ Web Hosting เพราะ Web Hosting เป็นที่ที่เก็บไฟล์และข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ รวมถึงทำให้เว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้บนอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไม Dwell Time ถึงสำคัญสำหรับ SEO

ทำไม Dwell Time ถึงสำคัญสำหรับ SEO

Dwell Time เป็นหนึ่งในปัจจัยที่บ่งบอกถึงความพึงพอใจของผู้ใช้และคุณภาพของเนื้อหาในเว็บไซต์ การเพิ่ม Dwell Time จึงเป็นวิธีที่ช่วยปรับปรุง SEO และผลการจัดอันดับของเว็บไซต์ในเครื่องมือค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

Traditional SEO คืออะไร

Traditional SEO คืออะไร

Traditional SEO เป็นกระบวนการที่ใช้เทคนิคและกลยุทธ์ต่างๆ ในการปรับปรุงอันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา โดยการปรับแต่งทั้งด้านในและด้านนอกของเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและความน่าเชื่อถือให้กับเครื่องมือค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

อัตราการแปลง (Conversion Rate)

อัตราการแปลง (Conversion Rate)

อัตราการแปลง (Conversion Rate) ใน SEO เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดความสำเร็จของเว็บไซต์ในการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้าหรือผู้ที่ดำเนินการตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ... อ่านเพิ่มเติม

Impressions คืออะไร

Impressions คืออะไร

Impressions คือการวัดการแสดงผลของเนื้อหาหรือโฆษณาบนหน้าจอของผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้เข้าใจถึงการเข้าถึงและการมองเห็นแบรนด์หรือเนื้อหาของเราในตลาด ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Page Speed

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Page Speed

Page Speed เป็นสิ่งที่สำคัญทั้งในการเพิ่มประสิทธิภาพ SEO และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน เว็บไซต์ที่โหลดเร็วจะช่วยให้ผู้ใช้มีความสุขในการใช้งาน ทำให้โอกาสในการทำอันดับในผลการค้นหาดีขึ้น ... อ่านเพิ่มเติม