18 พ.ค. 2566

1240

79 สถิติ SEO ประจำปี 2566  by seo-winner.com

79 สถิติ SEO ประจำปี 2566

หลังจากเข้าสู่ปี 2023 เป็นเวลาได้หลายเดือนเข้าไปแล้ว ฉะนั้นในบทความนี้เราจึงได้นำ "79 สถิติ SEO ประจำปี 2023" มาฝาก สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับสถานะของ SEO ในปี 2023 

เพื่อเป็นกรณีศึกษา และเป็นข้อมูลในการนำไปปรับใช้ในการทำ SEO ของท่านต่อไป ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์ AHREFS กันเลยครับ

Top SEO statistics (สถิติ SEO ยอดนิยม) :

1. SEO ขับเคลื่อนการเข้าชมมากกว่า 1,000%+ มากกว่าโซเชียลมีเดียทั่วไป (BrightEdge)

2. 92.96% ของการเข้าชมทั่วโลกมาจาก Google Search, Google รูปภาพ และ Google Maps (SparkToro)

3. 68% ของประสบการณ์ออนไลน์เริ่มต้นด้วยเครื่องมือค้นหา(BrightEdge)

4. 60% ของนักการตลาดกล่าวว่าขาเข้า (SEO, เนื้อหาบล็อก ฯลฯ) คือแหล่งที่มาของโอกาสในการขายที่มีคุณภาพสูงสุด (HubSpot)

5. 53.3% ของการเข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมดมาจากการค้นหาทั่วไป(BrightEdge)

6. ลูกค้าเป้าหมาย SEO มีอัตราการปิด 14.6% (HubSpot)

7. 0.63% ของผู้ค้นหา Google คลิกผลการค้นหาจากหน้าที่ 2 (Backlinko)

Ranking statistics (สถิติการจัดอันดับ) : 

1. 90.63% ของหน้าเว็บไม่ได้รับปริมาณการค้นหาทั่วไปจาก Google (Ahrefs)

2. หน้าที่มีอันดับสูงสุดได้รับปริมาณการค้นหามากที่สุดเพียง 49% ของเวลาทั้งหมด (Ahrefs)

3. มีหน้าเว็บเพียง 5.7% เท่านั้นที่จะติดอันดับผลการค้นหา 10 อันดับแรกภายในหนึ่งปีที่เผยแพร่ (Ahrefs)

4. 7.4% ของหน้าที่ติดอันดับไม่มีแท็กชื่อ (Ahrefs)

5. Google เขียนแท็กชื่อใหม่ 33.4% ของเวลาทั้งหมด (Ahrefs)

6. Google มีแนวโน้มที่จะเขียนแท็กชื่อซ้ำมากขึ้น 33% (Ahrefs)

7. เมื่อ Google ละเว้นแท็กชื่อ จะใช้แท็ก H1 50.76% แทน (Ahrefs)

8. Google มีโอกาสมากกว่า 57% ที่จะเขียนแท็กชื่อใหม่ที่ยาวเกินไป (Ahrefs)

9. 25.02% ของหน้าอันดับสูงสุดไม่มีคำอธิบายเมตา (Ahrefs)

10. 40.61% ของหน้ามีคำอธิบายเมตาที่ตัดทอน (Ahrefs)

11. Google แสดงคำอธิบายเมตาในผลการค้นหาเพียง 37.22% ของเวลาทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 40.35% สำหรับคำหลักที่มีหัวอ้วน และลดลงเป็น 34.38% สำหรับคำหลักที่มีหางยาว (Ahrefs)

12. หน้าที่มีอันดับสูงสุดโดยเฉลี่ยยังติดอันดับ 1 ในผลการค้นหา 10 อันดับแรกสำหรับคำหลักอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเกือบ 1,000 คำ (Ahrefs)

13. หน้าเฉลี่ยใน 10 อันดับแรกมีอายุ 2 ปีขึ้นไป (Ahrefs)

14. 33% ของเว็บไซต์ผ่านเกณฑ์ Core Web Vitals (Ahrefs)

voice search statistics (สถิติการค้นหาด้วยเสียง) : 

1. 48% ของผู้บริโภคใช้เสียงในการ "ค้นหาเว็บทั่วไป" (Search Engine Land)

2. ผลการค้นหาด้วยเสียงประมาณ 75% จัดอยู่ในสามอันดับแรกสำหรับข้อความค้นหาที่เกี่ยวข้อง (Backlinko)

3. ผลการค้นหาด้วยเสียงโดยเฉลี่ยมีระดับการอ่านเกรด 9 (Backlinko)

4. ผลการค้นหาด้วยเสียงโดยทั่วไปมีความยาวเพียง 29 คำ (Backlinko)

5. 40.7% ของคำตอบในการค้นหาด้วยเสียงทั้งหมดมาจากตัวอย่างข้อมูลเด่น (Backlinko)

6. เว็บไซต์ที่มี "สิทธิ์ในการเชื่อมโยง" ที่แข็งแกร่งมักจะได้รับการจัดอันดับที่ดีในการค้นหาด้วยเสียง ในความเป็นจริง คะแนนโดเมนเฉลี่ยของผลลัพธ์หน้าแรกของ Google คือ 76.8 (Backlinko)

Video SEO statistics (สถิติวิดีโอ SEO) : 

1. 68.2% ของผลลัพธ์หน้าแรกของ YouTube เป็นวิดีโอ HD (Backlinko)

2. ความยาวเฉลี่ยของวิดีโอ YouTube หน้าแรกคือ 14 นาที 50 วินาที (Backlinko)

3. จำนวนความคิดเห็น การดู การแชร์ และ "ไลค์" มีความสัมพันธ์อย่างมากกับอันดับ YouTube ที่สูงขึ้น (Backlinko)

Mobile SEO statistics (สถิติ SEO บนมือถือ) : 

1. 56% ของผู้ซื้อในร้านค้าใช้สมาร์ทโฟนเพื่อเลือกซื้อหรือค้นหาสินค้าในขณะที่อยู่ในร้าน (Think With Google)

2. โดยเฉลี่ยแล้ว อันดับที่ 1 บนมือถือทำให้คุณได้รับคลิก 6.74% ในขณะที่อันดับที่ 1 บนเดสก์ท็อปทำให้คุณได้รับคลิก 8.17% (SEOClarity)

3. 18% ของการค้นหาในท้องถิ่นบนสมาร์ทโฟนนำไปสู่การซื้อภายในหนึ่งวัน เทียบกับ 7% ของการค้นหาที่ไม่ใช่ในท้องถิ่น (Think With Google)

4. 51% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนได้ค้นพบบริษัทหรือผลิตภัณฑ์ใหม่เมื่อทำการค้นหาบนสมาร์ทโฟนของตน (Think With Google)

5. มีการค้นหาบนมือถือมากกว่าบนเดสก์ท็อป (Think With Google)

6. ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 72.6% จะเข้าถึงเว็บผ่านสมาร์ทโฟนเพียงอย่างเดียวภายในปี 2568 (CNBC)

7. 58.99% ของการเข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมดทั่วโลกมาจากโทรศัพท์มือถือ (Statista)

Backlink statistics (สถิติลิงก์ย้อนกลับ) : 

1. 0.44% ของลิงก์ใช้ "rel=ugc" และ 0.01% ใช้ rel="ผู้สนับสนุน" (Ahrefs)

2. 10.6% ของลิงก์ย้อนกลับทั้งหมดไปยังเว็บไซต์ 110,000 อันดับแรกนั้นไม่ติดตาม (Ahrefs)

3. 66.5% ของลิงค์ไปยังเว็บไซต์ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมานั้นตายไปแล้ว (Ahrefs)

4. 43.7% ของหน้าเว็บที่มีอันดับสูงสุดมีลิงก์ซึ่งกันและกัน (Ahrefs)

5. 73.6% ของโดเมนมีลิงก์ซึ่งกันและกัน หมายความว่าบางเว็บไซต์ที่พวกเขาลิงก์ไปยังลิงก์เหล่านั้นด้วย (Ahrefs)

6. ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการเผยแพร่โพสต์ของแขกรับเชิญคือ 77.80 ดอลลาร์ (Ahrefs)

7. ต้นทุนเฉลี่ยในการซื้อลิงก์คือ 361.44 ดอลลาร์ (Ahrefs)

8. โดยทั่วไป ยิ่งเพจมีลิงก์ย้อนกลับมากเท่าใด การเข้าชมแบบออร์แกนิกก็ยิ่งได้รับจาก Google มากขึ้นเท่านั้น (Ahrefs)

9. หน้าเว็บที่มีอันดับสูงสุดส่วนใหญ่จะได้รับลิงก์ย้อนกลับที่ "ติดตาม" จากเว็บไซต์ใหม่ในอัตรา +5%-14.5% ต่อเดือน (Ahrefs)

10. 66.31% ของเพจไม่มีลิงก์ย้อนกลับ (Ahrefs)

Local SEO statistics (สถิติ SEO ท้องถิ่น) : 

1. การค้นหาบนมือถือด้วยคำว่า “ลดราคา” + “ใกล้ฉัน” (เช่น “ยางลดราคาใกล้ฉัน”) เติบโตขึ้นกว่า 250% YOY จากปี 2017 ถึง 2019 (Think With Google)

2. การค้นหาบนมือถือสำหรับ “ร้านค้าเปิดใกล้ฉัน” (เช่น “ร้านขายของชำเปิดใกล้ฉัน”) เพิ่มขึ้นกว่า 250% ในช่วงปี 2017 ถึง 2019 (Think With Google)

3. ข้อความค้นหาบนมือถือ “ซื้อได้ที่ไหน” + “ใกล้ฉัน” เพิ่มขึ้นกว่า 200% จากปี 2017 เป็น 2019 (Think With Google)

4. ประมาณ 45% ของนักช้อปทั่วโลกซื้อทางออนไลน์แล้วไปรับที่ร้าน (Think With Google)

5. ผู้ใช้สมาร์ทโฟน 54% ค้นหาเวลาทำการ และ 53% ค้นหาเส้นทางไปยังร้านค้าในพื้นที่ (Think With Google)

6. Yelp ปรากฏในผลการค้นหาห้าอันดับแรกสำหรับ 92% ของข้อความค้นหาบนเว็บของ Google ซึ่งรวมถึงเมืองและหมวดหมู่ธุรกิจ (Fresh Chalk)

7. 28% ของการค้นหาสิ่งที่อยู่ใกล้เคียงทำให้เกิดการซื้อ (Think With Google)

8. 76% ของผู้ที่ค้นหาสิ่งที่อยู่ใกล้เคียงบนสมาร์ทโฟนของพวกเขาจะไปที่ธุรกิจภายในหนึ่งวัน (Think With Google)

9. 30% ของการค้นหาบนมือถือทั้งหมดเกี่ยวข้องกับสถานที่ (Think With Google)

Keyword statistics (สถิติคำหลัก) : 

1. 46.08% ของการคลิกใน Google Search Console ไปที่คำที่ซ่อนอยู่ (Ahrefs)

2.เครื่องมือวางแผนคำหลักของ Google Ads ประเมินปริมาณการค้นหาสูงเกินจริง 54.28% ของเวลาทั้งหมด และแม่นยำโดยประมาณ 45.22% ของเวลาทั้งหมด (Ahrefs)

3. 91.45% ของปริมาณการค้นหาในเครื่องมือวางแผนคำหลักของ Google Ads เป็นค่าที่ประเมินไว้สูงเกินไป (Ahrefs)

4. 15% ของการค้นหาทั้งหมดบน Google ไม่เคยถูกค้นหามาก่อน (Google)

5. ประมาณ 8% ของข้อความค้นหาใช้วลีเป็นคำถาม (Moz)

6. 0.0008% ของคำหลักได้รับการค้นหามากกว่า 100,000 ครั้งต่อเดือน (Ahrefs)

7. 94.74% ของคำหลักได้รับการค้นหา 10 ครั้งต่อเดือนหรือน้อยกว่า (Ahrefs)

Search engine statistics (สถิติของเครื่องมือค้นหา) : 

1. Google คิดเป็นประมาณ 83% ของตลาดการค้นหาทั่วโลก (Statista)

2. การค้นหาบนเดสก์ท็อป 61.5% และการค้นหาบนมือถือ 34.4% ทำให้ไม่มีการคลิก (SparkToro)

3. 39% ของผู้ซื้อได้รับอิทธิพลจากการค้นหาที่เกี่ยวข้อง (Think With Google)

4. มีการค้นหาประมาณ 3.5 พันล้านครั้งบน Google ในแต่ละวัน (Internet Live Stats)

5. ผลการค้นหา Google สามอันดับแรกได้รับ 54.4% ของการคลิกทั้งหมด (Backlinko)

6. ผลลัพธ์อันดับ 1 ในผลการค้นหาทั่วไปของ Google มี CTR เฉลี่ย 27.6% (Backlinko)

7. 12.29% ของข้อความค้นหามีตัวอย่างข้อมูลแนะนำในผลการค้นหา (Ahrefs)

SEO industry statistics (สถิติอุตสาหกรรม SEO) : 

1. เงินเดือนเฉลี่ยสำหรับมืออาชีพด้าน SEO ในสหรัฐอเมริกาคือ 60,548 ดอลลาร์ต่อปี (Backlinko)

2. โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ที่ให้บริการในท้องถิ่นมีรายได้ $93.89/ชั่วโมง ในขณะที่ผู้ให้บริการในตลาดทั่วโลกมีรายได้ $106.69/ชั่วโมง (Ahrefs)

3. $73.05 เป็นอัตราเฉลี่ยต่อชั่วโมงสำหรับ SEO ที่อยู่ในธุรกิจมาสองปีหรือน้อยกว่า ซึ่งจะกระโดดไปที่ $97.11 สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจมาแล้ว 2–4 ปี, $102.03 สำหรับ 5–10 ปี และ $118.35 สำหรับ 10 ปีขึ้นไป (Ahrefs)

4. เอเจนซี่และที่ปรึกษาคิดค่าใช้จ่ายมากกว่าฟรีแลนซ์อย่างเห็นได้ชัด (Ahrefs)

5. SEO น้อยกว่า 1 ใน 10 (9.9%) คิดค่าใช้จ่ายมากกว่า $150/ชั่วโมง (Ahrefs)

6. สำหรับราคาต่อโครงการ $2501–$5,000 เป็นระดับราคาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด (Ahrefs)

7. สำหรับการกำหนดราคารายชั่วโมง $75–$100 ต่อชั่วโมงเป็นระดับราคาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด (Ahrefs)

8. สำหรับผู้ดูแลรายเดือน $501–$1,000 ต่อเดือนเป็นระดับราคาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด (Ahrefs)

9. 78.2% ของ SEO เรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายเดือนสำหรับลูกค้าของตน (Ahrefs)


 

หมายเหตุ : หมายเลขทั้งหมดที่อยู่ในแต่ละหัวข้อ รวมกันคือ “79 สถิติ SEO ประจำปี 2566”

 

สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ SEO ได้ที่ : SEO




 

 

 

 

 

---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ

ข้อมูลจาก : ahrefs.com

 

บทความ

ข้อดีของ Google AdWords

ข้อดีของ Google AdWords

Google Ads หรือที่เคยรู้จักกันในชื่อ Google AdWords เป็นเครื่องมือโฆษณาออนไลน์ที่ทรงพลัง ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ... อ่านเพิ่มเติม

5 ปลั๊กอิน Wordpress ที่จำเป็นต้องติดตั้ง

5 ปลั๊กอิน Wordpress ที่จำเป็นต้องติดตั้ง

5 ปลั๊กอิน WordPress ที่จำเป็นต้องติดตั้ง เพื่อเว็บไซต์แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพและฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์ได้อย่างมากมาย ... อ่านเพิ่มเติม

ACE Indicator System เชื่อมโยงการตลาดกับ SEO

ACE Indicator System เชื่อมโยงการตลาดกับ SEO

ACE Indicator System และการใช้ SEO เข้าใจความเชื่อมโยงเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น การนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกันจะช่วยให้สามารถปรับปรุงอันดับเว็บไซต์ในผลการค้นหาของ Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ... อ่านเพิ่มเติม

PageSpeed Insights กับ GTmetrix

PageSpeed Insights กับ GTmetrix

PageSpeed Insights กับ GTmetrix เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในการวัดประสิทธิภาพและความเร็วของเว็บไซต์ ช่วยให้ผู้พัฒนาเว็บไซต์สามารถระบุปัญหาที่ทำให้เว็บไซต์โหลดช้า ... อ่านเพิ่มเติม

Total Blocking Time คืออะไร

Total Blocking Time คืออะไร

Total Blocking Time (TBT) เป็นหนึ่งในเมตริกที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพของเว็บไซต์ โดยวัดระยะเวลาที่เว็บไซต์ถูกบล็อกจากการตอบสนองต่อผู้ใช้ เนื่องจาก JavaScript ที่ใช้เวลานานในการทำงาน ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไมการทำเว็บไซต์ต้องรู้จัก Core Web Vitals

ทำไมการทำเว็บไซต์ต้องรู้จัก Core Web Vitals

ทำไมการทำเว็บไซต์ต้องรู้จัก Core Web Vitals ชุดของเมตริกที่ Google ใช้ในการวัดประสบการณ์ของผู้ใช้ (User Experience UX) บนเว็บไซต์ ซึ่งเป็นปัจจัยการจัดอันดับของ Google ... อ่านเพิ่มเติม

Topical Authority  กับการจัดอันดับเว็บไซต์

Topical Authority กับการจัดอันดับเว็บไซต์

Topical Authority กับการจัดอันดับเว็บไซต์ เมื่อ Google มองว่าเว็บไซต์มีความรู้และความเชี่ยวชาญในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งเป็นพิเศษ เว็บไซต์นั้นก็จะได้รับการจัดอันดับที่สูงขึ้นในผลการค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

ปลั๊กอิน Elementor สำหรับคนทำ Wordpress

ปลั๊กอิน Elementor สำหรับคนทำ Wordpress

ปลั๊กอิน Elementor สำหรับคนทำ Wordpress ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ใช้งานง่ายและฟีเจอร์ที่หลากหลาย ทำให้สามารถสร้างหน้าเว็บไซต์ที่สวยงามและเป็นมืออาชีพได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเลย ... อ่านเพิ่มเติม

Content Uniqueness คอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Content Uniqueness คอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Content Uniqueness ความเป็นเอกลักษณ์ของคอนเทนต์ ความโดดเด่นและแตกต่างของเนื้อหาที่สามารถสร้างความสนใจและดึงดูดผู้ชมได้เป็นอย่างดี ... อ่านเพิ่มเติม