21 ก.พ. 2561
3952
มือใหม่ทำไงดี เปิดเว็บขายของ VS ขายบน Facebook
สังคมปัจจุบันที่มีการใช้เว็บไซต์และFacebook กันเป็นปกติและเป็นประจำอยู่แล้ว มือใหม่ในการทำการค้าออนไลน์ หรือขายของออนไลน์หลายท่าน อาจยังลังเลและสับสนว่าจะเลือกช่องทางใดเป็นช่องทางในการขายดี หรือในขณะเดียวกันบางธุรกิจอาจมีเพจขายสินค้าอยู่แล้ว และเกิดความลังเลว่าควรจะมีหน้าเว็บด้วยหรือไม่ สำหรับบทความนี้จะทำให้เหล่ามือใหม่หัดขายออนไลน์ทั้งหลายตัดสินใจได้ว่าควรเลือกช่องทางไหน หรือช่องทางใดที่จะเหมาะกับการขายสินค้าของเรามากที่สุด
การเปิดเว็บไซต์ขายของ
การเปิดเว็บไซต์ขายของนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธีการ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างโปรแกรมเมอร์พัฒนาเว็บไซต์ หรือการใช้บริการจากเว็บสร้างขายของที่เหล่าแม่ค้าเพียงแค่ใส่ข้อมูลรายละเอียดของสินค้า ก็เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งในส่วนนี้ก็มีข้อดีและข้อเสียที่ในบางข้อนั้นอาจเหมาะสมกับธุรกิจของเราก็ได้ มาดูกันเลย
ข้อดีของการขายของในเว็บไซต์ (ของตัวเอง)
- สามารถปรับเปลี่ยนเว็บได้ตามใจชอบโดยให้เข้ากับกลุ่มลูกค้าของเรา
- สามารถสร้างระบบการรับชำระเงินขึ้นมาเองได้ ตัวอย่างเช่น ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าลงตะกร้า และรอลูกค้าชำระเงิน ซึ่งไม่ต้องมานั่งคุยหรือเฝ้าหน้าร้านเพื่อรับออเดอร์ ทำให้ประหยัดเวลาและสามารถนำเวลาเหล่านี้ไปเพิ่มเติมในส่วนอื่นของธุรกิจได้
ข้อเสียของการขายของบนเว็บไซต์
- ค่าใช้จ่ายในระยะแรก/เริ่มต้น ค่อนข้างสูง เนื่องจากว่าต้องมีค่าโฮสติ้ง ค่านักออกแบบ ค่าโปรแกรมเมอร์ และอื่นๆ จนกว่าที่เราจะพอใจในเว็บไซต์ที่ออกแบบมา
- ลูกค้าไม่ชิน เพราะเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการซื้อออนไลน์อาจยังไม่สะดวกเท่าที่ควร หลายคนก็เพิ่งเข้ามาชอปออนไลน์เป็นครั้งแรก ก็อาจจะยังงงกับการซื้อขายผ่านช่องทางนี้ และอาจต้องการให้แม่ค้าแนะนำในทุกขั้นตอนการใช้ และเช่นเดียวกันหากเข้ามาเจอเว็บไซต์ขายของที่ไม่คุ้นเคยก็อาจทำให้ไม่มั่นใจในการซื้อ ไม่กล้าโอนเงิน อาจทำให้พลาดโอกาสในการซื้อขายครั้งนั้นๆ ได้
- มีการแข่งขันสูง เนื่องจากเว็บไซต์นั้นมีมากมาย การที่จะทำให้ลูกค้านั้นหาเว็บไซต์ของเราเจอ ติดหน้าแรกจากการค้นหาผ่าน Search Engine อาจต้องอาศัยการทำ SEO หรือการลงโฆษณากับ Google
- ลูกค้าน้อย เนื่องจากคนส่วนมากนั้นจะเล่น Facebook Instagram Line หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ กันเป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้นกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อของที่เว็บไซต์ของเรานั้นมักจะเป็นลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าจริงๆ อาจเป็นส่วนน้อย อีกทั้งยังต้องแข่งขันกับร้านค้าออนไลน์อื่นๆ อีกด้วย
การเปิดร้านบน Facebook (ในที่นี้หมายถึงการเปิดขายผ่านเพจ และเฟซบุ๊กส่วนตัว)
การขายของบน Facebook นี้อาจมาจากความนิยมในการเล่นของคนในสังคม ประกอบกับหลายสื่อและหลายหน่วยงานได้ให้ความสำคัญกับ Facebook จึงทำให้หลายคนนั้นสนใจและเล็งให้ Facebook นั้นเป็นอีก 1 กลุ่มตลาดในการซื้อขายสินค้าบนโลกออนไลน์
ข้อดีของการขายของบน Facebook
- สะดวก เนื่องจากว่า Facebook นั้นมีมานานพอสมควร และคนส่วนมากก็ใช้งานเป็นแล้ว เพราะฉะนั้นการพูดคุยหรืออัปโหลดรูปภาพใน Facebook จึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เป็นเรื่องง่ายดายสำหรับพ่อค้าแม่ค้าทุกเพศทุกวัย และการโพสต์สิ่งต่างๆ เหล่านี้เองคือสิ่งสำคัญสำหรับการขายของ
- หาลูกค้าง่าย ประเทศไทยนั้นมีผู้ใช้ Facebook มากกว่า 50% ต่อประชากรทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นอัดับต้นๆ ของอาเซียน อีกทั้งคนส่วนใหญ่ยังใช้เวลาไปกับการเล่น Facebook หลายชั่วโมงต่อวัน ถือว่าหากทำการขายของบน Facebook ก็ถือว่าลูกค้าอยู่ใกล้แค่เอื้อม
- ไม่มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้น การสมัครที่แสนง่ายดาย และใช้งานฟรี เพียงแค่มีอีเมลและกรอกข้อมูลส่วนตัว ก็สามารถใช้งานได้ทันที
ข้อเสียของการขายของบน Facebook
- คู่แข่งเยอะ เพราะเมื่อเฟซบุ๊กนั้นให้ใช้งานได้ฟรี จึงส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้ามากหน้าหลายตามีมากมายตามไปด้วย ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนธุรกิจ วางแผนการตลาด ให้ดีและมีความน่าสนใจกว่าร้านอื่น
- มีค่าใช้จ่ายในการโฆษณา เนื่องจากตลาด Facebook มีการแข่งขันสูง เราจึงต้องทำการโฆษณาบนเฟซบุ๊กเพื่อให้ลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายของเรานั้นเห็นสินค้าของเราให้มากที่สุด เพื่อให้เกิดโอกาสในการซื้อขายและลูกค้ารู้จักสินค้าของเรา
- การโฆษณานั้นยุ่งยาก นอกจากที่ต้องเสียเงินค่าโฆษณาแล้ว การทำโฆษณาใน Facebook นั้นยังค่อนข้างยากอีกด้วย เพราะต้องมีการตั้งค่าหลายระดับ การเลือกกลุ่มเป้าหมาย งบประมาณ ฯลฯ อีกทั้งต้องมีความรู้เกี่ยวกับการคำนวณงบประมาณในการโฆษณาและการเลือกใช้โฆษณา เป็นต้น
แล้วเลือกแบบไหนดี?
ทั้งนี้อาจต้องดูจากความจริงจังในการเปิดธุรกิจ กลุ่มเป้าหมาย และงบประมาณ หากยังงบน้อยก็เริ่มจาก Facebook ก่อนก็ได้ จากนั้นจึงค่อยเริ่มขยับขยาย เพราะการมีเว็บไซต์จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของเราอย่างมากโข และหากเรามีงบประมาณพอสมควร การมีทั้งเว็บไซต์และ Facrbook จะช่วยให้การทำธุรกิจของเรานั้นครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ให้ความรู้สึกทันสมัยและมีความน่าเชื่อถือไปพร้อมๆ กัน
ที่มา : get.page365