12 เม.ย. 2561
8873
ศัพท์พื้นฐานที่ต้องรู้จักใน Google Analytics
ศัพท์เหล่านี้เรามักจะเจออยู่ใน Report ของ Google Analytics และบางคำอาจเป็นศัพท์ใหม่ที่เกิดขึ้นจากการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ของ Google Analytics ซึ่งทำให้ผู้ที่ไม่ได้ใช้งานเป็นประจำ หรือใช้งานบ้างเป็นครั้งคราวก็อาจไม่รู้จักศัพท์เหล่านี้ และหลายคนอาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับศัพท์ต่อไปนี้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและตรงกัน บทความนี้จะพาทุกท่านมารู้จักศัพท์ที่สำคัญต่อการใช้งาน Google Analyics
Dimension - ส่วนคอลัมน์ซ้ายสุดของทุกรีพอร์ท เป็นการแบ่งหมวดหมู่ ประเภท และกลุ่มข้อมูลบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายกัน ช่วยให้สามารถเห็นภาพและวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นได้ว่ากลุ่มข้อมูลใดดีหรือแย่ เช่น Age, Gender, Country, Browser เป็นต้น
Metrics - ชุดกลุ่มข้อมูลที่วัดผลเป็นตัวเลขได้ เช่น จำนวน Session, จำนวน new users จำนวน Preview เป็นต้น ซึ่งข้อมูล Metrics นี้จะเป็นข้อมูลที่แสดงคู่กับ Dimension ในทุกๆ รีพอร์ท การอ่านค่าต่างๆ ของ Dimension จึงทำได้ง่ายและสะดวก เช่น กลุ่มเพศหญิง (Dimension) เข้ามาในเว็บไซต์ในช่วง 1 เดือนเป็นจำนวนรวมกัน 1,200 ครั้ง (session) และมีการดูหน้าต่างๆ บนเว็บไซต์รวมทั้งหมด 4,500 หน้า (pageviews)
Calculated Metrics - ผู้ใช้งานสามารถสร้าง Metric ใหม่ขึ้นมาจากการเลือก Metric เดิมมาใส่สูตรคำนวณใหม่ การนำจำนวน Goal Completions มาหารด้วยจำนวน Users ทำให้ได้ Metric ใหม่เป็น Avg. Goal Completion by Users
Session - ค่า Metrics พื้นฐานในระบบรีพอร์ทของ Google Analytics ซึ่งสามารถนำไปคำนวณ Metrics ได้หลายตัว และความหมายที่ถูกต้องของ Session คือ ช่วงเวลาหนึ่งที่ผู้ใช้งานเข้ามาทำกิจกรรมต่างๆ บนเว็บไซต์ หรือ Mobile app เช่น การเข้ามาในเว็บไซต์แล้วเกิด Preview หรือ การสร้าง Event เป็นต้น
Source - ข้อมูล Dimension ที่มีความสำคัญมาก อีกทั้งใช้วิเคราะห์แหล่งที่มาของ Session เช่น หากมีคนค้นหาสินค้าผ่าน Google Search แล้วพบ URL ของเราไปแสดงอยู่และจากนั้นคลิกลิงก์นั้นเข้ามา ดังนั้น Session ที่เข้ามาจะถูกระบุแหล่งที่มา (Source) เป็น Google
Medium - จะมักถูกใช้งานร่วมกับ Source เพื่อระบุแหล่งที่มาของ Session ได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยทั่วไป Medium มักจะใช้บอกรูปแบบวิธีการสื่อสารผ่าน Source อีกทีหนึ่ง
Users - ผู้ใช้ที่มีอย่างน้อย 1 Session ในช่วงวันเวลาที่กำหนดเป็นได้ทั้ง new user และ returning user ดังนั้นหมายความว่า ในช่วงเวลาหนึ่ง user 1 คนสามารถมี sesseion ได้มากกว่าหนึ่ง สิ่งหนึ่งที่หลายคนเข้าใจผิดพลาดคือการเข้าใจว่า 1 Users คือ คนหนึ่งคน แต่ในความเป็นจริงแล้วที่ถูกต้องคือ 1 User คือ 1 device หรือ 1 อุปกรณ์ (โดยค่า default)
Channels - ใช้ Grouping ชุดข้อมูลที่มาจากแหล่งที่มาเดียวกัน (source/medium) ไว้เพื่อให้การวิเคราะห์ช่องทางการทำ Marketing ทำได้ง่ายและเห็นภาพชัดมากขึ้น ตัวอย่างที่ Channels ที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วก็คือ Direct, Organic, Referral เป็นต้น
Direct - กลุ่มของ Session ที่เกิดจากการเข้าเว็บไซต์ผ่านการพิมพ์ URL จาก Browser เข้ามาตรงๆ หรือคลิ้กจาก Bookmark ที่สร้างไว้ รวมไปถึงกรณีที่เกิดจากการคลิ้กลิงค์ที่ไม่ได้ทำ UTM tagging ในอีเมล์ Application เข้ามา (แท้จริงแล้วมีความหมายที่มีรายละเอียดมากมาย แต่สำหรับการใช้งานเบื้องต้นสามารถใช้ความหมายตามนี้ได้)
Organic - กลุ่มของ Session ที่เกิดจากการเข้าเว็บไซต์ผ่านการค้นหาบน Google Search และคลิ้กลิงค์ที่ไม่ใช่โฆษณาเข้ามา จำนวน Session ของแชนแนลนี้ถือเป็นตัวเลขที่มีความสำคัญและเป็น KPI ที่ใช้สำหรับวัดผลการทำ SEO
Referral - กลุ่มของ Session ที่เข้าเว็บไซต์ผ่านมาจากเว็บไซต์อื่นๆ (Third Party Website) ใน Referrals Report จะแสดงให้เห็นว่าแต่ละเว็บไซต์ที่พาคนเข้ามาที่เว็บไซต์ของเรานั้น มีเว็บไซต์อะไรบ้าง แต่ละเว็บส่ง Traffic มาในปริมาณเท่าใด
Landing Page - เป็น Dimension ที่หมายความถึงหน้าแรกที่ถูกแสดงในแต่ละ Session ที่เกิดขึ้น ซึ่ง Landing Page ที่มีการเข้าชมมากๆ นั้น แสดงให้เห็นถึงความสนใจของผู้เข้ามาในเว็บและสามารถที่จะนำเนื้อหาหน้านั้นไปใช้ผ่านทางช่องทางอื่นได้
Entrance - มีความหมายเหมือนกับ Landing Page แต่มีความแตกต่างคือ Landing Page เป็น Dimension ดังนั้นค่าต่างๆ ของ Landing Page จะแสดงเป็นชื่อ URL ของหน้าต่างๆ บนเว็บไซต์ ส่วน Entrance นั้นจะเป็น Metric ที่แสดงจำนวนครั้งที่แต่ละหน้าถูกแสดงเป็นหน้าแรก และ Metric นี้สามารถดูได้ใน All pages รีพอร์ท
Pageviews - จำนวนหน้าเว็บไซต์ที่มีการถูกเรียกดูทั้งหมด ซึ่งหน้าที่ดูซ้ำจะถูกนับเพิ่มใน pageviews ด้วย เช่น หากเราอยู่ที่หน้า Home แล้วทำการ Refresh หน้านั้น 5 ครั้ง ในรีพอร์ท Google Analytics จะบันทึกค่า Pageviews เป็น 5 หน้า
Event - Custom Interaction ที่เราใช้ Track เหตุการณ์หรือพฤติกรรมต่างๆ ของ User ที่ใช้งานหน้าเว็บไซต์ เพื่อที่จะศึกษาและวิเคราะห์พฤติกรรมต่างๆ เช่น การคลิกปุ่ม add to cart การกด Play วิดีโอ การดาวน์โหลดเอกสาร หรือการคลิก Outbound Link ออกไปยังเว็บไซต์อื่นๆ การเก็บค่า Event นี้จะเป็นต้องมีการ Implementation พิเศษเพิ่มเติมบนเว็บไซต์
Hit - การส่งข้อมูลจากเว็บไซต์ออกไปที่ Google Server ก่อนจะนำไปประมวลผลออกรีพอร์ท และชนิดของ Hit ที่ทุกคนคุ้นเคยคือ Preview ซึ่งทุกครั้งที่เกิด Preview ใหม่จะมีการส่งข้อมูลไปที่ Google อย่างน้อยหนึ่งครั้ง
Pages/Session - ค่าเฉลี่ยของจำนวนหน้าที่เข้าชมต่อหนึ่งเซสชั่น โดยใช้การคำนวณโดยจำนวน Prewiew ทั้งหมดมาหารด้วย Session ทั้งหมด สำหรับเว็บไซต์ในกลุ่ม Content แล้ว ค่า Page/Session ถือว่ามีความสำคัญมากและบ่งบอกถึงคุณภาพของเนื้อหาบนเว็บไซต์และคุณภาพของ Session ที่เข้ามา
Average Session Duration - ระยะเวลาที่อยู่บนเว็บไซต์เฉลี่ยของหนึ่งเซสชั่น วิธีคำนวนค่านี้ระบบจะนำเวลาที่อยู่บนเว็บไซต์ทั้งหมดของทุก Session (Session Duration) มารวมกันแล้วนำมาหารด้วยจำนวน Session ทั้งหมด ค่านี้เป็นอีกค่าที่ค่อนข้างจะมีความสำคัญกับกลุ่มเว็บไซต์ประเภท Content เหมือนกับ Page/Session ***หาก Sessionใดเป็น Bounce Session หมายความว่า Google Analytics จะไม่สามารถบันทึกเวลาของ Session นั้นได้ แต่ session นั้นจะต้องถูกนำไปคำนวนเพื่อหาค่า Avg. Session Duration ด้วย ดังนั้นในความเป็นจริงแล้วค่านี้มีความคลาดเคลื่อนอยู่พอสมควร
Bounce Rate - อัตราการตีกลับ นั่นคือเปอร์เซ็นต์ของ Session ที่มีการเข้าชมเพียงหน้าเดียวเมื่อเทียบกับจำนวน Session ทั้งหมด โดยค่านี้ที่เข้าใจตรงกันคือยิ่งสูงยิ่งไม่ดี ซึ่งทุกเว็บไซต์ก็ไม่ต้องการและต่างพยายามทำให้มันลดลงได้มากที่สุด และส่วนใหญ่ที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับ Bounce Rate คือการเข้าแล้วออกทันที เป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เพราะตามความหมายที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Session ที่เกิด Bounce นั้นคือ Session ที่เข้าชมเพียงหน้าเดียว ดังนั้นการนั่งอ่านหน้าใดหน้าหนึ่งบนเว็บไซต์สัก 20 นาทีแล้วออก ก็ถือว่า Session นั้นเป็น Bounce Session เช่นกัน
%New Session - ร้อยละของการเข้าชมครั้งแรกเทียบกับการเข้าชมทั้งหมด ตัวเลขนี้สัมพันธ์โดยตรงกับ New user หมายความว่า หากช่วงเวลาหนึ่งมี Session ทั้งหมดเกิดขึ้น 100 Session ถ้ามี % New Session เท่ากับ 30% หมายความว่าในช่วงเวลานั้นจะมีคนที่เคยเข้าเว็บไซต์เป็นครั้งแรกจำนวน 30 Users
Goals - เป้าหมายที่ใช้เป็นตัววัดว่าผู้เข้าชมได้ทำกิจกรรมบางอย่างที่เรากำหนดขึ้นหรือไม่ ซึ่งอาจจะเป็น การซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก การลงทะเบียน เป็นต้น การตั้ง Goals นั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของการทำ Analytics เพราะหากไม่มี Goals แล้ว เราก็ไม่สามารถที่จะตอบได้ว่าสิ่งที่ธุรกิจต้องการให้เกิดขึ้นนั้น ได้เกิดขึ้นจริงและบรรลุตามเป้าหมายที่ธุรกิจได้ตั้งไว้หรือไม่
Conversion - จำนวนครั้งที่เป้าหมาย (Goals) ได้ถูกกระทำสำเร็จในเว็บไซต์ เช่นได้เกิดการซื้อสินค้าแล้วกี่ครั้ง (Conversion) ได้เกิดการลงทะเบียนแล้วกี่ครั้ง ได้เกิดการดาวน์โหลดเอกสารไปแล้วกี่ครั้ง เป็นต้น
Conversion Rate - อัตราการแปลงจากกลุ่มที่เข้าเยี่ยมชมมาเป็นลูกค้า ซึ่งวิธีการคำนวนคือการนำจำนวน Conversion ทั้งหมดมาหารด้วยจำนวน Session ทั้งหมดแล้วคูณด้วย 100 เพื่อให้ค่าออกมาเป็น % เช่น ช่วงเวลาหนึ่งมีคนเข้าเว็บไซต์เป็นจำนวน 10,000 Session และสร้าง Conversion รวมกันทั้งหมด 150 Conversion ดังนั้น Conversion Rate จะเท่ากับ 150/10,000 x 100 ซึ่งเท่ากับ 1.5% ค่านี้เป็นค่าหนึ่งในการวัดผลเว็บไซต์เกี่ยวกับการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้เป็นลูกค้า
Not Provided - คำที่ใช้แสดงเพื่อบอกว่าจะไม่มีการเปิดเผย Keyword ที่ใช้ค้นหาผ่าน Google Search ก่อนที่จะคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ Google ใช้ Not Provided เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิส่วนบุคคลในการที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ตามนโยบายเรื่อง Privacy Policy ซึ่งเคสที่จะเข้าข่ายที่จะปกปิดคีย์เวิร์ดนี้ได้แก่ในกรณีที่ User ล็อกอิน Google Account อยู่ และกรณีที่เป็นการใช้งานผ่าน Secure Connection เช่น https://www.google.com เป็นต้น
Not Set - เป็นคำที่ Analytics ใช้ระบุในรีพอร์ทในกรณีที่ Analytics ไม่สามารถเก็บจากข้อมูลแหล่งที่มาได้ โดยมากแล้วมักจะเกิดจากปัญหาทางเทคนิคอล ยกตัวอย่างเช่น การทำ UTM tagging ที่ไม่สมบูรณ์ หรือการไม่ได้ลิงค์ Account ระหว่าง Adwords และ Analytics ซึ่งจะทำไม่สามารถเก็บข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดได้ Google Analytics จึงแสดงค่า Not Set แทน
Account - โครงสร้างระดับบนสุดของ Google Analytics ภายใต้ Account จะประกอบได้ Property (เว็บไซต์หรือโมบายล์แอปพลิเคชั่น) โดยปกติทั่วไปผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักจะมี Account เดียว แต่หากต้องดูแลเว็บไซต์หลายๆ เว็บที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน หรือไม่ใช่เจ้าของเดียวกันก็ควรจะต้องสร้างเลือกวิธีการสร้าง Account ใหม่ขึ้นมา
Property - โครงสร้างระดับรองลงมาจาก Account อีกที Property นั้นเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของโครงสร้างเพราะเป็นส่วนที่จะระบุรหัสเฉพาะ (Tracking ID) ของแต่ละเว็บไซต์หรือโมบายล์แอปพลิเคชั่นเพื่อที่จะนำไปใช้เก็บข้อมูลเพื่อนำมาออกรีพอร์ทผ่าน View
View - โครงสร้างระดับสุดท้ายของ Google Analytics เป็นส่วนที่ใช้แสดงข้อมูลและรีพอร์ทสำหรับผู้ใช้งาน โดย View แตละ View นั้นจะมี Goals เป็นของตัวเอง หากต้องการ Goal ที่แสดงทุก View จึงจำเป็นต้องสร้าง Goal ให้แต่ละ View ด้วย
ที่มา : googleanalyticsthailand