10 ก.ค. 2564
2024
C-suite ทำงานร่วมกับ CMO เพื่อขับเคลื่อนการตลาดให้สมบูรณ์แบบ
จากการศึกษาของ McKinsey ชี้ชัดเจนว่า การสร้างบทบาททางการตลาดที่ดี และมีประสิทธิภาพต้องขับเคลื่อนร่วมกันจากหลายฝ่ายในองค์กร โดยเฉพาะระดับ C-suite (ฝ่ายบริหารระดับสูง) กับสายสัมพันธ์ทั้งหมดของ CMO (ผู้บริหารฝ่ายการตลาด) ที่ไม่ใช่เรื่องทั้งหมดของ ‘ฝ่ายการตลาด’ เสมอไป
และการทำงานลักษณะนี้กำลังได้รับความสนใจจาก CEOs ทั่วโลกเป็นอย่างมาก McKinsey ได้ทำการศึกษาไว้ด้วย.. ว่า 83% ของ CEOs ทั่วโลก บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า Marketing’s สามารถเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจได้ หมายความว่าโมเดลการบริหารธุรกิจรูปแบบใหม่ ก็คือ กลุ่มผู้บริหารระดับสูงเปิดทางให้กับ CMO มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน
ถึงแม้ว่ากลุ่ม C-suite (ฝ่ายบริหารระดับสูง) จะสนับสนุนด้านการตลาดอย่างเต็มที่ในงานบริหารอยู่แล้ว แต่มองว่าปัจจัยหลักสำคัญของธุรกิจที่เกี่ยวกับ ‘การสร้างแบรนด์’ และ ‘การโฆษณา’ ต้องขึ้นอยู่กับข่าวสารต่างๆ และการสื่อสารออกไปนั้นสามารถเป็นได้ทั้งเชิงลบ และบวกได้
อีก 23% เป็นของเหล่า C-suite (ฝ่ายบริหารระดับสูง) นั่นเองค่ะ ที่รู้สึกว่าบางทีการกำหนดบทบาทในทางตลาดสามารถสร้างขึ้นได้ผ่านหลายๆ ฝ่ายในองค์กรร่วมกัน โดยเฉพาะการกำหนดโมเดลทางการตลาดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะระดับ C-suite (ฝ่ายบริหารระดับสูง) กับสายสัมพันธ์ทั้งหมดของ CMO (ผู้บริหารฝ่ายการตลาด)
ทั้งนี้ McKinsey ได้วิเคราะห์ว่าความแข็งแกร่งของวิธีการทำงานแบบทุกคนมีส่วนร่วม และมีจุดหมายเดียวกันคือ เพื่อบทบาททางการตลาดจะทำให้ mission ลุล่วงจริงหรือไม่ ? คำตอบก็คือ ประสิทธิภาพของ CMO และสายงานที่ดีจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับระดับ C-suite ได้ โดยพวกเขาเรียกมันว่าโมเดล Unifier
ก่อนจะอธิบายว่าโมเดลนี้เป็นแบบไหน ต้องย้ำก่อนว่า Unifier CMO คือ โมเดลเดียวเท่านั้นที่จะทำให้องค์กร บริษัท เติบโตก้าวกระโดด และประสบความสำเร็จได้
โมเดลนี้พูดง่ายๆ ก็คือ วิธีการทำงานแบบข้ามสายแต่แข็งแกร่ง ทุกคนจะมีความเชื่อเดียวกันว่า การตลาดจะทำให้บริษัทเติบโตมาก และเพื่อนในกลุ่ม C-suite จะเห็นเป้าหมายชัดเจนพอที่จะลงมือทำได้ทันที สามารถตอบสนองได้เสมอ ไม่ว่าจะการระดมสมอง, การขอคำแนะนำ, การกระจายวิสัยทัศน์, การตัดสินใจ, ความรับผิดชอบร่วมกันทั้งกำไรและขาดทุน (P&L) ในภาพรวม รวมไปถึงการกำหนดกลยุทธ์และวัฒนธรรมขององค์กรร่วมกันด้วย
ดังนั้น เมื่อถึงครั้งที่ภาวะเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอนผลกระทบเรื่องงบประมาณของพวกเขา (แต่ละฝ่าย) จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะร่วมกันคิด ร่วมการทำ ร่วมกันสร้าง ก็คือไม่เกี่ยงกันทำงานนั่นเอง
โดย 3 สิ่งที่จะได้เห็นแน่ๆ จากโมเดล Unifer คือ
- ความสัมพันธ์ในระดับ C-suite ทุกฝ่ายที่แข็งแรง และร่วมรับผิดชอบด้วยกัน
- การยอมรับไอเดีย หรือความคิดเห็นระหว่างกันได้จริงๆ
- สามารถกำหนดบทบาทที่ชัดเจนได้
ผู้บริหารที่ติดอันดับ Fortune 500 มากถึง 82% เชื่อว่า เรื่องการค้นหาคนที่มีความสามารถอาจเป็นเรื่องยาก แต่ความถนัดในแต่ละด้านที่แตกต่างจะส่งเสริมโมเดล Unifier CMO ให้ประสบความสำเร็จได้ค่ะ