01 เม.ย. 2566
820
วิธีการเขียน Content สำหรับผู้เริ่มต้น
แน่นอนว่าการเขียน Content (เนื้อหา) เป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการโปรโมทหรือดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายสนใจธุรกิจมากขึ้น ซึ่งการนำเสนอ Content แก่กลุ่มเป้าหมายนั้นสามารถดึงดูดผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าให้มากขึ้น และรักษาลูกค้าเดิมไว้ได้
แต่...พื้นฐานของการเขียน Content เป็นอย่างไร? นี่จึงเป็นสาเหตุที่เราได้สรุปและวิเคราะห์การเขียนเนื้อหาสำหรับผู้เริ่มต้น จาก frontiermarketingllc มาให้ได้เรียนรู้กันนั่นเองครับ
1. การเขียน Content คืออะไร
สำหรับการเขียน Content เป็นสิ่งที่ดูเหมือน : writing content. แต่อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มที่ซับซ้อนกว่านั้นเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักการตลาดที่ใช้การเขียน content เพื่อดึงดูดและให้ข้อมูลที่มีค่าแก่ผู้อ่าน และโดยปกติแล้วจะเป็นการแจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ หรือเพื่อเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์นั่นเอง
แน่นอนว่า Blog เป็นสื่อทั่วไปสำหรับการเขียน Content แต่อย่างไรก็ตามเรายังสามารถเขียน Content ได้อย่างมากมาย เช่น
- โฆษณา
- สคริปต์วิดีโอ
- อินโฟกราฟิก
- จดหมายข่าวทางอีเมล
- .อีบุ๊ก
- หน้าเว็บไซต์
- โซเชียลมีเดีย
- งานนำเสนอต่างๆ และอื่นๆ
ด้วยเหตุนี้การเขียน content จึงสามารถบรรลุผลสำเร็จได้อย่างมากมายสำหรับธุรกิจฯ เช่นการเพิ่มยอดขายและการสร้างแบรนด์เป็นต้น
ฉะนั้นเพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปเจาะลึกกันดีกว่าว่าทำไมการเขียน Content จึงมีความสำคัญต่อธุรกิจ ในหัวข้อถัดไปกันเลยยยยยยยยครับอิอิ!
2. ทำไมการเขียน Content จึงมีความสำคัญ
สำหรับการเขียน Content นั้นสามารถช่วยธุรกิจเราได้หลายวิธีมากๆ เช่นเราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับลูกค้าปัจจุบันหรือผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าได้ และทำให้พวกเขากลับมาอีกครั้งเมื่อเราให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องแก่พวกเขา เป็นต้น
อีกทั้ง Content ยังสามารถช่วยสร้างธุรกิจ และเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ได้ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำให้ชื่อของเรานั้นเป็นที่รู้จัก ไม่ว่าจะผ่านทางโซเชียลมีเดีย บล็อก ดังนั้นหากเราโพสต์ Content ที่มีคุณภาพและตรงประเด็นอย่างสม่ำเสมอ จะมีแนวโน้มที่จะพบผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามากขึ้น
และยังช่วยสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบันอีกด้วย ซึ่งเราสามารถให้คุณค่าหรือทรัพยากรในขณะที่ให้ข้อเสนอแนะหรือถามคำถามได้ ซึ่งจะส่งผลให้พวกเขานั้นมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น และผลดีอื่นๆ จะตามมา
นอกจากนี้การผลิต Content ยังทำให้เรานั้นแตกต่างจากคู่แข่งอีกด้วย แต่...การเขียน Content นั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด ซึ่งเราจำเป็นต้องอาศัยทักษะและฝึกฝนการเขียน Content อย่างสม่ำเสมอ และเราจะพบจุดเปลี่ยน ไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นมืออาชีพตามมา
3. พื้นฐานการเขียน Content มีอะไรบ้าง
หากเรารู้สึกประหม่าที่จะเริ่มเขียน content นั่นแสดงว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว และการเขียน content อาจจะดูน่ากลัว หากเราไม่เคยลงมือทำมาก่อน ดังนั้นในบทความนี้เราได้วิเคราะห์และสรุปพื้นฐานการเขียน content จาก frontiermarketingllc มาเพื่อช่วยให้ได้เรียนรู้วิธีการเขียน เพื่อนำไปสร้างทักษะเองได้นั่นเองครับ
1. เริ่มต้นด้วยการวิจัย : สำหรับขั้นตอนแรกในการเขียน content คือการค้นคว้า และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เรานั้นต้องการจะเขียน หากเราไม่ทำเราอาจจะหลงทางในขณะเขียนได้
ซึ่งเราจะต้องเริ่มการวิจัยกับกลุ่มเป้าหมายของเราด้วยการถามตัวเองว่า ผู้ชมหรือผู้อ่านนั้นต้องการอะไร หรือต้องการอะไรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา จากนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าสิ่งที่เรากำลังจะเขียนนั้นสอดคล้องกับเป้าหมายของธุรกิจของเราหรือไม่
โดยเราจะต้องให้หัวเรื่องนั้น เชื่อมโยงกลับไปว่าเราเป็นใครในฐานะธุรกิจ หรือบริการที่มอบให้ และสิ่งที่เขียนลงไปนั้นควรสื่อถึงธุรกิจของเราให้กับผู้อ่านด้วย และเริ่มต้นด้วยการหาคำหลัก
2. สร้างโครงร่าง : สำหรับการสร้างโครงร่างนั้น เป็นส่วนสำคัญของการเขียน content เนื่องจากมันสามารถช่วยให้เราเห็นภาพเนื้อหาของเราว่าจะเป็นอย่างไร และจะเข้าถึงเนื้อหานั้นได้อย่างไร ซึ่งจะมีสูตรพื้นฐานที่เราใช้สร้างโครงร่างได้ คือ การเขียนพาดหัวที่ดี, การรวมบทนำ, การสร้างหัวข้อระดับกลาง, การกรอกหัวเรื่องด้วยรายการสนทนา และการปิดท้ายด้วยบทสรุป เป็นต้น
3. พาดหัวก่อน บทนำไว้สุดท้าย : ในการเริ่มต้นสร้าง content เราจะต้องเขียนพาดหัวก่อน เนื่องจากพาดหัวนั้นเป็นประเด็นหลักของเรา และอยู่ด้านบนสุด และผู้ชมจะเห็นพาดหัวข่าวของเราก่อนสิ่งอื่นใด
ซึ่งจากข้อมูลของ CoSchedule ได้ระบุไว้ว่า ผู้คนประมาณ 8 ใน 10 คน จะอ่านพาดหัวข่าว แต่มีเพียง 2 ใน 10 คน เท่านั้นที่จะคลิกผ่านเพื่ออ่าน content ดังนั้นพาดหัวของเราอาจจะสร้างหรือทำลายจำนวนผู้อ่านที่เราได้รับ โดยไม่คำนึงว่า content นั้นจะยอดเยี่ยมหรือไม่
4. เขียน content : เมื่อเริ่มเขียนให้เรานั้นถ่ายทอดคำพูดออกมา โดยร่างแรกนั้นไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ ซึ่งเราจะสามารถกลับมาแก้ไขได้ และให้โฟกัสที่เรื่องเดียว พร้อมกับทำให้ content นั้นดูเรียบง่าย และสุดท้ายในขณะที่เขียนให้เขียนยังไงก็ได้ ให้เวลาที่อ่านนั้นสามารถนึกออกมาเป็นภาพได้ ซึ่งจะทำให้ผู้อ่านนั้นเข้าใจและจดจำได้ง่าย
5. ทำให้สามารถอ่านได้ง่าย : ในขณะที่เรากำลังเขียน การทำให้ content ของเราเป็นแบบอ่านข้ามได้และง่ายนั้นจะเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยส่วนใหญ่แล้วผู้อ่านของเราจะไม่อ่าน content ทั้งหมด พวกเขาแค่ต้องการสิ่งที่อยากรู้เท่านั้น และนอกจากนี้พวกเขายังมีแนวโน้มที่จะอยู่บนหน้าเมื่ออ่านได้ง่ายขึ้น
6. การแก้ไข และพิสูจน์อักษร : การแก้ไขและการพิสูจน์อักษรนั้นเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน การแก้ไขนั้นเกี่ยวข้องกับการแก้ไขโดยรวม โดยเราจะต้องแน่ใจว่าทุกอย่างอยู่ลำดับที่ถูกต้อง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเหมาะสมและถูกต้อง และเมื่อทำการพิสูจน์อักษร เราจะต้องพิจารณาแต่ละประโยคและคำที่เราใช้อย่างใกล้ชิด โดยสิ่งสำคัญคือต้องแยกการแก้ไขและการพิสูจน์อักษรออกจากกัน
7. เพิ่มรูปภาพ : สำหรับการเพิ่มภาพใน content จะช่วยเสริมสิ่งที่เราเขียนเกี่ยวกับฯ ซึ่งอาจรวมถึงภาพถ่าย วิดีโอ ภาพประกอบ หรืออินโฟกราฟิก สุดท้ายสิ่งสำคัญคือต้องเลือกภาพที่เสริมข้อมูลในบล็อก เป็นต้น
8. พัฒนาน้ำเสียงและเสียงของเรา : เมื่อเราพัฒนาน้ำเสียงและเสียง ความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญ การใช้การเขียนคำ และโครงสร้างการเขียนแบบเดียวกันอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้เราหาเสียงของธุรกิจได้ คิดเกี่ยวกับการเลือกใช้คำและคำที่เราต้องการใช้เพื่ออธิบายธุรกิจของเรา เป็นต้น
9. ฝึกฝนบ่อยๆ : หากเราเดินออกจากบล็อกนี้พร้อมกับคำแนะนำหนึ่งข้อ เราจะต้องเขียนต่อไปเสมอ! การเขียนบ่อยๆ จะช่วยเสริมสร้างทักษะของเรา เช่นเดียวกับการหัดขี่จักรยานหรือฝึกเล่นเครื่องดนตรี
นอกจากนี้ การอ่านอย่างต่อเนื่องยังมีประโยชน์อีกด้วย เราสามารถดูสไตล์ที่คนอื่นใช้และพยายามรวมเข้ากับงานเขียนของเรา โชคดีที่มีข้อมูลออนไลน์มากมายที่สามารถช่วยเราได้
10. ปรับปรุงเนื้อหาให้ทันสมัยอยู่เสมอ : การรู้ว่าควรเขียนบล็อกโพสต์บ่อยแค่ไหนและอัปเดต content ที่มีอยู่ตามความจำเป็นนั้น เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสถานะออนไลน์ของธุรกิจของเรา โดยทีมการตลาดเรียกการอัปเดตที่รุนแรงที่สุดว่า “การยกระดับ” ในความเป็นจริงเรากำลังอ่านการยกระดับในขณะนี้!
11. สังเกตสิ่งที่ทำให้การเขียนเว็บไซต์แตกต่างออกไป : จุดประสงค์เดียวของ webcontent คือการแสดงข้อมูลที่สำคัญที่สุดต่อหน้าผู้ใช้จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นเราต้องใช้ภาษาที่กระชับ และเรียบง่าย
เช่น การเขียนเว็บไซต์เกี่ยวกับ หน้าแรก และหน้าติดต่อสามารถมีย่อหน้ายาวเป็นประโยคได้ การทำให้งานของเราเป็นแบบ skimmable มักจะหมายถึงการรวมหัวเรื่องจำนวนมากที่มีข้อมูลหรือสะท้อนคำถามของผู้ใช้ ทำให้ประโยคที่มีความหมายที่สุดของส่วนชัดเจนขึ้น และทำลายส่วนที่ยาวที่สุดด้วยรายการสัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อย นั่นเอง
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังจะเริ่มต้น เขียน Content ได้ไม่มากก็น้อย ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
คำเตือน!! ปัจจุบันนี้ผู้คนมักเขียนเนื้อหาเพื่อหวังให้ติด SEO อย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพ แน่นอนว่าหากทำอาจโดน Google สแปมได้ และผลเสียอื่นๆ จะตามมาด้วย!
---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—
ข้อมูลจาก : frontiermarketingllc.com