เทรนด์การตลาดที่มีมาใหม่พร้อมกับยุคสมัยที่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สิ่งที่เราต้องทำคือ การปรับตัวและก้าวให้ทันกับสิ่งเหล่านี้ โดยเทรนด์การตลาดนี้นั้นมาจาก คอลัมนิสต์ Bluemoon โดยเป็นคนในวงการดิจิทัลเอเจนซีผู้มีประสบการณ์ออนไลน์ที่หลากหลาย และในความคิดเห็นเหล่านี้นั้นเป็นความคิดเห็นจากกองบรรณาธิการ Brand Inside โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

1.Integrated Marketing 
จะเห็นได้ว่าการทำการตลาดส่วนใหญ่นั้น ในแต่ละหน่วยงานจะแยกย้ายทำในส่วนหน้าที่ของตัวเองไป เช่น Marketing ก็มีหน้าที่ผลิตสินค้า marketing communication (หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า marcom) ก็รับบรีฟจาก marketing ให้สื่อสารตามหน้าที่กันไป แต่จะดีกว่านี้ถ้าหากmarketing จะผลิตสินค้าใหม่โดยคำนึงว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นใคร สามารถสื่อสารได้ด้วย โดยนำคุณสมบัติเด่นๆ ออกมาสื่อสารให้มีความน่าสนใจ เพราะโลกของเรานั้นเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เมื่อต้องการให้การตลาดทันสมัยเราจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงธุรกิจไปด้วย อย่าลืมว่าถ้าหากต้องการอยู่ในโลกออนไลน์ เรื่องการสื่อสารในหลากหลายช่องทางนั้นคือสิ่งจำเป็น

2.Big Data & Analytics
เพราะยุคเรานั้นเข้าสู่ยุค Big data อย่างแท้จริงแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีมาตั้งแต่สมัยก่อนแต่ในสมัยนี้นั้นทำให้เราสามารถเก็บข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยนอกจากการมี Big data แล้ว เราต้องสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ได้ด้วย เช่น เราต้องสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ลูกค้าหรือผู้ที่เข้าชมนั้นสามารถ Engage กับเราจริงหรือไม่ เป็นต้น

3.Fanpage ไม่สำคัญเท่า Engage
ในสมัยก่อนอาจมีการทำให้ยอดไก์เพจนั้นพุ่งสูงขึ้นอย่างฟุ้งเฟ้อ เมื่อเทียบกับ engagement rate ที่มีจำนวนต่ำมาก ส่งผลให้ไม่สอดคล้องและดูไม่สมเหตุสมผล ดังนั้นยอดไลก์อาจไม่มีผลเท่ากับการให้คนนั้นมา engage กับเพจของเราให้มากที่สุด และที่สำคัญคือการรักษาคนให้ engage กับเพจอยู่เสมอนั่นเอง จะเป็นการทำให้เพจของเรานั้นมีน่าเชื่อถือและความอุดหนุน

4.หัดใช้แพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆ บ้าง
การใช้แพลตฟอร์มบางอย่างที่คิดว่ามีคนนิยมใช้มากที่สุดในบางครั้งอาจไม่สำคัญเท่ากับประโยชน์และข้อบ่งใช้ของแพลตฟอร์มนั้นๆ ตัวอย่างเช่นหลายๆ คนคิดว่า Facebook นั้นคือส่วนที่คนนิยมใช้ เชนการ Live ก็มุ่งไปที่ Facebook เป็นหลักทั้งที่ YouTube, Instagram, Twitter ก็ได้ แพลตฟอร์มพวกนี้มีฟีเจอร์ดังกล่าวหมด แถมบางเจ้าทำดีกว่า Facebook ด้วย เช่น YouTube เนี่ย เราสามารถย้อนดู live ทั้งๆ ที่ื live กำลังแพร่ภาพอยู่ ในขณะที่ Facebook ทำไม่ได้ เพราะในแต่ละแพลตฟอร์มก็มีประโยชน์และรูปแบบการใช้งานที่เหมาะสมในตัวมันเอง

5.ทำงานควรมี strategy (และเคารพด้วย)
กระบวนการของการทำการตลาดออนไลน์ มีขั้นตอนชัดเจน โดยเริ่มจาก
- strategy (กลยุทธ์) ต้องชัดเจนตั้งแต่แรก
- execution (การลงงาน) ต้องหนักแน่น แล้วเคารพ strategy
- insights (ข้อมูล) ต้องมีความจำเป็นต่อผู้บริโภค
- optimization (ปรับแต่ง) มีการยืดหยุ่นในผลงาน ปรับเปลี่ยนและเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ 
- analyzation ทุกครั้งที่ทำอะไรเสร็จจบ ต้องวิเคราะห์หา key findings ว่าอะไรดีก็ทำต่อ อะไรไม่ดีก็จำเป็นบทเรียน

6.จะ mass หรือจะ niche ต้องเลือก
ต้องมีการกำหนด Brand Character ให้ชัดเจน ไม่จับปลาสองมือ และต้องหนักแน่นในทางเลือกของตน เมื่อเลือกทิศทางที่จะไปได้แล้วก็ลงมือไปให้เต็มที่

7.อย่าลืม Insights แบบไทยๆ
หลายครั้งที่คนไทยนำบริบทเมืองนอกมาใช้ อ้างอิงซึ่งก็ไม่ผิด เช่นกัน บริบทไทยๆ "ไทยสไตล์" ที่เมืองนอกไม่ทำ นั่นคือ “ไลฟ์ขายของ” “ฝากร้านในไอจี” มันเป็นความไทยที่เมืองนอกเค้าก็เปิดโลก ทุกอย่างสามารถพลิกแพลงได้ตามความเหมาะสม

8.Back to Basic
เมื่อเทคโนโลยีและสิ่งอื่นๆ เปลี่ยนแปลง โลกก็หมุนตามกันไปเสมอ ทุกคนทำตามกันไปหมด แต่ยังไงก็แล้วแต่ Content นั้นก็ยังอยู่กับเราทุกยุคสมัยเช่นกันไม่ว่าจะแพลตฟอร์มใด เพราะ Content is King นั่นเอง

ที่มา : brandinside.asia