21 พ.ค. 2565
906
การทำ ON - PAGE SEO
เนื่องจากในปัจจุบันผู้คนหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับการทำธุรกิจออนไลน์ เมื่อขึ้นชื่อว่าการทำธุรกิจแล้วบอกเลยครับว่าไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเพราะต้องใช้กลยุทธ์และวิธีการที่หลายอย่างมากจึงจะประสบความสำเร็จได้
ดังนั้น บทความนี้เราจึงจะมาพูดเกี่ยวกับการทำ SEO ครับซึ่งการทำ SEO นั้นมีหลากหลายวิธี เช่น ON-PAGE SEO, OFF-PAGE SEO, และ TECHNICAL SEO แต่บทความนี้เราจะพูดถึงการทำ “ON-PAGE SEO”เพียงอย่างเดียวครับว่าเป็นอย่างไรบ้างไปดูพร้อมๆ กันเลยครับ
1. Keyword in Title (คำสำคัญในชื่อเรื่อง)
Keyword in Title หรือ คำสำคัญในชื่อเรื่อง ตรงนี้ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่ง โดยเป็นคำที่ใช้ในการค้นหาอยู่ในหัวข้อ “Title or Title Tag” ซึ่งคำเหล่านี้จะเป็นตัวบ่งบอก Google ว่า Website นี้มีความเกี่ยวข้องกับ Keyword นั้นๆ และจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาได้ง่ายขึ้น
ก็เพราะว่า Google ต้องการโชว์เนื้อหาที่มีคุณภาพดังนั้น Keyword จึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับได้ง่ายขึ้นหาก Keyword ตรงกับคำค้นหาของคนส่วนมากนั่นเอง
2. Keyword in Description (คำสำคัญในคำอธิบาย)
Keyword in Description หรือ คำสำคัญในคำอธิบาย โดยคำอธิบาย เรียกง่ายๆ ว่า Meta Description ซึ่งจะเป็นคำสำคัญที่แฝงอยู่ในรายละเอียดย่อยของเว็บไซต์ และเมื่อมีการค้นหา คำสำคัญที่อยู่ในคำอธิบายเหล่านี้ก็จะขึ้นมาปรากกฎจากคำค้นหาประมาณ 1-2 บรรทัดนั่นเองครับ
3. Keyword in Content (คีย์เวิร์ดในเนื้อหา)
สำหรับผู้ที่เขียน Content ต่างก็คงรู้ว่าการที่ใส่หรือสอดแทรก Keyword (คำสำคัญ) ลงไปนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ถ้าได้ลองอ่านบทความสักบทความหนึ่งและลองสังเกตดูดีๆ จะเห็นสำคัญไม่ต่ำกว่า 10 คำขึ้นไป และผู้เขียนก็พยายามที่จะใส่คำสำคัญนั้นลงไปให้ได้มากที่สุดและถูกตรวจจับได้ให้น้อยที่สุด
แต่เชื่อไหมครับว่าในข้อดีก็ยังมีข้อเสียอยู่ด้วยเพราะถ้าหากใส่ Keyword มากจนเกินไปก็อาจจะโดนแจ้ง Spam (สแปม) และในท้ายที่สุด Google ก็จะลงโทษเรา เพราะเนื้อหาไม่ได้คุณภาพและ Keyword เยอะจนเกินไป เพราะฉะนั้นควรใส่แค่พอดีเน้นเนื้อหาที่ได้คุณภาพจะดีกว่ามากครับ
4. Alt Text in Image (ข้อความแสดงแทนในรูปภาพ)
เชื่อว่าทุกคนที่เข้ามาอ่านต่างก็เคยพิมพ์ค้นหารูปภาพใน Google กันแล้ว ทำไมรูปภาพนั้นถึงขึ้นมาตรงกับคำที่เราค้นหาล่ะ? ก็เพราะว่าการใส่ Alt Text (alternative text) ให้กับรูปภาพที่เราจะเอาลงเว็บไซต์นั้น จะไปบอก Google ให้รู้ว่ารูปภาพที่เราใส่ลงไปนั้นเกี่ยวกับอะไร โดย Google จะใช้การอ่านจาก Text (ข้อความ)
ดังนั้นเมื่อมีการค้นหาจาก Keyword (คำสำคัญ) Google ก็จะรู้ว่า Keyword ที่กำลังค้นหาอยู่นั้นตรงกับรูปภาพของเราครับ
5. LSI in the Page (การจัดทำดัชนีความหมายแฝง)
LSI หรือ Latent Semantic Indexing ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายใกล้เคียงหรือเรียกง่ายๆ ว่าคำนั้นมีความเกี่ยวข้องกับ Keyword ที่เราต้องการ ซึ่งจะคล้ายๆ กับว่าเราต้องการค้นหา “ผักชีฝรั่ง” แต่เรากลับพิมพ์คำว่า “ผัก” ซึ่งผักแต่ละชนิดจะขึ้นมาปรากฏเต็มเลย โดยจะมีความใกล้เคียงนั้นเองครับ
ซึ่งเคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยได้อีกระดับหนึ่งก็คือหากเกรงว่าเราใส่ Keyword มากจนเกินไปและอาจจะถูก Google Spam ให้เน้นใส่คำใกล้เคียงเข้าไปด้วยครับเพราะจะช่วยให้คำค้นหานั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่ถูก Google ลงโทษด้วยครับ
---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—
ข้อมูลจาก : 2bearsmarketing.com