เมื่อไม่นานที่ผ่านมา Google ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในขณะนี้กำลังนำคุณลักษณะการค้นหาหลายรายการ ซึ่งช่วยให้สามารถค้นหาทั้งรูปภาพ และข้อความไปสู่ประเทศอินเดีย ที่งาน Google for India 

ไม่เพียงเท่านี้ ซึ่งคุณลักษณะดังกล่าวจะให้บริการเป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่วันนี้ และจะรองรับภาษาฮินดีในปีหน้าอีกด้วยครับ

โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้รูปถ่ายของรูปแบบเสื้อผ้าได้ และเพิ่มข้อความเช่น "dress" เพื่อค้นหา dress ที่มีรูปแบบนั้น ซึ่งมัลติเสิร์ชได้รับประกาศครั้งแรกในเดือนเมษายน และบริษัทให้บริการแก่ผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาในเดือนตุลาคมด้วย

ลิงก์ตัวอย่าง : Google India

 

Google กล่าวว่าจะอนุญาตให้ผู้ใช้ค้นหาภายในวิดีโอ YouTube โดยคุณลักษณะนี้จะมีให้ใช้งานใน Google Search จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์วลีหลังจากแตะที่ "ค้นหาในวิดีโอ" จากนั้นคุณจะสามารถค้นหาวลีและผลลัพธ์ก็จะแสดงให้เห็นในวิดีโอ!

ลิงก์ตัวอย่าง : Google India
 

Google ยังระบุว่ากำลังอยู่ระหว่างการตรวจจับคำพูดสำหรับผู้ที่ค้นหาข้อความค้นหาในภาษา Hinglish ตัวอย่างเช่น ถ้ามีคนถามว่า “Sparrow ko Hindi mai kya kehte hai?” (คุณเรียกว่านกกระจอกในภาษาฮินดีว่าอะไร) 

เนื่องจากรุ่นก่อนหน้านี้ตรวจไม่พบสิ่งนี้อย่างถูกต้อง ซึ่งในขณะนี้การค้นที่ได้รับการปรับปรุงจะระบุข้อความค้นหา ที่ถามเป็นภาษาอังกฤษได้ดียิ่งขึ้น

และยิ่งไปกว่านั้น Google ยังอนุญาตให้ผู้ใช้ในอินเดียดูหน้าผลการค้นหาทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฮินดีพร้อมกันได้แล้ว ทั้งนี้ในส่วนของบริษัทกำลังที่จะขยายไปยังภาษามิฬ ภาษาเตลูกู ภาษามาราธี และภาษาเบงกาลีในปีหน้าอีกด้วย!!

 

Google ยังได้แนะนำฟังก์ชันการค้นหาในแอป Googe Pay ที่ใช้ UPI (Unified Payment Interface) และในขณะนี้ผู้ใช้สามารถค้นหาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายประเภทต่างๆ ด้วยข้อความค้นหาที่เป็นภาษาธรรมชาติ เช่น "เดือนที่แล้วฉันใช้จ่ายไปเท่าไหร่กับการซื้อเหล้า"

อย่างไรก็ตามบริษัทกล่าวว่าจะทำให้บางตัวเลือกเหล่านี้ใช้งานได้ง่ายผ่านทางลัดในแอป Google บน iOS และจะขยายไปยัง Android ในภายหลังอีกด้วย

หวังว่าบทความนี้ เกี่ยวกับการอัปเดตข่าวสารในอินเดียจะสามารถสร้างไอเดียให้นักการตลาดได้ไม่มากก็น้อย ในความคืบหน้าด้านผลการค้นหาของประเทศต่างๆ 

 

 

 

--Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—

ข้อมูลจาก : techcrunch.com