04 ต.ค. 2566
660
โฆษณาส่งผลต่อพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์อย่างไร (ข้อมูลพิเศษ)
รายงานล่าสุดพบว่า 53% ของผู้ตอบแบบสำรวจรู้สึกว่า “โฆษณามากเกินไป” ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายให้กับแบรนด์ได้
ปัญหาคือ “โฆษณามากเกินไป”
นักการตลาดพึ่งพาโฆษณาเพื่อเพิ่มปริมาณการเข้าชม, การรับรู้, โอกาสในการขาย และการแปลง ซึ่งผู้สร้าง Content ก็พึ่งพาพวกเขาเพื่อหารายได้เช่นกัน
แต่ในด้านของผู้ใช้ โฆษณาอาจทำให้เกิดความรำคาญในด้านประสบการณ์ของผู้ใช้ได้ หากถือว่าโฆษณานั้นล่วงล้ำเกินไป หรือแม้แต่ขัดขวางประสิทธิภาพของเว็บไซต์
ด้วยเหตุนี้ searchenginejournal จึงได้สำรวจโดยใช้คำถาม 2 ข้อคือ
1.ผู้ใช้ชอบโฆษณาประเภทใด โฆษณาคุณภาพสูงที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา? และ/หรือโฆษณาที่สะท้อนพฤติกรรมออนไลน์ก่อนหน้านี้?
2.อะไรคือความสมดุลในอุดมคติระหว่างโฆษณากับเนื้อหา โดยที่รายได้จากโฆษณาได้รับการปรับให้เหมาะสมในขณะที่ยังคงรักษาประสบการณ์ของผู้เยี่ยมชมไว้?
การทดลองที่ 1: ผู้ใช้ชอบโฆษณาใด
เพื่อทดสอบสมมติฐานเหล่านี้ searchenginejournal ได้สุ่มแบ่งผู้ชมชาวแคนาดาออกเป็น 1 ใน 3 กลุ่ม
โดยผลการทดลองที่ 1: ผู้ใช้ใช้เวลาบนไซต์มากขึ้นเมื่อพวกเขาได้รับโฆษณาหลายรายการ
ผู้ใช้มือถือน้อยลง 52.71% ดู 3 หน้าขึ้นไปเมื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา, ผู้ใช้มือถือน้อยลง 65.12% ดู 3 หน้าขึ้นไป, ผู้ใช้ใช้เวลาอ่านเนื้อหาใน SEJ มากขึ้นเมื่อพวกเขาเห็นโฆษณาผสมกัน
การทดลองที่ 2: ผู้ใช้ชอบโฆษณาน้อยลงหรือไม่
ทำการทดสอบครั้งที่สอง โดยแบ่งผู้ชมชาวแคนาดาของเราออกเป็น 3 กลุ่ม
โดยผลการทดลองที่ 2: การมีส่วนร่วมของผู้ใช้เพิ่มขึ้นเมื่อมีโฆษณามากขึ้น
ผู้ใช้อ่านบทความน้อยลง 50%, 74% ของผู้ใช้เดสก์ท็อปละทิ้งเพจก่อนที่จะเข้าถึงเนื้อหา, ผู้ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ที่เห็นการจัดวางโฆษณามาตรฐานของเรา จะเข้าถึงเนื้อหามากขึ้น คลิกมากขึ้น และอ่านมากกว่าผู้ที่เห็นโฆษณาเพียงเล็กน้อย และกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ผู้ใช้ไม่น่าจะกลับมาที่ไซต์ของเราอีกต่อไปเมื่อเราลดจำนวนโฆษณาลง
เหตุใดผู้ใช้จึงใช้เวลาอ่านมากขึ้นเมื่อมีโฆษณามากขึ้น
พูดตามตรง เราไม่รู้ว่าทำไมผู้ใช้ถึงชอบไซต์ของเราที่มีโฆษณามากกว่า เราไม่สามารถแน่ใจได้หากไม่มีการทดลองเพิ่มเติม แต่เรามีทฤษฎีอยู่สองสามข้อ...ต่อไปนี้
1. Attention: การวิจัยก่อนหน้านี้พบว่าเมื่อโฆษณาไม่ตรงกับเนื้อหาเกี่ยวกับหัวข้อหรือความสวยงามของภาพ ผู้ใช้จะใช้เวลาดูและอ่านเนื้อหาน้อยลง
2. User Intent: การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่าความตั้งใจมีอิทธิพลต่อวิธีที่ผู้ใช้ดูและโต้ตอบกับโฆษณา ในขณะที่ผู้ใช้เพียงเรียกดูข้อมูล พวกเขาจะเห็นและโต้ตอบกับโฆษณามากกว่าเมื่อพฤติกรรมของพวกเขามุ่งเป้าไปที่เป้าหมาย
3. Familiarity: พฤติกรรมศาสตร์พบว่าเรามีความสุขและสบายใจในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย แต่เมื่อบางสิ่งบางอย่างดับลง เราจะสังเกตเห็นและให้ความสำคัญกับสิ่งที่ไม่เข้าข่ายมากขึ้น
4. Belonging: หากโฆษณาบนเว็บไซต์ตรงกับพฤติกรรมออนไลน์ก่อนหน้านี้ของเรา ผสมผสานงานและชีวิตส่วนตัวของเราเข้าด้วยกัน หรือเพียงสะท้อนความกังวลในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ความรู้สึกนั้นอาจสะท้อนถึงเว็บไซต์โดยรวมและแบรนด์
5. Reciprocity: นักพฤติกรรมศาสตร์ได้ตั้งทฤษฎีว่าเว็บไซต์และผู้อ่านแลกเปลี่ยนเนื้อหาเพื่อการดูโฆษณาในรูปแบบสัญญาทางสังคมที่ไม่ได้พูด
6. Repetition: การศึกษาพบว่าการทำซ้ำสามารถช่วยหรือทำร้ายโฆษณาได้ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้มองโฆษณาเหล่านั้นอย่างไร หากคุณชอบโฆษณา คุณจะมองว่าโฆษณานั้นรบกวนน้อยลงและเป็นบวกมากขึ้นเมื่อคุณเห็นมันมากขึ้น
7. Ad Competition: หากโฆษณามีการกำหนดเป้าหมายสูงและผู้ใช้ชอบสินค้าที่โฆษณา เอฟเฟกต์รัศมีสามารถส่งต่อไปยังผลิตภัณฑ์และข้อเสนออื่นๆ บนไซต์ได้ และปรับปรุงการรับรู้ของผู้อ่านเกี่ยวกับไซต์ของเรา
---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—
ข้อมูลจาก: searchenginejournal