John Muller จาก Google ในงาน Hangout ของผู้ดูแลเว็บ ได้บอกเป็นนัยว่าสถาปัตยกรรมไซต์แบบลำดับชั้นสามารถให้ตัวบ่งชี้ที่ดีกว่าแก่ Google เกี่ยวกับ: 1. หน้าต่างๆ ในเว็บไซต์ของและหมายถึงอะไร 2. แต่ละหน้าเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกันอย่างไร

ด้วยความแตกต่างในการออกแบบและหลักโครงสร้างเว็บไซต์ ความคิดเห็นของนักออกแบบและผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO จึงอาจแตกต่างกันอย่างมาก

การสร้างสมดุลระหว่างเว็บไซต์ที่มีรูปลักษณ์สวยงามสำหรับลูกค้า และโครงสร้างที่ออกแบบมาเพื่อการมองเห็นของเครื่องมือค้นหาควรเป็นเป้าหมายสูงสุด

และการจัดระเบียบโครงสร้างเว็บไซต์ ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ SEO หากไม่มีการสร้างสิ่งที่สมเหตุสมผล SEO เนื้อหา และแม้กระทั่งความพยายามในการออกแบบอื่นๆ ของเราอาจไม่มีประโยชน์อะไรเลย

โดยโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดี ควรมีผลกระทบอย่างมากต่อปริมาณการเข้าชมและ Conversion ของ SEO นอกจากนี้ยังควรช่วยให้ทั้งองค์กรของเรามีส่วนร่วมกับผู้ใช้ได้ดีขึ้น และสร้างประสบการณ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และโครงสร้างการบริการของเรา

1. การรวบรวมข้อมูลไซต์

ความสามารถในการรวบรวมข้อมูลไซต์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดเมื่อพูดถึงโครงสร้างเว็บไซต์ โดยความสามารถในการรวบรวมข้อมูลหมายถึง ความสามารถของเครื่องมือค้นหาในการรวบรวมข้อมูลเนื้อหาข้อความทั้งหมดของเว็บไซต์ของเรา เพื่อดูว่าเว็บไซต์ของเราเกี่ยวกับอะไร

2. โครงสร้าง URL

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับวิธีที่โครงสร้างเว็บไซต์ส่งผลต่อ SEO ก็คือกลับมาที่โครงสร้าง URL โดย URL ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของลำดับชั้นของไซต์ที่มีประสิทธิภาพ โดยส่งผ่านโดเมนของเรา และนำผู้ใช้ไปยังปลายทางที่ต้องการ

3. HTTP, HTTPs, HTTP2

HTTPS ช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยของเว็บไซต์ของเรา และในขณะที่ Google ยังคงทำให้เว็บไซต์นี้เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ผู้ใช้ การมีเว็บไซต์ที่ปลอดภัยก็สามารถช่วยเพิ่มอันดับของเราได้

4. การเชื่อมโยงภายใน

พื้นฐานของการนำทางที่เหมาะสมกำหนดว่า ผู้ใช้ควรเดินทางจากหน้าหนึ่งไปอีกหน้าหนึ่งโดยไม่มีปัญหาใดๆ ฉะนั้นการเชื่อมโยงภายในช่วยให้ผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาค้นพบเพจได้ และเช่นเดียวกับการสร้างบ้านรับส่งข้อความช่วยให้มีการไหลเวียนระหว่างเนื้อหาและเพจ

5. เนื้อหาหลักและคำหลัก

การวิจัยเนื้อหาและคำหลักเป็นส่วนพื้นฐานของ SEO และควรเป็นส่วนสำคัญในการสร้างและจัดโครงสร้างเว็บไซต์ของเราตั้งแต่เริ่มต้น ฉะนั้นการตรวจสอบให้แน่ใจว่าสิ่งนี้เสร็จสิ้น จะช่วยให้เราเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย พฤติกรรมการค้นหา และหัวข้อการแข่งขันในโครงสร้างและเลย์เอาต์เว็บไซต์ของเรา

6. เนื้อหาที่ซ้ำกัน

เนื้อหาที่ซ้ำกันเป็นอันตรายต่อ SEO เนื่องจาก Google ตีความว่าเป็นสแปม ฉะนั้นการมุ่งเน้นไปที่เนื้อหาคุณภาพสูงและไม่เหมือนใครบน SERP จะกำหนดอย่างชัดเจนว่า เว็บไซต์ของเราจะต้องถูกจัดโครงสร้างอย่างไรเพื่อ SEO ในอุดมคติ

7. การนำทางและประสบการณ์ผู้ใช้

มาตรฐานการใช้งานที่เว็บไซต์ในปัจจุบันยึดถือเข้มงวดกว่าอินเทอร์เน็ตในยุคแรกๆ มาก หากผู้เยี่ยมชมพบเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นไม่ดี พวกเขาจะหลีกเลี่ยงการโต้ตอบกับเว็บไซต์นั้นต่อไป 

นอกจากนี้ ไม่มีใครอยากเสียเวลาบนเว็บไซต์โดยไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป หากผู้เยี่ยมชมไม่สามารถทราบวิธีค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ พวกเขาจะค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ของคู่แข่ง และประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ดีส่งผลเสียต่อ SEO    

8. Core Web Vitals และประสบการณ์ผู้ใช้

Core Web Vitals เป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดตประสบการณ์การใช้งานหน้าเว็บของ Google และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพ รูปภาพเหล่านั้นอาจส่งผลต่ออันดับได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เน้นไปที่ CLS (Cumulative Layout Shift) และการวัดเนื้อหาและการโหลดเนื้อหาภาพเป็นสิ่งที่ผู้สร้างเว็บไซต์ นักออกแบบ และผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ควรจะร่วมกันดำเนินการ

9. มือถือ

การดูแลให้เว็บไซต์ของเรามีโครงสร้างสำหรับผู้ดูบนมือถือที่มาจากอุปกรณ์ต่างๆ ถือเป็นส่วนสำคัญของการสร้างเว็บไซต์

10. ความเร็วและประสิทธิภาพ

หากโครงสร้างและโครงสร้างเว็บไซต์ของเราไม่เอื้อต่อประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็ว ผลลัพธ์ SEO และผลกำไรของเราจะลดลง ฉะนั้นความเร็วของไซต์และเพจที่ช้า เพจที่ไม่ตอบสนอง และอะไรก็ตามที่ "ต้องใช้เวลา" สำหรับผู้ใช้ จะสร้างความเสียหายให้กับภาพรวมอื่นๆ ของโครงสร้างไซต์เราได้

 

---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—

ข้อมูลจาก: searchenginejournal