เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้อาจรู้จักความหมายและพื้นฐานของ SEO มาก่อนแล้ว เพราะฉะนั้นบทความนี้เราจะพามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “SEO ROI มีการคำนวณอย่างไรและทำไมต้องวัดผล” ซึ่งหลายคนหรือมือใหม่ที่ทำ SEO อาจจะยังไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักและวิธีต่างๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้างไปดูกันเลยครับ

เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องยากและทำให้งงในการคำนวนผลตอบแทนจากการลงทุน แคมเปญ (campaign) ของ SEO ในช่วงแรก เป็นเรื่องที่ยาก ซึ่งไม่มีสูตรตายตัวที่จะหาผลลัพธ์ที่แม่นยำได้ 100% ให้กับการทำ SEO ของคุณได้ครับ ดังนั้น ROI (ผลตอบแทนการลงทุน) ก็ขึ้นอยู่กับสถาณการณ์และปัจจัยต่างๆ ที่อยู่รอบตัวคุณ เช่น การวางกลยุทธ์ธุรกิจ, ประเภทธุรกิจ, และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ

เราจะขอยกตัวอย่างง่ายๆ เพื่อให้ผู้อ่านได้คิดตาม เช่น หากผู้อ่านเปิดร้าน Shopify ซึ่งขายอุปกรณ์ทำอาหาร KPI (ดัชนีวัดผล) หลักของผู้อ่านก็จะเป็นยอดขายผลิตภัณฑ์นั่นเอง แต่หากผู้อ่านเป็นหมอ KPI หลักของผู้อ่านก็จะเป็นการนัดหมายคนไข้ ซึ่งผู้อ่านจะเห็นความแตกต่างกันระหว่างสองอย่างนี้ 

ทั้งนี้ Affiliate (พันธมิตร) ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบแบรนด์อุปกรณ์การทำอาหารของคุณ ก็อาจจะมีการหันมาให้ความสำคัญกับการเติบโตในการ search (ค้นหา) ทั่วไปครับ

ทำไมจึงต้องมีการวัด SEO ROI ก็เพราะมีผลมาจากที่คุณไม่รู้ว่ามีการคืนเงินเป็นจำนวนเท่าใด จากที่คุณได้ลงทุนในทุกๆ รูปแบบกลยุทธ์วิธีการทำ SEO และในที่สุดจะทำให้คุณเองไม่สามารถตรวจสอบหรือชี้วัดได้ว่าวิธีการใดเหมาะสมหรือมีประสิทธิภาพมากที่สุด หรือวิธีการไหนควรแก้ไขหรือไม่นั่นเองครับ

เพราะฉะนั้นจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณนั้นต้องมีการวัดค่าความสำเสร็จสำหรับทุกๆ กลยุทธ์ของทุกๆ ธุรกิจครับ หากคุณไม่มีการ ROI (ผลตอบแทนการลงทุน) คุณเองก็จะไม่มีทางรู้ว่าแคมเป็ญ SEO ของคุณนั้นคุ้มค่าหรือไม่ และอาจทำให้ธุรกิจของคุณสะเปะสะปะไม่รู้ว่าไปในทิศทางบวกหรือลบนั่นเอง

การคำนวน SEO ซึ่งไม่มีสูตรที่ตายตัวสำหรับการคำนวน SEO ROI ดังนั้นถ้าคุณเองกำลังมองหาวิธีการทำ SEO ROI เรามี 2 แนวทางมาแนะนำโดย “Max Roslyakov จาก SEMrush Roslyakov” ซึ่งได้อธิบายการคำนวน ROI ของแคมเปญ SEO ไว้ให้เราใช้ 2 วิธีดังนี้

1. ความเร็วสำหรับการคาดการณ์ แนะนำให้ใช้ keyword (คำสำคัญ) เพื่อให้ตรงตามเป้าหมายจากการวิจัยของ KV และยังให้ตรวจสอบค่าใช้จ่ายของ AdWords จากนั้นนำมาคูณด้วย ผลการเข้าชมที่คาดหวัง และรับมูลค่า โดยให้ประมาณจากเนื้อหาครับ
2. การใช้วิธีที่แม่นยำ โดยให้คำนวณค่า หลังจากนั้นนำปริมานของการเข้าชมเนื้อหามาคูณกับอัตรการแปลงปกติสำหรับ website entity (นิติบุคคลเว็บไซต์) และนำไปคูณกับ CAC ปกติครับ “หลังจากนั้นให้ทำคณิตศาสตร์ ROI = ((มูลค่า-ต้นทุน)/ต้นทุน)*100 เพื่อรับ %”

    เรามาดูวิธียอดนิยม ที่นักการตลาดใช้วิธีการคำนวณเมื่อต้องวัด ROI ของแคมเปญ SEO มีอยู่ 16 ข้อหลักๆ ดังนี้

1. เวลาเฉลี่ยบนเพจ
2. Conversion เป้าหมายของ Google Analytics
3. ค่าท่อ
4. ค้นหา CTR
5. การแมป keyword
6. การส่งแบบฟอร์ม
7. เปรียบเทียบ Gen นำ
8. การจัดอันดับคำหลัก
9. สูตรต้นทุนการลงทุน
10. SEO ทรัพยากรณ์
11. SQLS 
12. เปอร์เซ็นต์ของการเข้าชมอินทรีย์ที่ผ่านการรับรอง
13. การจราจรอินทรีย์
14. ลูกค้าเป้าหมาย
15. การแปลงที่ได้รับการสนับสนุน
16. ฝ่ายขาย

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านที่อยากทราบ “SEO ROI มีการคำนวณอย่างไรและทำไมต้องวัดผล” เพื่อนำไปปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจของท่าน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดประโยชน์อย่างสูงต่อผู้อ่าน สำหรับผู้อ่านท่านใดที่อยากศึกษาในส่วนของการทำ SEO เพิ่มเติมสามารถศึกษาต่อได้ที่ SEO-winner.com ที่สำคัญสามารถปรึกษาเรื่องการทำ SEO ในทุกรูปแบบได้ด้วยครับ

 

---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—  

ข้อมูลจาก : affde.com