13 มิ.ย. 2566

1507

10 เครื่องมือส่องเทรนด์ (หัวข้อ) ที่ได้รับความนิยม by seo-winner.com

10 เครื่องมือส่องเทรนด์ (หัวข้อ) ที่ได้รับความนิยม

แน่นอนว่าเราสามารถค้นหาหัวข้อหรือ keyword ที่กำลังมาแรงได้จากการเรียกดูแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์อุตสาหกรรม และฟอรัมต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้อาจใช้เวลาค่อนข้างมากและไม่มีประสิทธิภาพ

ดังนั้น แทนที่จะแสดงวิธีการต่างๆ ในการขุดค้นข้อมูลด้วยตนเองเพื่อค้นหาหัวข้อที่กำลังเป็นกระแส แต่ในบทความนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับเครื่องมือค้นหาเทรนด์ที่เป็นที่นิยมที่สุดจำนวนหนึ่ง จากการรวบรวมและวิเคราะห์ของ explodingtopics กันเลยครับ!

1. Ahrefs Content Explorer

สำหรับ Ahrefs Content Explorer นั้นให้เราพิมพ์หัวข้อใดก็ได้ จากนั้นมันจะดึงรายชื่อของเพจและเว็บไซต์ยอดนิยมในหัวข้อนั้นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ซึ่งสำหรับแต่ละบทความเราจะสามารถเห็นการจัดอันดับโดเมนของเว็บไซต์ โดเมนอ้างอิง การเข้าชมหน้า และข้อมูลการเข้าชม อีกทั้งเรายังสามารถจัดเรียงตามข่าว วันที่เผยแพร่ และแพลตฟอร์มเพื่อกรองผลลัพธ์

ความน่าเชื่อถือของข้อมูล: Ahrefs ใช้เมตริกการเข้าชมและคะแนนการจัดอันดับโดเมนของตนเองเพื่อกำหนดเนื้อหาที่จะเพิ่มใน Content Explorer ความน่าเชื่อถือของเมตริกเหล่านี้ (โดยเฉพาะเมตริกการเข้าชม) 

ลิงก์: https://ahrefs.com/

2. Awario

Awario นั้นเป็นเครื่องมือรับฟังทางสังคมที่มีฟีเจอร์หัวข้อที่กำลังมาแรงคล้ายกับ  Buzzsumo ซึ่งเราสามารถป้อนคำหลักทั่วไป (และคำหลักเชิงลบ) ลงในแถบค้นหาจากนั้น Awario จะสร้างรายการเนื้อหาที่มีคำหลักนั้น โดยแหล่งเนื้อหาที่ใช้ประกอบด้วย Twitter, Facebook, Instagram, Reddit, Vimeo, News/Blogs และ Web เป็นต้น

ความน่าเชื่อถือของข้อมูล: โพสต์ที่ Awario แสดงนั้นได้รับการจัดอันดับตามการมีส่วนร่วมของโซเชียลมีเดียและความใหม่ เนื่องจากเนื้อหาที่รวมอยู่ได้รับการออกแบบให้เป็นล่าสุด สิ่งที่เราค้นพบจำนวนมากอาจเป็นกระแสนิยมมากกว่าแนวโน้มที่ยั่งยืน

ลิงก์: https://awario.com/

3. Buzzsumo

Buzzsumo นั้นเป็นเครื่องมือสร้างแนวคิดเนื้อหาที่ใช้กันทั่วไป โดยผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO และการตลาดเนื้อหา มีฟีเจอร์หัวข้อที่กำลังมาแรงซึ่งจะสแกนเครือข่ายโซเชียลและรวบรวมโพสต์ยอดนิยมที่เผยแพร่ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยเทรนด์ทั้งหมดจะแบ่งออกเป็นฟีดต่างๆ เช่น ข่าวสาร, การตลาด, เทคโนโลยี, วิทยาศาสตร์ และธุรกิจ เป็นต้น

ความน่าเชื่อถือของข้อมูล: Buzzsumo กำหนดหัวข้อที่กำลังมาแรงตามข้อมูลการมีส่วนร่วมของเนื้อหาภายในวัน/สัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้น แม้ว่าหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งกำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ แต่ก็ไม่รับประกันว่าหัวข้อนั้นจะได้รับความนิยมในอีกหลายปีข้างหน้า

ลิงก์: https://buzzsumo.com/

4. Trends.Co

Trends.co เป็นแพลตฟอร์มเนื้อหาที่นำเสนอบทความรูปแบบการวิจัยตลาดที่คัดสรรมาซึ่งวิเคราะห์หัวข้อที่บรรณาธิการเชื่อว่าจะกลายเป็นเทรนด์ที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม มันเป็นแหล่งที่ดีในการค้นหาบทความเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมเดียว

ความน่าเชื่อถือของข้อมูล: รายงานแนวโน้มแต่ละฉบับมีข้อมูลโดยละเอียด รวมถึงประวัติปริมาณคำหลัก มูลค่าตามราคาตลาด สถิติการขาย และอื่นๆ

ลิงก์: https://trends.co/

5. SparkToro Trending

สำหรับ SparkToro Trending เป็นเครื่องมือวิจัยที่น่าสนใจ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็น “หน้าแรกของเว็บมาร์เก็ตติ้งเวิลด์” ติดตามทวีตที่กำลังมาแรง และจัดรายการเนื้อหาที่มีการแชร์มากที่สุดโดยนักการตลาดบนเว็บที่กระตือรือร้นบน Twitter

ความน่าเชื่อถือของข้อมูล: ข้อมูลถูกรวบรวมตามความนิยมของเนื้อหาที่แบ่งปันโดยสมาชิก ดังนั้นจึงไม่มีหลักฐานทางสถิติใดๆ ที่แสดงว่าแนวโน้มที่แบ่งปันในเนื้อหานั้นมีศักยภาพ

ลิงก์: https://sparktoro.com/trending

6. TrendWatchers

สำหรับ TrendWatchers นั้นเป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อค้นพบเทรนด์ยอดนิยมของ TikTok และ YouTube ซึ่งเราสามารถค้นหาหลักฐานข้อมูลหลักตามหมวดหมู่เช่น ความงาม, การศึกษา, เด็ก, การดูแลตนเอง ฯลฯ จากนั้นระบบจะสร้างรายการหัวข้อยอดนิยมมาให้ ซึ่งผู้ใช้ Pro สามารถกรองหัวข้อเพิ่มเติมตามสถานะการเติบโต (แนวโน้มที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มในช่วงต้น แนวโน้มสูงสุด ฯลฯ) ได้อีกด้วย

ความน่าเชื่อถือของข้อมูล: บางทีปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของ TrendWatchers ก็คือความน่าเชื่อถือของข้อมูล ประการแรก ข้อมูลแนวโน้มทั้งหมดขึ้นอยู่กับปริมาณคำหลักในช่วงไม่กี่เดือนหรือไม่กี่สัปดาห์ ดังนั้นหัวข้อที่ผ่านการรับรองจำนวนมากจึงมีแนวโน้มว่าจะเป็นแฟชั่นที่จะค่อยๆ หายไปเมื่อเวลาผ่านไป

ลิงก์: https://trendwatchers.co/

7. Glimpse

เครื่องมือหลักของ Glimpse คือส่วนขยายของ Chrome ที่เพิ่มข้อมูล Google Trends ดังนั้นเราจึงสามารถไปที่ Google Trends แล้วพิมพ์หัวข้อใดก็ได้ และนอกเหนือจากข้อมูลดั้งเดิมทั้งหมดที่เราได้รับจาก Google Trends แล้ว Glimpse ยังให้เราเข้าถึงเช่น

  • ข้อมูลปริมาณการค้นหาที่แน่นอน (ไม่ใช่แค่ข้อมูลแนวโน้ม)
  • หัวข้อยอดนิยมที่เกี่ยวข้อง
  • ช่องที่พูดถึงหัวข้อนั้น (TikTok, LinkedIn, Reddit ฯลฯ)
  • ผู้คนยังค้นหาหัวข้อต่างๆ
  • แผนที่หัวข้อ

ความน่าเชื่อถือของข้อมูล: ใช้ประวัติปริมาณการค้นหาของ Google เพื่อติดตามสถานะการเติบโตของเทรนด์ และช่วยให้เราจัดเรียงตามปริมาณสูงสุดหรือการเติบโตสูงสุด

ลิงก์: https://meetglimpse.com/

8. Google Trends

Google Trends นั้นเป็นเครื่องมือวิจัยฟรีที่ช่วยให้เราสามารถค้นหาคำหลักใดๆ และจะให้ข้อมูลแนวโน้มเช่น

  • รูปแบบปริมาณการค้นหา (แม้ว่าจะไม่ใช่เมตริกปริมาณการค้นหาที่แน่นอน)
  • ค้นหาข้อมูลประชากร
  • คำแนะนำหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
  • ข้อเสนอแนะคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง

ความน่าเชื่อถือของข้อมูล: ข้อมูล Google Trends มีความน่าเชื่อถืออย่างมาก เนื่องจากมาจาก Google โดยตรง นอกจากนี้ยังวัดความนิยมจากการค้นหาโดย Google ทั้งหมดทั่วโลกโดยตรง!!

ลิงก์: https://trends.google.com/trends/

9. Trend Hunter

สำหรับ Trend Hunter จะนำเสนอฐานข้อมูลเทรนด์ที่ช่วยให้เราสามารถค้นหาตามหัวข้อ เช่น แฟชั่น, เทคโนโลยี, วัฒนธรรม และการออกแบบ อย่างไรก็ตามหากเราพบแนวโน้มที่น่าสนใจ เราสามารถคลิกที่มัน และดูคำจำกัดความพื้นฐานและรูปภาพจำนวนหนึ่งได้

ความน่าเชื่อถือของข้อมูล: บางทีปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของ Trend Hunter ก็คือความน่าเชื่อถือของข้อมูล ตัวอย่างเช่น หัวข้อที่เพิ่มลงในฐานข้อมูลเป็นหัวข้อล่าสุด หลายรายการถูกค้นพบครั้งแรกโดย AI เมื่อหลายวันก่อน ซึ่งทำให้คาดเดาได้ยากว่าหัวข้อดังกล่าวจะเป็นแฟชั่นที่จะจางหายไปอย่างรวดเร็ว หรือเป็นแนวโน้มที่มีแนวโน้มว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอีกหลายปีข้างหน้า

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะประเมินความสนใจของตลาดเป้าหมายของเรา ในแนวโน้มดังกล่าวอย่างถูกต้องตามข้อมูลนี้

ลิงก์: https://www.trendhunter.com/

10. Exploding Topics

คุณลักษณะเด่นของ Exploding Topics คือ Trends Database ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่ค้นหาได้ 13,000 เทรนด์ที่ตรวจสอบด้วยตนเอง โดยเราสามารถจัดเรียงฐานข้อมูลตามหมวดหมู่ เช่น ความงาม, การเงิน, อาหาร, เกม และสัตว์เลี้ยง อีกทั้งยังกรองตามสถานะการเติบโตของเทรนด์ (Exploding, Peaked และ Regular) ซึ่งกำหนดโดยข้อมูลปริมาณการค้นหาของ Google

ความน่าเชื่อถือของข้อมูล: Exploding Topics ใช้ข้อมูลปริมาณการค้นหาของ Google เพื่อกำหนดสถานะการเติบโตของแต่ละแนวโน้ม เราพบว่านี่เป็นวิธีที่น่าเชื่อถือที่สุดในการคาดการณ์การเติบโตในอนาคตของเทรนด์ เนื่องจากเป็นการดึงข้อมูลจากกิจกรรมการค้นหาของประชากรทั่วโลก

ลิงก์: https://explodingtopics.com/






 

---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ

ข้อมูลจาก : explodingtopics.com

 

บทความ

เหตุผลที่ WordPress ต้องใช้ Web Hosting

เหตุผลที่ WordPress ต้องใช้ Web Hosting

WordPress ต้องใช้ Web Hosting เพราะ Web Hosting เป็นที่ที่เก็บไฟล์และข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ รวมถึงทำให้เว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้บนอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไม Dwell Time ถึงสำคัญสำหรับ SEO

ทำไม Dwell Time ถึงสำคัญสำหรับ SEO

Dwell Time เป็นหนึ่งในปัจจัยที่บ่งบอกถึงความพึงพอใจของผู้ใช้และคุณภาพของเนื้อหาในเว็บไซต์ การเพิ่ม Dwell Time จึงเป็นวิธีที่ช่วยปรับปรุง SEO และผลการจัดอันดับของเว็บไซต์ในเครื่องมือค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

Traditional SEO คืออะไร

Traditional SEO คืออะไร

Traditional SEO เป็นกระบวนการที่ใช้เทคนิคและกลยุทธ์ต่างๆ ในการปรับปรุงอันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา โดยการปรับแต่งทั้งด้านในและด้านนอกของเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและความน่าเชื่อถือให้กับเครื่องมือค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

อัตราการแปลง (Conversion Rate)

อัตราการแปลง (Conversion Rate)

อัตราการแปลง (Conversion Rate) ใน SEO เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดความสำเร็จของเว็บไซต์ในการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้าหรือผู้ที่ดำเนินการตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ... อ่านเพิ่มเติม

Impressions คืออะไร

Impressions คืออะไร

Impressions คือการวัดการแสดงผลของเนื้อหาหรือโฆษณาบนหน้าจอของผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้เข้าใจถึงการเข้าถึงและการมองเห็นแบรนด์หรือเนื้อหาของเราในตลาด ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Page Speed

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Page Speed

Page Speed เป็นสิ่งที่สำคัญทั้งในการเพิ่มประสิทธิภาพ SEO และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน เว็บไซต์ที่โหลดเร็วจะช่วยให้ผู้ใช้มีความสุขในการใช้งาน ทำให้โอกาสในการทำอันดับในผลการค้นหาดีขึ้น ... อ่านเพิ่มเติม

Accessibility สำคัญยังไง

Accessibility สำคัญยังไง

Accessibility หรือการเข้าถึง คือการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันให้สามารถใช้งานได้โดยผู้ใช้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีความทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว การได้ยิน หรือการมองเห็น ... อ่านเพิ่มเติม

กลยุทธ์ SEO ระดับนานาชาติ

กลยุทธ์ SEO ระดับนานาชาติ

การทำ International SEO ช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายการเข้าถึงผู้ใช้จากหลายประเทศและหลายภาษาได้ ทำให้เพิ่มโอกาสในการเติบโตในตลาดต่างประเทศ และสามารถปรับกลยุทธ์ SEO ให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละตลาด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ, ยกระดับการแสดงผลในผลการ ... อ่านเพิ่มเติม

การลงโทษจาก Google

การลงโทษจาก Google

การลงโทษจาก Google มักจะเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่ละเมิดกฎและข้อกำหนดของ Google Search หรือ Google Play Store ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับในผลการค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม