Metaverse เป็นคำศัพท์แห่งอนาคตที่เราได้ยินมาอย่างต่อเนื่องเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เองค่ะ ซึ่งได้กลายเป็นที่นิยมและได้รับการพูดถึงทั่วโลก หลังจากที่ Mark Zuckerberg CEO ของ Facebook ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทจากเดิม Facebook เป็น Meta

Metaverse มาจากคำว่า Meta กับ Verse รวมแล้วได้ความหมายว่าเป็น “จักรวาลที่อยู่เหนือจินตนาการ” ปรากฏครั้งแรกในนวนิยาย Sci-Fi ที่มีชื่อว่า Snow Crash เป็นโลกอีกใบที่ให้ผู้คนได้เข้ามามีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันผ่านการจำลองเป็นตัวละครต่าง ๆ (Avatar) 

ตัวอย่างเช่น เกมออนไลน์ที่มีผู้เล่นสวมบทบาทเป็นตัวละครอวาตาร์ (Avatar) เหมือนที่พบในโลก OASIS ของนวนิยายเรื่อง Ready Player One หรือจะเป็นพื้นที่โลกเสมือนจริงที่ให้คนได้พบปะสังสรรค์และทำกิจกรรมต่างๆ ในโปรแกรม Zoom 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าตั้งแต่เกิดการล็อกดาวน์มาในปี 2020 ส่งผลให้เราทุกคนใช้เวลาบนออนไลน์มากขึ้น และกลายเป็นช่องทางหลักในการดำเนินชีวิต จนวันนี้เราแยกการออนไลน์ออกจากชีวิตออฟไลน์ไม่ได้โดยง่ายอีกต่อไป คิดภาพง่ายๆ ถ้าเราไม่มีโทรศัพท์มือถือหรือไร้อินเทอร์เน็ตคงอยู่ยาก ไหนจะกดเงินแบบไร้บัตร ไหนจะโอนเงินจ่ายค่าข้าว ไหนจะเรียกแอปสั่งอาหาร ไหนจะสั่งของจาก 7-11 หน้าหมู่บ้านให้มาส่งที่บ้านระหว่างนอนดูซีรีส์บน Netflix ผ่านอินเทอร์เน็ตไปพลางๆ จะเห็นได้ว่าไม่มีเส้นแบ่งระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์อีกต่อไป เพราะชีวิตออฟไลน์ที่เราต้องกิน ต้องใช้ ต้องหายใจ ก็ล้วนแต่ถูกขับเคลื่อนด้วยการออนไลน์ทั้งนั้น 

แต่ประเด็นสำคัญคือตอนนี้มีคนแค่ 38% บนโลกเท่านั้นที่เคยได้ยินคำว่า Metaverse และพอจะรู้ว่ามันคืออะไร
93% เห็นว่าในอนาคตเราต้องพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น
76% ยอมรับว่าทุกวันนี้ใช้ชีวิตโดยไร้เทคโนโลยีไม่ได้อีกต่อไป
81% บอกว่า Digital Experience ของแบรนด์ส่งผลให้พวกเขาอยากซื้อที่ร้านจริง

 

 

ตัวอย่างแบรนด์ที่ทำการตลาดโดยใช้ Metaverses ในปัจจุบันมีหลายธุรกิจที่เริ่มลงทุนเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ทำ Metaverse ไม่ใช่แค่เพื่อวัตถุประสงค์ของความบันเทิงแต่เพียงอย่างเดียว แต่ในเชิงของการทำธุรกิจก็เช่นกัน 

• Facebook มองตัวเองในอนาคตว่าจะนำแนวคิด Metaverse มาปรับใช้ในองค์กร มาร์ก ซักเคอร์เบิร์คเจ้าของ Facebook ยังกล่าวไว้อีกว่าจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างเครือค่ายสังคมออนไลน์ Metaverse และหันมาลงทุนใน Oculus, เทคโนโลยี AR และ VR บนแพลตฟอร์มมากขึ้นอีกด้วย
• Silicon Valley หรือกลุ่มแบรนด์ที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก ก็กำลังให้ความสนใจกับแนวคิด Metaverse ในแง่มุมของการเป็นส่วนหนึ่งในเครือค่ายอินเตอร์เน็ตบนแพลตฟอร์มของตัวเองในอนาคตนี้เช่นกัน ในปัจจุบันมีหลากหลายเกมที่นำไอเดียนี้ไปปรับประยุกต์ใช้ ยกตัวอย่างเช่น เกม Fortnite และ Animal Crossing ที่มีการจัดคอนเสิร์ตภายในแพลตฟอร์มเกมของตัวเอง 
• HTC ผู้นำในเรื่องเทคโนโลยี VR ระดับโลก ก็กำลังหาหนทางสร้างโอกาสให้กับธุรกิจจากไอเดียนี้อยู่เช่นกัน จากเมื่อก่อนที่มุ่งเน้นไปที่การเลือกเอากลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นตัวตั้งแล้ว และนำไปต่อยอดวางแผนธุรกิจ แต่ในตอนนี้ถ้าแบรนด์ได้เปลี่ยนทิศทางไปให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีในเชิงธุรกิจ หรือเชิงพาณิชย์มากขึ้น จึงเป็นสัญญาณอีกอย่างหนึ่งว่าในวันข้างหน้า เทคโนโลยี VR จะค่อยๆ กลายเป็นมากกว่าแค่การให้ความบันเทิงแก่ผู้บริโภค หากแนวคิดที่ว่านี้สามารถเกิดขึ้นได้จริง 

​

​

 

​​ในอนาคตเราบางทีเราอาจจะสามารถซื้อขายบ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์ในโลก Metaverse ก็เป็นได้ค่ะ น่าสนใจมากๆ ใช่ไหมคะ สำหรับการมีบ้านอยู่ในโลกใบที่ 2 คงต้องติดตามรอดูกันค่ะ ว่าเราจะสามารถไปถึงตรงนั้นได้หรือไม่

Metaverse หรือพื้นที่จำลองในโลกดิจิทัลแบบเสมือนจริง จะเข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตของเรามากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา เกม ความบันเทิงต่าง ๆ และด้านธุรกิจ หากแบรนด์ของคุณสามารถนำไอเดีย Metaverse มาใช้ให้เข้ากับแคมเปญ หรือการสร้างคอนเทนต์ของคุณให้โดดเด่น จะเป็นช่องทางสำคัญที่จะนำลูกค้าของคุณไปสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ล้ำสมัยได้ และนั่นคือกุญแจที่จะนำแบรนด์ของคุณไปสู่การเปิดช่องทางในการขาย และกลายเป็นที่รู้จักในตลาดทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ค่ะ