01 ธ.ค. 2560
3087
ความเชื่อผิดๆ ในการทำธุรกิจ SMEs
เราอยู่ในยุคที่ใครก็ต่างเป็นเจ้าของธุรกิจได้ อีกทั้งเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทันสมัยในขณะนี้สามารถทำให้เรานั้นเริ่มธุรกิจได้ง่ายขึ้น เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส หรือการที่เรามีแค่ Smartphone เครื่องเดียว ก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างไม่ยากอีกต่อไป อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการเริ่มต้นธุรกิจนั้นจะง่ายดายเพียงไม่กี่ขั้นตอน แต่การดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้นต้องมีความรู้และความสามารถประกอบกันด้วย และความเชื่อผิดๆ ต่อไปนี้ที่จะช่วยให้เราเหล่าผู้ประกอบการทั้งหลายได้หลีกเลี่ยงและเลือกที่จะปฏิบัติให้ธุรกิจ SMEs ของเรานั้นก้าวหน้าและประสบความสำเร็จ
ความสำเร็จมักจะมาชั่วข้ามคืน
อย่าไปคิดว่าความสำเร็จนั้นจะมาเร็วดั่งสายฟ้าฟาด เพราะใครก็ต่างอยากให้ความฝันเป็นจริง หรือความสำเร็จในสิ่งที่คาดหวัง และสิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องลงมือทำอย่างจริงจัง มีการคิดวิเคราะห์ วางแผน เพื่อให้ผ่านปัญหา อุปสรรค และการเรียนรู้ต่างๆ อีกมากมาย ดังนั้นความสำเร็จไม่ได้มาง่ายๆ ถ้ามัวแต่รอโชคชะตาและไม่ลงมือทำสักที
ของดีเดี๋ยวก็มีคนมาซื้อ นั่งรอให้มียอดขาย
หากการที่เราคิดว่าสินค้าและบริการของเราดีมาก และรอให้คนมาซื้อโดยที่คิดว่า ของดีเดี๋ยวก็มีคนมาซื้อเอง นั่นคือการที่คิดผิดมหันต์ เพราะเมื่อเราผลิตสินค้าและบริการออกมาแล้ว สิ่งต่อมาที่ควรทำนั่นก็คือ การโปรโมท ทำการตลาดให้กับสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคได้รู้จักแบรนด์ของเราและเกิดเป็นการซื้อขาย ใช้งาน และกล่าวถึงในกลุ่มผู้บริโภคเพื่อเกิดเป็นโอกาสในการซื้อขายครังต่อๆ ไป และอย่าลืมว่า เรื่องสถานที่ขาย ราคา โปรโมชั่น และกิจกรรมทางตลาดอื่นๆ ก็สำคัญมากๆ รวมไปถึงการทำ Branding ด้วย
ขยันแล้วจะดีเอง แต่หากขยันในสิ่งที่ไม่ใช่ก็จะกลายเป็นทำลายความสำเร็จได้เหมือนกัน
การทำธุรกิจแล้วต้องขยันนั้นคือสิ่งที่ดีและถูกต้อง แต่ควรจะขยันให้ถูกจุด หากขยันในสิ่งที่ไม่จำเป็น ก็เท่ากับการที่เราเอาเวลาไปทำในสิ่งีท่ไร้ประโยชน์ เสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ ยกตัวอย่างเช่น ขยันออกไปหาลูกค้าและได้ลูกค้ามากมาย แต่ไม่มีเวลาพัฒนาสินค้าและบริการ ทำให้สินค้าของเรานั้นยังไม่ตอบโจทย์ และไม่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า นั่นก็ส่งผลให้ธุรกิจของเราไม่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
ไม่วางแผนระยะยาว
สิ่งที่ควรทำในธุรกิจนั้นคือการวางแผนระยะสั้นและระยะยาว ควรทำตั้งแต่แรกเริ่มและทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะการวางแผนระยะสั้นนั้นจะทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที อีกทั้งการวางแผนระยะยาวจะช่วยให้เราบริหารธุรกิจได้อย่างรอบคอบมากขึ้นเช่นกัน การวางแผนระยะยาวนั้นจะทำให้เราเห็นถึงความเสี่ยง การเงิน การเมือง การนำเข้าออกสินค้า รวมไปถึงเทรนด์ต่างๆ ที่เราต้องปรับตัวในอนาคตอีกด้วย เพราะถ้าหากบริษัทของเราไม่มีการวางแผนระยะยาว เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เราก็อาจไม่มีเงินทุนสำรอง หรือแผนรับมือการเปลี่ยนแปลง อาจทำให้บริษัทเกิดวอกฤตที่แย่ลงได้อย่างรวดเร็ว
เป็นเจ้าของธุรกิจสบายกว่างานประจำ
หากคิดว่าการทำธุรกิจนั้นเป็นงานเหมือนที่เราทำงานประจำ มีวันหยุด มีวันพักผ่อน มีเวลาเลิกงาน ก็สามารถคิดอย่างนั้นได้ แต่อันที่จริงแล้วธุรกิจ SMEs นั้นเปรียบเสมือนชีวิต เพราะว่าถ้าหากเราหยุดงานเราก็จะไม่มีรายได้ หยุดคิดธุรกิจของเราก็ไม่พัฒนา หยุดวิเคราะห์ก็อาจแพ้คู่แข่งในตลาด ดังนั้นอย่าเพิ่งละเลย หรือว่าวางใจ ถ้าหากธุรกิจของเรายังไม่ประสบความสำเร็จ ขยันเข้าไว้เพื่ออนาคต!
ที่มา : thaismeresearch