30 พ.ย. 2560
61515
มาทำความรู้จัก CPC, CPM, CPA, ECPC, VCPM, CPV กันเถอะ
หลายคนอาจสงสัยว่าตัวย่อเหล่านี้คืออะไร มีความหมายอย่างไร ตัวย่อเหล่านี้นั้นคือ โมเดลในการคิดค่าโฆษณานั่นเอง ซึ่งการทำโฆษณาออนไลน์นั้นมีโมเดลในการคิดค่าโฆษณาที่หลากหลายขึ้นอยู่กับแต่ละ Platform ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google, Bing, Youtube และ Platform การโฆษณาอื่นๆ นั้นก็จะมีรูปแบบโมเดลที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็จะมีรูปแบบโมเดลการคิดค่าโฆษณาที่คล้ายคลึงกันอยู่ แล้วการคิดเงินโฆษณาในแต่ละ Platform เป็นอย่างไร มีอะไรบ้าง หลายท่านที่ลงโฆษณาอาจจะยังไม่เข้าใจ และข้อมูลต่อไปนี้จะช่วยให้ไขข้อข้องใจได้อย่างกระจ่างทันท่วงที
CPC : Cost Per Click
โมเดลในการคลิกโฆษณาต่อการคลิก 1 ครั้ง โดยผู้ลงโฆษณาจะเสียเงินเฉพาะเมื่อลูกค้าคลิกที่โฆษณาเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น จะจ่าย 5 บาทต่อการคลิกหนึ่งครั้ง (CPC = 5 บาท) ดังนั้นจึงหมายความว่า ถ้าโฆษณาของเราไม่ถูกคลิกก็ไม่ต้องเสียเงินถึงแม้ว่าโฆษณานั้นจะแสดงอยู่ก็ตาม ซึ่งโมเดลนี้เป็นโมเดลยอดนิยมที่่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายใน Platform ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook, Bing โดยปกติแล้ว CPC จะถูกนำไปต่อยอดกับการประมูลพื้นที่โฆษณาเพื่อหาราคาที่ดีที่สุดที่โฆษณาจะแสดงในตำแหน่งนั้น
CPM : Cost Per Thousand Impression
โมเดลในการคลิกค่าโฆษณาต่อการแสดงโฆษณาครบ 1,000 Impression โดยไม่สนใจว่าจะมีจำนวนการคลิกที่โฆษณากี่ครั้ง ยกตัวอย่างเช่น CPM = 50 บาท หมายความว่าผู้ที่ลงโฆษณจะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวน 50 บาท เมื่อโฆษณาแสดงครบ 1,000 Impression โดยส่วนมากแล้วมักจะใช้กับโฆษณาในรู)แบบ Display ป้ายโฆษณาที่แปะตามเว็บไซต์ต่างๆส่วนใหญ่จะใช้โมเดลนี้ในการคิดเงินจากผู้ลงโฆษณา รวมถึง Facebook เองก็ใช่โมเดลนี้เป็น Default ในหลายๆ Objective ด้วยเช่นเดียวกันกับเครือข่ายดิสเพลย์ของ Google
CPA : Cost Per Acquisition หรือ Cost Per Action
โมเดลในการคิดค่าโฆษณาต่อหนึ่งการกระทำ (Action) ที่เกิดขึ้นในเว็บไซต์เช่นการสั่งซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก การลงทะเบียน การดาวน์โหลดไฟล์ เป็นต้น หมายความว่าผู้ลงโฆษณาจะจ่ายเงินเฉพาะเมื่อลูกค้าคลิกโฆษณาเข้าไปในเว็บไซต์แล้วกระทำบางอย่างที่เป็น Conversion เท่านั้น
(Conversion คือการสั่งซื้อสินค้า สมัครสมาชิก ลงทะเบียน ดาวน์โหลดไฟล์) หากลูกค้าคลิกเข้าชมโฆษณาแต่ไม่ได้ซื้อสินค้า ผู้ลงโฆษณาก็จะไม่เสียเงินค่าโฆษณา เป็นโมเดลยอดนิยมของบรรดาผู้ให้บริการ Affiliate ทั้งหลาย
ECPC : Enhanced Cost Per Click
โมเดลการคิดค่าโฆษณาที่พบได้ใน Google Adwords ซึ่งรูปแบบการคิดเงินจะเหมือนกับ CPC ทุกประการ แต่อย่างที่เรารู้กันดีว่าการลงโฆษณาใน Google Adwords เป็นการประมูลเพื่อแย่งชิงพื้นที่ เจ้าโมเดล ECPC ก็จะเข้ามาต่อยอดเพิ่มเติมจาก CPC ปกติด้วยการเพิ่มราคาประมูลให้สูงขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อ Learning machine ของ Google ประเมินว่าผู้ค้นหารายนั้นมีแนวโน้มที่จะเข้ามาสร้าง Conversion ในเว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณา
VCPM : View-able Cost Per Thousand Impression
VPCM นั้นถูกต่อยอดมาจากโมเดล CPM เป็นโมเดลการคิดค่าโฆษณาที่กำลังถูกผลักดันจาก Platform ต่างๆ ทั่วโลกและจะเป็นโมเดลที่นิยมมากขึ้น แต่เดิมแล้วโมเดล CPM จะคิดค่าโฆษณาจากการแสดงโฆษณาครบ 1,000 Impression ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือบางครั้งโฆษณาถูกโหลดขึ้นมาจริง เกิด Impression ขึ้นจริง แต่ผู้ใช้ไม่เห็นโฆษณาเหล่านั้น เนื่องจากบางทีมันอาจจะไปซ่อนอยู่ด้านล่างของเว็บไซต์ หรือ แสดงอยู่ในจุดที่ผู้ใช้ยังเลื่อนจอไปไม่ถึง ทำให้ Impression นั้นเป็นเหมือนการแสดงผลที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ ดังนั้นโมเดล VCPM จะถูกนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ คือจะนับเฉพาะ Impression ของโฆษณาที่แสดงอยู่ในตำแหน่งที่ผู้ใช้สามารถมองเห็นได้เท่านั้น
CPV : Cost Per View
โมเดลในการคิดค่าโฆษณาต่อการชมวิดีโอหนึ่งครั้ง ส่วนมากแล้วจะใช้กับ Platform วิดีโอ เช่น Youtube, Facebook video คิดเงินเมื่อผู้ใช้ดูวิดีโอจนครบเวลาที่ Platform เหล่านั้นกำหนด
โมเดลในการคิดโฆษณานั้นมีอย่างหลากหลายนับไม่ถ้วน แต่ 6 โมเดลข้างต้นเป็นโมเดลหลักที่ผู้ลงโฆษณาทั้งหลายได้เลือกใช้ ดังนั้นผู้ลงโฆษณาจึงต้องทำความเข้าใจกับการลงโฆษณาเหล่านี้เพื่อที่จะได้ปฏิบัติอย่างเหมาะสมและไม่เสียเวลา หรือเสียค่าใช้จ่ายไปอย่างไม่คุ้มค่า
ที่มา : hooktalk