19 มิ.ย. 2567
332
Responsive Web Design
การออกแบบ Responsive สำคัญการการทำเว็บเว็บไซต์เป็นอย่างมาก เพื่อรองรับกับขนาดหน้าจอ อุปกรณ์ ทุกชนิดส่งผลดีต่อผู้ใช้และเจ้าของเว็บไซต์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ User สามารถใช้งานเว็บไซต์ได้ง่ายที่สุด สามารถทำ SEO ผ่าน Mobile ได้อย่างง่ายดาย เพราะ Googlebot-Mobile ส่วนใหญ่ จะให้ความสนใจกับเว็บไซต์ที่ รองรับอุปกรณ์ Mobile โดยตรง เป็น ปัจจัยการจัดอันดับของ Google อย่างนึง แต่ว่า อาจจะทำให้เกิดปัญหาในการใช้งานได้ เช่น การที่ข้อมูลบางอย่างถูกโหลดเข้ามา ทั้งที่ปกติควรจะซ่อนไว้
ข้อจำกัดในการทำ Responsive
-เว็บไซต์ที่ทำขึ้นมาห้ามเป็น Flash เด็ดขาด เพราะอุปกรณ์บางอย่างไม่รองรับการใช้งานแบบ Flash มีข้อจำกัดในการออกแบบ เพราะว่าเว็บไซต์ในรูปแบบนี้ จะสามารถออกแบบให้เป็น ลักษณะกล่อง หรือ Block ได้เท่านั้น ถ้าอยากได้แบบแปลกออกไป ล้ำ ๆ จะทำให้เกิดความซับซ้อนและแก้ไขยากมากขึ้น
-มีความยุ่งยากในการแก้ไขสูง ต้องวางแผนให้ดีและคิดรอบคอบก่อน
-การเขียนโปรแกรมขึ้นมาจะต้องใช้ระบบ HTML5 เท่านั้น
-จะต้องทดสอบให้ดีว่าสามารถใช้ได้ทุกอุปกรณ์ไหมและถ้าไม่ได้จะต้องมีการแก้ไข
เนื้อหา (Useful Content)
-เนื้อหาในเว็บไซต์ต้องสมบูรณ์และได้รับการปรับปรุงพัฒนาให้ทันสมัยอยู่เสมอ สร้างสรรค์ขึ้นมาเองและไม่ไปซ้ำกับเว็บอื่น
ความคงที่ของการทำงาน (Function Stability)
-ระบบการทำงานต่าง ๆ ในเว็บไซต์ควรมีความถูกต้องแน่นอน เช่น ลิงค์ต่าง ๆ ในเว็บไซต์ ต้องตรวจสอบว่ายังสามารถลิงค์ข้อมูลได้ถูกต้องไหม ลิงค์ไปถูกหน้าไหม
เนื้อหาที่ควรมีในเว็บไซต์
-ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท องค์กร หรือผู้จัดทำ (About Us) เพื่อบอกให้รู้ว่า เป็นใคร มาจากไหน และต้องการนำเสนออะไร
-รายละเอียดของผลิตภัณฑ์หรือบริการ (Product/Service Information)
-ข่าสาร (News/Press Release) เพื่อให้รับรู้ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับบริษัทหรือเว็บไซต์
-คำถามคำตอบ (Frequently Asked Question) เพราะบางส่วนอาจะไม่เข้าใจ ข้อมูลหรือมีปัญหาที่ต้องการสอบถาม
-ข้อมูลในการติดต่อ (Contact Information)
ส่วนประกอบย่อยอื่น ๆ ที่จำเป็น
-Text ข้อความปกติ หรือแต่งลูกเล่นอะไรให้น่าสนใจ
-Graphic รูปภาพ ลายเส้น
-Multimedia ภาพเคลื่อนไหว เพลง เสียง สื่อ
-Counter ใช้นับจำนวนคนที่เข้ามาในเว็บไซต์
-Cool Link ใช้เชื่อมไปยังเว็บตัวเองหรือเว็บคนอื่น
-Forms ใช้ผู้ใช้ กรอกรายละเอียด แล้วส่งกลับมา
-Frames การแบ่งจอภาพเป็นส่วนๆ แต่ละส่วนก็จะแสดงข้อมูลที่แตกต่างกันและเป็นอิสระจากกัน
-Image Maps เป็นรูปภาพขนาดใหญ่ที่กำหนดส่วนต่าง ๆ เพื่อเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ
การสร้างประสบการณ์ที่ดี (User Experience)
เมื่อเรามีโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดี Responsive ที่ดี จะทำให้ผู้เข้าเว็บไซต์ หาข้อมูลได้อย่างครบถ้วน เมื่อผู้ใช้รู้สึกดี ก็จะแนะนำต่อและมีโอกาสเพิ่ม CTR เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้าได้
หลักการสำคัญของการออกแบบ Responsive
-Fluid Grid ใช้ระบบ Grid แบบยืดหยุ่น ปรับขนาดตามหน้าจอโดยไม่ต้องกำหนดขนาดตายตัว
-Media Queries ใช้ CSS Media Queries กำหนดรูปแบบการแสดงผลที่แตกต่างกันสำหรับหน้าจอขนาดต่างๆ
-องค์ประกอบที่ยืดหยุ่น ออกแบบองค์ประกอบต่างๆ ของเว็บไซต์ให้สามารถปรับขนาดและเปลี่ยนแปลงตามขนาดหน้าจอ
-รูปภาพที่ตอบสนอง ใช้รูปภาพแบบ Responsive ปรับขนาดและความละเอียดให้เหมาะสมกับหน้าจอ
-การทดสอบบนอุปกรณ์จริง ทดสอบการแสดงผลของเว็บไซต์บนอุปกรณ์ต่างๆ จริงๆ เพื่อให้มั่นใจว่าใช้งานได้ดี
ข้อดีของการออกแบบ Responsive
-ผู้ใช้เข้าถึงเว็บไซต์ได้ง่ายบนทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต
-ประสบการณ์การใช้งานที่ดี หน้าเว็บไซต์แสดงผลได้ชัดเจน อ่านง่าย ใช้งานง่าย
-ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ไม่ต้องออกแบบเว็บไซต์แยกต่างหากสำหรับแต่ละอุปกรณ์ ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
-ดีต่อ SEO เว็บไซต์ที่ออกแบบ Responsive เป็นมิตรกับ SEO ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าแรกของผลการค้นหาได้ง่ายขึ้น
สรุป
การทำ Responsive เว็บนอกจากจะส่งผลดีต่อผู้ใช้แล้วยังส่งผลดีกับเว็บไซต์อีกด้วย แต่อย่าลืมว่า การวางแผน ออกแบบ วางเลเอ้าท์ ให้ดีรอบคอบ ก็เป็นส่วนหนึ่งในการทำ Responsive เว็บไซต์ เปรียบเสมือนการสร้างตึก วางโครงสร้างดี ตึก็สวยงาม แต่ถ้าวางโ๕รงสร้างไม่ดี ตึกอาจจะถล่มได้
---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—
ข้อมูลจาก: นักเขียนนิรนาม