10 ก.ย. 2564

1653

SEO Content เขียนอย่างไร จึงจะติดอันดับ ? by seo-winner.com

SEO Content เขียนอย่างไร จึงจะติดอันดับ ?

การเขียน SEO Content จะทำให้บทความของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น จะช่วยให้บทความของคุณติดอันดับบน Google ทำให้มีคนค้นหาเว็บไซต์ และบทความของคุณเจอเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย วันนี้เราจะพามาหาคำตอบกันค่ะ ว่าควรต้องทำอย่างไรบ้าง ?

1. กำหนด Keyword 
สำหรับการเขียน SEO Content นั้นต้องมีการกำหนด Keyword ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับบทความที่เราเขียน โดยต้องวิเคราะห์ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะมาอ่านบทความของเราเป็นใคร และเขาจะใช้ Keyword อะไรในการค้นหา และอย่าลืมว่า Keyword มี่เราเลือกใช้ต้องมีปริมาณการค้นหา (Search Volume) ประมาณหนึ่งด้วย

ยกตัวอย่างง่ายๆ ก่อนอื่นเราต้องดูว่าประเด็นที่เราจะเขียนนั้นคืออะไร เราสามารถนำประเด็นนั้นมาเป็น Keyword ตั้งต้นได้ เช่น การตลาดวันละตอนจะเขียนเรื่อง กลยุทธ์ในการทำการตลาดออนไลน์ Keyword ที่เหมาะสมก็คือ กลยุทธ์การตลาด หรือ กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ เป็นต้น

2. ใส่ Keyword ให้ถูกตำแหน่ง
การใส่ Keyword ควรแทรกให้กระจายอยู่ในส่วนต่างๆ ของบทความ แต่ต้องไม่มากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของเราเป็นพวกสแปมคีย์เวิร์ดได้ 

ปกติแล้ว SEO Content จะมีความยาวโดยประมาณอยู่ที่ 700-1,000 คำ ซึ่งปริมาณ Keyword ที่แทรกอยู่ในส่วนต่างๆ ของเนื้อหานั้น ก็ควรอยู่ที่ประมาณ 15-20 คำ

โดยตำแหน่งที่เราแนะนำให้แทรก Keyword เข้าไปก็คือ 

– ชื่อบทความ
– Slug หรือชื่อลิงก์ของบทความ
– ย่อหน้าแรก
– หัวข้อต่างๆ (แต่ไม่จำเป็นต้องใส่ทุกหัวข้อ)
– ชื่อภาพ และ Alt Text ของภาพ

3. วางโครงสร้างบทความให้ชัดเจน
การวางโครงสร้างบทความนั้นจะช่วยให้เราจับประเด็นในการเขียน และเรียงลำดับความสำคัญได้ดีขึ้น แถมยังทำให้ผู้อ่านอ่านง่ายสบายตาขึ้นอีกด้วย

โดยให้หัวข้อหลักเป็น H1 หัวข้อย่อยเป็น H2 และ H3 ตามลำดับความสำคัญ

4. อย่าลืม Internal Link และ External Link
การใส่ Internal Link (ลิงก์ภายในเว็บไซต์) เพื่อให้สามารถคลิกไปอ่านบทความ หรือหน้าอื่นๆ ในเว็บไซต์ จะสามารถช่วยเพิ่ม Traffic และ ทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของเรานั้นมีความเชื่อมโยงกัน

ส่วนการใส่ External Link นั้นเป็นการลิงก์ไปหาเว็บไซต์อื่นภายนอก ยิ่งเป็นการลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพ Google ก็จะมองว่าเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพไปด้วย 

5. ปรับแต่ง Title Tag และ Title Description 
การทำ SEO Content นอกจากส่วนของบทความแล้วก็มีส่วนการปรับแต่ง Title Tag และ Title Description นี่แหละที่ลืมไม่ได้

Title Tag
สำหรับ Title Tag ควรต้องมี Keyword อยู่ด้วย ซึ่งเราสามารถนำชื่อบทความมาใช้ได้เลย แต่หากชื่อบทความยาวเกินไปก็อาจตัดทอนให้สั้นลง โดยยังคงความหมายเดิมไว้ ซึ่งจำนวนคำที่เหมาะสมนั้นจะอยู่ที่ 60-80 ตัวอักษร

Title Description
ส่วน Title Description นั้นจะเป็นเหมือนคำอธิบายบทความสั้นๆ ว่าบทความนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร โดยในส่วนนี้ก็ควรจะแทรก Keyword ไปด้วยเช่นกัน โดยจำนวนคำที่เหมาะสมสำหรับ Title Description จะอยู่ที่ 180 – 250 ตัวอักษร

บทความ

เหตุผลที่ WordPress ต้องใช้ Web Hosting

เหตุผลที่ WordPress ต้องใช้ Web Hosting

WordPress ต้องใช้ Web Hosting เพราะ Web Hosting เป็นที่ที่เก็บไฟล์และข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ รวมถึงทำให้เว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้บนอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไม Dwell Time ถึงสำคัญสำหรับ SEO

ทำไม Dwell Time ถึงสำคัญสำหรับ SEO

Dwell Time เป็นหนึ่งในปัจจัยที่บ่งบอกถึงความพึงพอใจของผู้ใช้และคุณภาพของเนื้อหาในเว็บไซต์ การเพิ่ม Dwell Time จึงเป็นวิธีที่ช่วยปรับปรุง SEO และผลการจัดอันดับของเว็บไซต์ในเครื่องมือค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

Traditional SEO คืออะไร

Traditional SEO คืออะไร

Traditional SEO เป็นกระบวนการที่ใช้เทคนิคและกลยุทธ์ต่างๆ ในการปรับปรุงอันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา โดยการปรับแต่งทั้งด้านในและด้านนอกของเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและความน่าเชื่อถือให้กับเครื่องมือค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

อัตราการแปลง (Conversion Rate)

อัตราการแปลง (Conversion Rate)

อัตราการแปลง (Conversion Rate) ใน SEO เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดความสำเร็จของเว็บไซต์ในการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้าหรือผู้ที่ดำเนินการตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ... อ่านเพิ่มเติม

Impressions คืออะไร

Impressions คืออะไร

Impressions คือการวัดการแสดงผลของเนื้อหาหรือโฆษณาบนหน้าจอของผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้เข้าใจถึงการเข้าถึงและการมองเห็นแบรนด์หรือเนื้อหาของเราในตลาด ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Page Speed

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Page Speed

Page Speed เป็นสิ่งที่สำคัญทั้งในการเพิ่มประสิทธิภาพ SEO และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน เว็บไซต์ที่โหลดเร็วจะช่วยให้ผู้ใช้มีความสุขในการใช้งาน ทำให้โอกาสในการทำอันดับในผลการค้นหาดีขึ้น ... อ่านเพิ่มเติม

Accessibility สำคัญยังไง

Accessibility สำคัญยังไง

Accessibility หรือการเข้าถึง คือการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันให้สามารถใช้งานได้โดยผู้ใช้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีความทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว การได้ยิน หรือการมองเห็น ... อ่านเพิ่มเติม

กลยุทธ์ SEO ระดับนานาชาติ

กลยุทธ์ SEO ระดับนานาชาติ

การทำ International SEO ช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายการเข้าถึงผู้ใช้จากหลายประเทศและหลายภาษาได้ ทำให้เพิ่มโอกาสในการเติบโตในตลาดต่างประเทศ และสามารถปรับกลยุทธ์ SEO ให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละตลาด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ, ยกระดับการแสดงผลในผลการ ... อ่านเพิ่มเติม

การลงโทษจาก Google

การลงโทษจาก Google

การลงโทษจาก Google มักจะเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่ละเมิดกฎและข้อกำหนดของ Google Search หรือ Google Play Store ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับในผลการค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม