13 ก.พ. 2562
2171
SEO Trends 2019
วันเวลาผ่านไปทำให้อายุของเรามากขึ้น แก่ลง แต่กลับสะสมประสบการณ์ ซึ่งสวนทางกับเรื่องราวของเทคโนโลยีและความเจริญก้าวหน้าต่างๆ ที่แสวงหาความสดใหม่ พัฒนาสิ่งใหม่ ให้เป็นสิ่งที่มีความทันสมัยเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกันกับการตลาดและการทำธุรกิจออนไลน์ที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอตามรูปแบบและพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภค เป็นต้น
ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาดรูปแบบใดก็ตามที่จะตอบสนองต่อธุรกิจ ก็ต้องให้ความสำคัญกับยุคสมัยและสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอด้วยนั่นเอง สำหรับบทความนี้จะพามาดูเทรนด์ของการทำ SEO เพื่อให้ตอบสนองต่อผลลัพธ์ที่ต้องการในการทำธุรกิจ เพื่อให้ธรกิจไปได้อย่างราบรื่นและสม่ำเสมอ
1.การค้นหาด้วยเสียง (Voice Search)
เนื่องจากเทคโนโลยีและความทันสมัยที่เข้ามาในสังคมของเราตอนนี้ ส่งผลให้พฤติกรรมการใช้งานและหลายสิ่งหลายอย่างได้เน้นให้ชอบและรักความสบายมากขึ้น ฟังก์ชั่นการค้นหาด้วยเสียงได้มีการเกิดขึ้น และมีการปรับให้เข้ากับชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ปัจจุบันมีการค้นหาด้วยเสียงเยอะขึ้น ซึ่งเช่นเดียวกัน การทำ SEO จึงจะต้องมีการใช้หลักคำง่ายๆ ที่ให้เหมือนกับการพูดคุย สนทนา โดยจะต้องมีคำหลักอยู่ในนั้นด้วยประมาณ 7-9 คำ (Longtail Ketwords)
จากข้อมูลของ BrightLocal Study ได้บอกว่า
• 58% ของผู้ใช้งาน ใช้การค้นหาด้วยเสียงเกี่ยวกับธุรกิจในท้องถิ่นภายในปีที่ผ่านมา
• 46% ของผู้ใช้งาน ใช้การค้นหาด้วยเสียงเกี่ยวกับธุรกิจในท้องถิ่น
• 27% ของผู้ใช้งาน ที่เยี่ยมชมเว็บไซต์นั้นจะทำการค้นหาด้วยเสียง
• 76% ของผู้ใช้งาน ได้มีการใช้ลำโพงของสมาร์ทโฟนภายในบ้านทำการค้นหาในท้องถิ่นอย่างน้อยต่อ 1 สัปดาห์
โดยเฉลี่ยการค้นหารายวะนอยู่ที่ 53%
จากข้อมูลข้างต้นทำให้มีแนวโน้มว่าอนาคตอาจจะมีการใช้การค้นหาด้วยเสียงที่มากขึ้น และเทคโนโลยีต่างๆ ก็อาจจะตอบสนองสิ่งเหล่านี้มากขึ้น เพื่อให้การใช้ชีวิตของคนในสังคม ก้าวหน้า ก้าวไกล และเติบโตกันอย่างต่อเนื่อง
2.การค้นหาในท้องถิ่น (Local Search)
Voice search มักจะอยู่คู่กับ Local Search เนื่องจากว่า ผู้ใช้งานนั้นมักจะค้นหาและตั้งคำถามด้วยเสียง เช่น ย่างเช่น ใคร (Who), อะไร (What), เมื่อใด (When), ที่ไหน (Where), ทำไม (Why), อย่างไร (How) และมักจบประโยคด้วย “ใกล้ฉัน (near me)” ส่งผลให้การตั้งคำถามเหล่านี้สามารถวัดความสนใจ รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้งานต่างๆ ของผู้ใช้งานได้มากขึ้น อีกทั้งที่สำคัญในการทำ SEO ต้องอย่าลืมเลือกใช้คำให้เหมาะสมสำหรับการค้นหาแบบท้องถิ่นและแบบเสียง เพื่อให้การทำ SEO ประสบความสำเร็จมากที่สุด
3.Blockchain
เทคโนโลยี Blockchain ได้ถูกนำมาใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินที่ชื่อว่า Cryptocurrencies โดยไม่ผ่านคนกลางหรือธนาคารกลาง และยังเป็นวิธีการที่โปร่งใส บวกกับเป็นข้อมูลสาธารณะที่มีความปลอดภัยสูงและยืดหยุ่น อีกทั้งยังเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการฉ้อโกงในเครื่องมือค้นหาในการทำโฆษณาอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีศักยภาพและประสิทธิภาพในการเปลี่ยนแปลงและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางธุรกิจให้มากขึ้น เช่น Kochava ได้พัฒนา Blockchain สำหรับคำสั่งในการแทรกโฆษณาในขณะที่ startups อื่น ๆ ทดลองใช้เครือข่ายโฆษณาแบบ Blockchain และสาเหตุที่สำคัญของ Blockchain เข้ามาเปลี่ยน SEO นั่นก็เป็นเพราะว่าการตรวจสอบต่างๆ รวมไปถึงความโปร่งใส และความใส่ใจผู้บริโภค เหล่านี้ที่เป็นส่วนจำเป็นที่จะทำให้นักการตลาดต้องติดตามกันต่อไป
4.เทคโนโลยี AI
จะเห็นได้ว่า AI ได้เข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมในการทำธุรกิจเพื่อขึ้น เหล่านักพัฒนาทั้งหลายได้คิดค้นและทำการทดลองให้ข้อสันิษฐานเหล่านี้นั้นมีความเป็นไปได้มากที่สุด Google จึงได้ทำการอัปเดต Algorithm เพื่อให้การค้นหาของผู้ใช้นั้นมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ตรงกับความต้องการมากที่สุด และเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนมากขึ้นในสื่อโซเชียลต่างๆ ที่มักจะแนะนำสิ่งที่เราชอบหรือมีความสนใจในช่วงนั้นๆ มานำเสนอเราอยู่เสมอ เนื่องจากว่าเทคโนโลยี AI เหล่านี้เองที่ช่วยวิเคราะห์ผู้ใช้งาน และเทคโนโลยี AI นั้นจะช่วยให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพรวมไปถึงสามารถกำหนดเนื้อหาและกลยุทธ์ทางเทคนิคกลายเป็นผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
5.Content
เพราะ Content ยังเป็นการนำเสนอเนื้อหา ข้อมูล และข่าวสารต่างๆ อย่างน่าสนใจอยู่เสมอ อีกทั้งการทำ SEO นั้นยังต้องมีการอาศัยการใส่คำใน SEO กันอีกด้วย และคำเหล่านี้เองที่จะทำให้หน้าเว็บไซต์ของเรานั้นอยู่ในอันดับต้นๆ ของการค้นหาก็เป็นได้ อีกทั้งการทำ Content นี้ยังสามารถสื่อสารในสิ่งหรือสารที่เราอยากจะสื่อ เนื่องจากว่าภายในเนื้อหาของ Content นี้นั้นสามารถเป็นไปได้ทั้ง Blog, Video, Infographic, รูปภาพ และอื่นๆ เช่นกันเนื้อหาทั้งหมดนั้นจึงมีความจำเป็นกับการทำการตลาดและการวางแผนกลยุทธ์ต่างๆ ให้เอื้ออำนวยต่อธุรกิจอย่างมากที่สุด ที่สำคัญอย่าลืมทำตามกฎของ Google เพื่อให้การเผยแพร่ Content นั้นประสบความสำเร็จมากที่สุด
6.Automation
เครื่องมืออัตโนมัติที่นำมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO ช่วยให้ประหยัดเวลาในการได้ข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์และทำงานอย่างอื่นได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล, การรายงานข้อมูล อีกทั้งส่วนใหญ่ธุรกิจก็ต่างรู้กันดีว่า ระบบอัตโนมัติ (Automation) คือส่วนสำคัญที่ช่วยให้ประหยัดเวลาในการทำ Digital Marketing เป็นต้น
ที่มา : vsharecontent