05 ม.ค. 2562

2404

ความผิดพลาดในการทำ SEO สำหรับเว็บไซต์ E-Commerce by seo-winner.com

ความผิดพลาดในการทำ SEO สำหรับเว็บไซต์ E-Commerce


ไม่แปลกที่การทำการตลาดหรือ SEO ต่างๆ จะเกิดข้อผิดพลาดขึ้น เช่นเดียวกันการทำ SEO ก็มักจะเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย อีกทั้งยังถือว่าเป็นเรื่องยากถ้าจะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาบน Google และจะดีกว่าหรือไม่ถ้าหากเราสามารถรับมือกับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ บทความนี้จะพามาพบกับความผิดพลาดที่นึกไม่ถึง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดที่ส่งผลต่อความเสียหายที่มากขึ้นต่อธุรกิจได้ในอนาคต 

มีจำนวนหน้ามากเกินไป
เพราะเว็บไซต์ E-Commerce นั้นจะเป็นเว็บไซต์ที่ค่อนข้างใหญ่และมีสินค้ามากมาย ซึ่งส่งผลให้สินค้าบางตัวอาจมีการซ้ำกันเกิดขึ้นได้ ถ้าหากเว็บไซต์ของเราเข้าข่ายนี้จะทำให้เว็บไซต์เราคุณภาพลดลง เพื่อให้เว็บไซต์ทมีประสิทธิภาพในการทำ SEO มากที่สุด 

เนื้อหาภายในเว็บไซต์ไม่มีประโยชน์
สิ่งที่ต้องประสบปัญหาบ่อยคือ เนื้อหาของคอนเทนต์นั้นมีการคัดลอกต่อกันมา และ Google ก็ได้มีระบบตรวจสอบเนื้อหาภายในของ Content ต่างๆ จึงทำให้เนื้อหาที่คัดลอกมาส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ และความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ซึ่งการจะทำให้ Google ไม่ลดการจัดอันดับของเว็บไซต์ของเรา อาจจำเป็นต้องมีการสร้างเนื้อหาขึ้นมาใหม่โดยให้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องการนำเสนอ รวมไปถึงมีความน่าเชื่อถืออีกด้วย

หน้าเว็บไซต์โหลดช้ามาก
ทราบหรือไม่ว่าความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ก็เป็นส่วนหนึ่งในการจัดอันดับที่ Google ได้เลือกใช้อีกด้วย นั่นเป็นเพราะเว็บไซต์ที่โหลดช้าก็ส่งผลให้เกิดการปิดหน้าเว็บและเปลี่ยนไปที่เว็บไซต์อื่นได้ในเวลาอันรวดเร็วเช่นกันนั่นเอง สาเหตุอาจมาจาก ขนาดของไฟล์ภาพ โฮสติ้ง, เซิร์ฟเวอร์ช้า ทำการค้นหาสาเหตุและแก้ไข เพื่อทำให้เว็บไซต์นั้นได้ตอบสนองต่อผู้ใช้งานได้มากที่สุด

หน้าเว็บไซต์ไม่รองรับสมาร์ทโฟน
เป็นเรื่องที่ต้องระวังอย่างมากเนื่องจากว่าผู้บริโภคในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่มักจะใช้สมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ในการเข้าไปท่องโลกอินเทอร์เน็ตรวมไปถึงการใช้งานติดต่อสื่อสารต่างๆ และถ้าหากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ชของเรานั้นไม่ตอบสนองต่อการใช้งานของผู้บริโภค ก็จะทำให้เสียลูกค้าและเสียการจัดอันดับเนื่องจากไม่ถูกค้นหาหรือให้ความสำคัญจากผู้บริโภคได้ เป็นต้น รวมไปถึงช่องทางออนไลน์ในขณะนี้ที่รองรับการใช้งานสมาร์ทโฟนมากขึ้น Google จึงได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับอัลกอริทึ่มที่มีการจัดอันดับเว็บไซต์ที่รองรับการใช้งานสมาร์ทโฟนด้วย ดังนั้นอย่าลืมทำให้เว็บไซต์สามารถใช้งานกับสมาร์ทโฟนได้ด้วยนะ

ใช้ Keyword ที่มากเกินไป
การใช้คำซ้ำที่มากเกินไปนอกจากจะทำให้ผู้อ่านไม่ประทับใจและไม่ไหลลื่นในการเสพข่าวสารและ Google ยังจะถือว่าเป็น Spam อีกด้วย

สร้างลิงก์ที่ไม่เป็นธรรมชาติ
เป็นอีกสิ่งหนึ่งในการทำให้การจัดอันดับดูมีความเป็นธรรมชาติ นั่นคือการสร้างลิงก์เชื่อมโยงเว็บไซต์โดยมาจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง หรือการสร้างลิงก์ที่จงใจมากเกินอาจทำให้เกิดเป็นลิงก์ที่ไม่มีความเป็นธรรมชาติและส่งผลเสียต่อเว็บไซต์ของเรา

รายละเอียดสินค้าน้อยเกินไป
สินค้าออนไลน์คือเราจะสามารถเห็นได้แค่รูปภาพและรายละเอียดต่างๆ ดังนั้นถ้าหากเราต้องการเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้า สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือการใส่รายละเอียดของสินค้าเข้าไปอย่างถี่ถ้วนและละเอียดมากที่สุด เพื่อให้เกิดคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับรายละเอียดของสินค้าให้น้อยที่สุด รวมไปถึงหากมีรีวิวการใช้งานจากลูกคึ้า ก็ควรที่จะนำมาให้ลูกค้าใหม่ได้ทราบและเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ

ไม่ระบุที่อยู่ให้ชัดเจน
ที่อยู่ของธุรกิจจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือรวมไปถึงเพิ่มการจัดอันดับให้กับเว็บไซต์ของเราได้อีกด้วย เพราะ Google ต้องการร้านออนไลน์ที่มีอยู่จริง เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ หรืออาจจะทำการสมัคร Google My Business เพื่อตรวจสอบร้านค้า Online จาก Google ได้อย่างง่ายดายมากขึ้น

ไม่วางแผนในการทำการตลาด
เพราะว่าการวางแผนในการทำธุรกิจหรือการตลาดใดๆ จะช่วยให้เราทราบถึงทิศทางการไปต่อของธุรกิจ ความต้องการของตลาด ความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้วางแผนได้ถูกต้องในส่วนของกลุ่มเป้าหมาย และนำไปศึกษาว่าสินค้าของเรานั้นมีชิ้นใดที่ควรจะนำไปต่อยอค เพิ่มผลกำไรให้ได้มากขึ้น







ที่มา : am2bmarketing

บทความ

เหตุผลที่ WordPress ต้องใช้ Web Hosting

เหตุผลที่ WordPress ต้องใช้ Web Hosting

WordPress ต้องใช้ Web Hosting เพราะ Web Hosting เป็นที่ที่เก็บไฟล์และข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ รวมถึงทำให้เว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้บนอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไม Dwell Time ถึงสำคัญสำหรับ SEO

ทำไม Dwell Time ถึงสำคัญสำหรับ SEO

Dwell Time เป็นหนึ่งในปัจจัยที่บ่งบอกถึงความพึงพอใจของผู้ใช้และคุณภาพของเนื้อหาในเว็บไซต์ การเพิ่ม Dwell Time จึงเป็นวิธีที่ช่วยปรับปรุง SEO และผลการจัดอันดับของเว็บไซต์ในเครื่องมือค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

Traditional SEO คืออะไร

Traditional SEO คืออะไร

Traditional SEO เป็นกระบวนการที่ใช้เทคนิคและกลยุทธ์ต่างๆ ในการปรับปรุงอันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา โดยการปรับแต่งทั้งด้านในและด้านนอกของเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและความน่าเชื่อถือให้กับเครื่องมือค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

อัตราการแปลง (Conversion Rate)

อัตราการแปลง (Conversion Rate)

อัตราการแปลง (Conversion Rate) ใน SEO เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดความสำเร็จของเว็บไซต์ในการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้าหรือผู้ที่ดำเนินการตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ... อ่านเพิ่มเติม

Impressions คืออะไร

Impressions คืออะไร

Impressions คือการวัดการแสดงผลของเนื้อหาหรือโฆษณาบนหน้าจอของผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้เข้าใจถึงการเข้าถึงและการมองเห็นแบรนด์หรือเนื้อหาของเราในตลาด ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Page Speed

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Page Speed

Page Speed เป็นสิ่งที่สำคัญทั้งในการเพิ่มประสิทธิภาพ SEO และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน เว็บไซต์ที่โหลดเร็วจะช่วยให้ผู้ใช้มีความสุขในการใช้งาน ทำให้โอกาสในการทำอันดับในผลการค้นหาดีขึ้น ... อ่านเพิ่มเติม

Accessibility สำคัญยังไง

Accessibility สำคัญยังไง

Accessibility หรือการเข้าถึง คือการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันให้สามารถใช้งานได้โดยผู้ใช้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีความทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว การได้ยิน หรือการมองเห็น ... อ่านเพิ่มเติม

กลยุทธ์ SEO ระดับนานาชาติ

กลยุทธ์ SEO ระดับนานาชาติ

การทำ International SEO ช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายการเข้าถึงผู้ใช้จากหลายประเทศและหลายภาษาได้ ทำให้เพิ่มโอกาสในการเติบโตในตลาดต่างประเทศ และสามารถปรับกลยุทธ์ SEO ให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละตลาด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ, ยกระดับการแสดงผลในผลการ ... อ่านเพิ่มเติม

การลงโทษจาก Google

การลงโทษจาก Google

การลงโทษจาก Google มักจะเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่ละเมิดกฎและข้อกำหนดของ Google Search หรือ Google Play Store ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับในผลการค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม