นักการตลาดทุกคนต้องมีวิชาประจำตัวที่ต้องเรียนรู้กันทุกคน นั่นก็คือ Search Engine Marketing แต่ส่วนใหญ่ดันไปให้ความสำคัญกับ Social Media มากกว่า จนทำให้ Search Engine Marketing ดูเหมือนไม่ใช่สิ่งที่สำคัญอะไร แท้จริงแล้วทั้งสองสิ่งนี้มีความสำคัญมากทั้งคู่และไม่ควรมองข้ามในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และความเป็น Search Engine Marketing ในอนาคตจะเป็นอย่างไร สำหรับเรื่องนี้นั้นเราสามารถวิเคราะห์ออกได้เป็น 2 ส่วน ดังต่อไปนี้

_____________________________________________________

ส่วนที่หนึ่ง คือ Paid Search หรือ Google Adwords
สำหรับส่วนนี้ ระบบโฆษณาของ Google Adwords ในอนาคตจะมีความง่ายมากขึ้น ง่ายชนิดที่ว่าใครก็สามารถลงโฆษณาเองกันได้ทั้งนั้น อาจจะเพียงแค่ใส่เว็บไซต์ ติด Tracking ใส่งบประมาณ และหมายเลขบัตรเครดิต จากนั้นทุกอย่างเป็นระบบอัตโนมัติหมด 

ถ้าหากใครเคยลงโฆษณา Google Adwords จะพอทราบว่าค่อนข้างมีความยุ่งยากและวุ่นวายอยู่พอตัว เพราะ ต้องวิจัย keywords เลือก Keywords ทำ Ad Copy ตั้งราคา Bid ฯลฯ เป็นต้น และสิ่งที่สำคัญมากที่สุดนั่นก็คือการ Optimize เพราะต้องเฝ้า Ad set  เฝ้า Keyword อันไหนทำเงิน ไม่ทำเงิน ปรับจูน Ad หรือ ปรับ Bid แบบรายวัน แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน Google อาจนำระบบ Big data และระบบ Al มาใช้ในการรันระบบโฆษณาของตนอย่างแน่นอน ซึ่งหมายความว่า Google จะสามารถเลือก Keywords ที่เหมาะสมกับแคมเปญเรามากที่สุด สร้าง Ad Copy ที่ดีที่สุด อีกทั้งยังสามารถทำการ Optimize ราคา Bid ให้ Ads มีประสิทธิภาพสูงสุดได้เองอีกด้วย โดยวิธีการทั้งหมดนี้แทบจะไม่ต้องใช้คนเข้ามามีส่วนร่วมเลย


ส่วนที่สอง คือ Organic Search หรือการทำ Search Engine Optimization (SEO)
เป็นอีกส่วนที่ทำให้นักการตลาดหลายคนต้องคิดหนัก โดยหลักน่าจะเกิดจากผลพวงของเทคโนโลยี Big Data ซึ่งทำให้เกิดผลลัพธ์การเสิร์ชแบบ Personalize Search Result คือ ผลลัพธ์การค้นหาใน Keyword เดียวกันของแต่ละคน จะมีผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน

นั่นก็คือ คนหลายคนที่ Search Google ใน Keyword คำเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ของการเสิร์ชที่ได้แต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะ Google นำ Data บางส่วนของผู้ใช้งานเข้ามาประกอบการแสดงผลลัพธ์ด้วย ยกตัวอย่างเช่น บ้านอยู่ขอนแก่น ถ้าเสิร์ช Google ด้วย Keyword คำว่า ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านก๋วยเตี๋ยวที่อยู่แถวขอนแก่น ก็จะถูกแสดงผลขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ เช่นเดียวกันในขณะที่เสิร์ชคำเดียวกันแต่ตัวเราอยู่เชียงใหม่ ร้านก๋วยเตี๋ยวที่อยู่แถวเชียงใหม่ก็อาจแสดงผลขึ้นเป็นอันดับแรกๆ ก่อน

Google ไม่ได้เก็บ Factor ในเรื่องของ Location เท่านั้น แต่ Google จะเก็บทั้งประวัติการเสิร์ช ประวัติคนใช้งาน Deviceในการเสิร์ช และอื่นๆ อีกมากมายที่นำมาใช้ในการประมวลผลและแสดงผลลัพธ์ และสุดท้ายนักทำ SEO ก็จะไม่สามารถประเมินผลงานของตัวเองได้ จากอันดับ Keyword ในผลการค้นหาได้อีกต่อไป เพราะไม่รู้จะเอา Search Result ของใครเป็นบันทัดฐาน ด้วยเหตุนี้เองก็จะส่งผลกระทบทำให้เราไม่สามารถย้อนดู Algorithm ของ Google ได้ว่ามีอะไรบ้างที่เป็น Factor ที่แท้จริง ในการจัดเรียงอันดับ Keyword ของ Google บ้าง


สำหรับในอนาคตการทำ SEO อาจจะเหลือเพียงแค่การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพตาม Keywords ที่เราต้องการ โดยให้มีคนทำ Back Link หรือมีคนแชร์คอนเทนต์ของเราให้มากที่สุดด้วยเทคนิคการสร้าง Back Link และอีก 1 ผลกระทบคือ งาน SEO ของเอเจนซี่ก็อาจจะหายไปด้วยเช่นกัน







ที่มา : bangkokbiznews