16 พ.ค. 2561
3711
Search Engine ผู้ช่วยตัดสินใจก่อนซื้อสินค้าของคนยุคใหม่
อินเทอร์เน็ตเข้ามาพร้อมกับความเจริญ และได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของใครหลายคนไปแล้ว จึงไม่แปลกที่เราอาจต่างเห็นใครๆ ก็มีถือสมาร์ทโฟนคนละเครื่องสองเครื่อง หรือในมือของคนส่วนใหญ่ที่ไม่ว่างเว้นจากการจับโทรศัพท์มือถือ คนทั่วไปสามารถที่จะเข้าถึงโลกอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น เมื่ออินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทในสังคม รวมไปถึงมีอิทธิพลอย่างมากแล้วนั้นก็ได้ส่งผลการใช้งานไปยังรูปแบบต่างๆ ในการใช้ชีวิต
เมื่อไม่นานมานี้ธุรกิจต่างๆ ได้เข้าสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น และอีกทั้งผลลัพธ์ที่ได้กลับมาจากช่องทางต่างๆ ก็เป็นผลที่น่าชื่นชมจึงส่งผลให้ใครๆ ก็ต่างหันมาที่ช่องทางออนไลน์เหล่านี้เอง และการเข้าถึงสินค้าในปัจจุบันนั้นมีการเข้าผ่าน Search Engine เป็นช่องทางหลักซึ่งเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาข้อมูลและตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้
เพราะความสำคัญของการทำธุรกิจในยุคนี้ต้องเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในเชิงลึกให้มากขึ้น เพื่อให้ทราบถึงข้อมูลความต้องการของผู้บริโภคและนำข้อมูลเหล่านั้นมาวางแผนการทำการตลาดเพื่อให้ธุรกิจของเราได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ประกอบกับปัจจุบันที่การใช้สมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตมีเพิ่มมากขึ้นถึง 7 เท่าในช่วงระยะ 3 ปีที่ผ่านมา หมายถึงว่าพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง
Google ได้เผยกลุ่มวิจัยย่อยของ "Think Telco" ที่จับมือกับ TNS บริษัทวิจัยการตลาดที่ร่วมกันเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 500 คนที่ซื้อแพ็กเกจมือถือในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีการยึดติดกับค่ายมือถือน้อยลงกว่าแต่ก่อน เนื่องจากว่าสามารถย้ายค่ายเบอร์เดิมได้ หมายถึงว่าถ้าเมื่อไหร่ที่เราเจอข้อเสนอที่ดีกว่า เราก็พร้อมจะย้ายไปอย่างง่ายดาย อีกทั้งเมื่อมีการเทียบข้อมูลของปี 2014 พบว่ามีการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับคำว่า ย้ายค่าย นั้นมากกว่าเดิมถึง 5 เท่าตัว และคำว่าโปรเน็ต ก็มีการค้นหาเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เหล่านี้นั่นเป็นเพราะว่าค่ายแต่ละค่ายเร่งทำโปรมือถือออกมาให้น่าสนใจ เป็นจุดดึงดูดให้อยากมีคนย้ายค่ายมากขึ้น
คนไทยกว่า 93% ได้ใช้สื่อออนไลน์เป็นช่องทางในการค้นหาข้อมูล โดยจะทำการค้นโดยเริ่มจาก Search Engine เพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการ เพื่อให้นำพาไปสู่แหล่งข้อมูลอื่นๆ บนอินเทอร์เน็ต และมี 64% ที่จะรู้จักข้อมูลของแบรนด์ใหม่ๆ จากการค้นหาผ่าน Search Engine อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกยุคที่มีการค้นหาผ่านโซเชียลมีเดีย และช่องทางอินเทอร์เน็ตอื่นๆ และเพิ่มเติมนั่นก็คือคอนเทนต์วิดีโอก็เป็นส่วนที่ทำให้ผู้บริโภคมีการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
จากงานวิจัยเหล่านี้ได้แสดงให้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคได้มีความซับซ้อนมากขึ้น ข้อมูลในส่วนของประชากร เพศ การศึกษา ไม่เพียงพอต่อการวิจัยข้อมูล ต้องมีการนำข้อมูลอื่นมาประกอบเพื่อให้เข้าใจและคาดเดาพฤติกรรมเชิงลึกได้มากขึ้น Google จึงได้มีการนำระบบ Machine Learning มาช่วย เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกต่อการทำงานของนักการตลาดได้สะดวกรวดเร็ว
89% ของพฤติกรรมผู้บริโภคนั้นมักจะมีแบรนด์อยู่ในใจก่อนที่จะเข้าไปเลือกซื้อที่ร้าน ดังนั้นการทำโปรโมชั่นอื่นใดก็ไม่อาจเปลี่ยนใจผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้ สิ่งที่เราควรทำและทำความเข้าใจคือ Path to Purchase หมายถึงกระบวนการการตัดสินใจซื้อสินค้าตั้งแต่ต้นจนจบ มีการนำเสนอแบรนด์ข้อมูลให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ดึงดูดให้มีความน่าสนใจและนำสู่การตัดสินใจซื้อสินค้า เป็นต้น
ที่มา : dailygizmo