28 ส.ค. 2561
3842
เทคนิคการเปลี่ยนคนแปลกหน้าให้เป็นลูกค้าของเรา
ธุรกิจเติบโตมากขึ้นไปตามความทันสมัยต่างๆ ในสังคม ใครๆ ก็ต่างต้องการที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะทำเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อทำการเทียบกับสมัยก่อน กลยุทธ์จากนักการตลาดทั้งหลายทั้งปวงก็ได้งัดกันขึ้นมาใช้ในยุคนี้กันทั้งนั้น ใครที่ครองใจผู้บริโภคหรือโดนใจมากที่สุด ก็จะได้ครองใจและครองตลาดในส่วนนี้ไป หากเราตระหนักถึงผลอย่างแท้จริงเราจะพบว่า การแข่งขันนั้นไม่ได้แข่งกับคู่แข่งทางธุรกิจ แต่เป็นการแข่งขันกับตัวเองและความสนใจของลูกค้า ทำอย่างไรให้เกิดความสนใจและเปลี่ยนจากคนแปลกหน้าให้มาเป็นลูกค้าของเรานั่นเอง
สำหรับสิ่งที่แตกต่างไปจากอดีตที่ทำให้เราเห็นได้อย่างชัดเจนมากขึ้น คือ ลักษณะทางกายภาพ ขั้นตอนการทำ กลุ่มเป้าหมาย และ 6 วิธีการต่อไปนี้ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการและนักการตลาดหลายๆ ท่าน ได้มีเทคนิคในการเปลี่ยนมุมมองในการทำการตลาด และโน้มน้าวให้คนแปลกหน้ามาเป็นลูกค้าของเรา
1. Awareness สร้างการรับรู้
ข้อดีของการตลาดออนไลน์ คือ ความสามารถสามารถสร้างการรับรู้ในงบที่ต่ำ แต่วัดผลได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งข้อเสียคือโลกออนไลน์ที่มีสื่ออยู่เป็นจำนวนมาก ต่างทำการแข่งขันเพื่อมุ่งหวังผลประโยชน์ที่มากที่สุด สำหรับการตลาดออนไลน์นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบนั่นคือ
• การใช้ Inbound Marketing
การดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาผ่านทางช่องทางออนไลน์ โดยการสื่อสารด้วย Content Marketing
ตัวอย่างเช่น การทำ Search Engine Optimization (SEO) หรือการใช้สื่อ Social Media ต่างๆ เช่น Facebook, Line, Youtube, Instagram เป็นต้น
• การใช้ Outbound Marketing
การใช้การตลาดแบบผลัก หรือการโฆษณาผ่าน Social Media อีกทั้งยังเป็นกาโฆษณาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่าสื่อแบบโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และยังเป็นการวัดผลได้อย่างรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น
ตัวอย่าง เช่น Facebook Ads, LINE Broadcast, Instagram Ads เป็นต้น
2. Discovery การค้นพบ
การค้นพบแบรนด์ของเราจะช่องทางการค้นหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการผ่านมาพบโดยบังเอิญ เห็นตามโฆษณาหรือการบอกต่อ เหล่านี้คือการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ที่เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคได้รู้จักแบรนด์ของเรามากขึ้น เช่นกันหากสินค้าของเรานั้นมีความน่าจะเป็นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ลูกค้าก็จะเริ่มทำการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม สิ่งแรกที่มักนึกถึงนั่นคือการค้นหาข้อมูลบน Google และหากเว็บไซต์ของเราติดอันดับหน้าแรกในการค้นหา ก็จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความน่าสนใจเกี่ยวกับสินค้าของเราที่มากขึ้น อีกสิ่งสำคัญคือ Content ที่เรามีนั้นต้องให้ประโยชน์ต่อลูกค้ามากกว่าการนำเสนอสิทธิพิเศษหรือการขายอย่างเดียว
3. Consideration การพิจารณา
เพราะเราจำเป็นต้องตระหนักถึงคุณค่าและสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับจากสินค้าของเรามากที่สุด สามารถช่วยแก้ปัญหา ตอบสนองความต้องการ หรือช่วยให้ผู้บริโภคเกิดประโยชน์ต่อชีวิตจากสินค้าของเราได้อย่างไรบ้าง เมื่อเราได้สร้าง Content เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับสินค้าของเราเพิ่มมากขึ้นแล้ว อย่าลืมว่ายังมีปัจจัยอื่นนั่นคือคู่แข่ง ผู้บริโภคสามารถเลือกเปรียบเทียบสินค้าของเรากับคู่แข่งได้ เพื่อให้เขานั้นได้รับสินค้าที่ดีที่สุด ดังนั้นการใส่ใจในคำถามและข้อสงสัยของผู้บริโภคจะช่วยให้สินค้าของเรามีความน่าสนใจที่เพิ่มขึ้น
4. Conversion การเปลี่ยนเป็นลูกค้า
เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้แล้ว แนวโน้มที่ลูกค้าจะซื้อสินค้ากับเรานั้นก็ถือว่ามากพอสมควร แต่เราควรทำการกระตุ้นอีกเล็กน้อยเพื่อให้ลูกค้านั้นสามารถจ่ายเงินเพื่อสินค้าของเราได้อย่างทันที อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าที่กำลังจะซื้อสินค้าของเรานั่นคือ รีวิวจากลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าจากเรา รวมไปถึงระบบจ่ายเงินที่มีความน่าเชื่อถือและระบบป้องกันข้อมูลของลูกค้าอย่างแน่นหนา
5. Customer Relationship การสานสัมพันธ์กับลูกค้า
โดยการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าจะช่วยให้เกิดปฏิสัมพันธ์ต่อกัน และส่งผลให้แนวโน้มที่ลูกค้าจะกลับมาเป็นลูกค้าของเราในระยะยาว อีกทั้งหลังจากที่ลูกค้าได้ซื้อสินค้าของเราแล้ว การขายและการบริการของเรายังไม่จบ การส่งสินค้า การแนะนำการใช้งาน การให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อื่น รวมไปถึงการรีวิวสินค้า
6. Retention การรักษาฐานลูกค้าเดิม
สำหรับวัตถุประสงค์ของการรักษาฐานลูกค้าเดิม นั่นคือการทำให้ลูกค้าซื้อซ้ำและอยู่กับแบรนด์ของเราอย่างยาวนาน โดยสิ่งเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นจากความประทับใจในการบริการต่างๆ การให้ความช่วยเหลือ การบริการหลังการขาย เป็นต้น อีกทั้ง Content Marketing ที่แตกต่างเหล่านี้จะเน้นเพิ่มยอดขายจากลูกค้าเดิม เป็นการประหยัดงบประมาณในการทำการตลาดได้มากอีกด้วย การโน้มน้าวใจลูกค้าเก่าก็ทำได้ไม่ยกเนื่องจากเข้าใจถึงความต้องการ และสินค้าของเรานั้นตอบโจทย์ลูกค้าอยู่แล้ว การนำเสนอข้อเสนอที่โดนใจเพียงไม่กี่ข้อก็อาจทำให้ตัดสินใจที่จะซื้อสินค้าได้อย่างรวดเร็ว วิธีการอาจเป็นการบริการหลังการขาย และความสม่ำเสมอในการบริการ รวมถึง Voucher และ Coupon ส่วนลดต่างๆ ที่มอบให้ลูกค้าเก่าโดยเฉพาะ
ที่มา : stepstraining