15 ก.พ. 2566
177

เทรนด์ SEO 12 อันดับแรกที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในปี 2023
SEO ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดของการตลาดดิจิทัล เนื่องจาก Google จะมีการอัปเดตอัลกอริทึมเพื่อจัดอันดับอยู่เสมอ และเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การค้นหาให้ดียิ่งขึ้น
นั่นหมายความว่าในแต่ละปี นักการตลาดมีโอกาสประเมินแนวโน้ม SEO อีกครั้ง ซึ่งกำหนดทิศทางของเครื่องมือการค้นหาให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ
เทรนด์ SEO อันดับต้นๆ ที่ควรปฏิบัติตามในปี 2023 : ปีนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการแสดงความเชี่ยวชาญและคุณค่าในเนื้อหาของเรา และดำเนินการอัปเดตต่อเนื่องเพื่อให้เว็บมีประสิทธิภาพสูงแก่ผู้ใช้ โดยกลยุทธ์เหล่านี้มีความสำคัญมาโดยตลอดในประวัติศาสตร์ของ SEO แต่ Google ก็เริ่มดีขึ้นในการประเมินสัญญาณและพิจารณาว่าเนื้อหาใดตรงตามมาตรฐานเหล่านี้
ดังนั้นเราไปดูกันเลยว่า "เทรนด์ SEO 12 อันดับแรกที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในปี 2023" กันเลยครับ
1. ประสบการณ์โดยตรงในหัวข้อ (the new “E” in EEAT) : ในเดือนธันวาคม 2022 ตัวย่อ EAT ยอดนิยมของ Google (Expertise, Authority, Trust) ได้รับ E: Experience เพิ่มเติม และในขณะนี้ Google จะพิจารณาประสบการณ์ของผู้แต่งหรือผู้สร้างเมื่อประเมินคุณภาพของเนื้อหา
ดังนั้น "ประสบการณ์" ในที่นี้หมายถึงอะไรจริงๆ ซึ่ง Google ต้องการเห็นว่าผู้สร้างเนื้อหามีประสบการณ์ตรง โดยตรงจากประสบการณ์จริงในหัวข้อที่กล่าวถึงนั่นเอง (หัวข้อในที่นี้หมายถึงคอนเทนต์ที่เราทำ)
2. เนื้อหาที่กำหนดเป้าหมายผู้ชม ไม่ใช่เนื้อหาที่กำหนดเป้าหมายการเข้าชม : นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลของการเน้นที่ประสบการณ์ เนื่องจากในปัจจุบันการสร้างเนื้อหา SEO กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นนั่นเอง ตัวอย่างเช่น "เว็บไซต์ที่มีการขายซอฟต์แวร์ทางการเงิน แต่กลับสร้างบล็อกโพสต์ที่เป็นสูตรอาหาร"
ดังนั้นโปรแกรมการรวบรวมข้อมูลของ Google จะต้องสงสัยว่า เนื้อหานั้นมีประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าซอฟต์แวร์ทางการเงินจริงหรือไม่? หรือสร้างขึ้นมาเพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับสำหรับ Keyword ที่มีปริมาณมากแค่บางคำ?
3. เพิ่มการเน้น Authority ผู้เขียน : อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์คือ การจัดอันดับเนื้อหาที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติใน SERPs ซึ่ง Google ต้องการให้แน่ใจว่าเนื้อหาที่ติดอันดับในปี 2023 นั้นผลิตโดยคนจริงๆ ที่คำนึงถึงผู้ชมจริงๆ
แล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อยกระดับ Experience และ Authority ในปีนี้ ฉะนั้นก่อนอื่นเลยคือตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ที่สร้างเนื้อหาของคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง จากนั้นยกระดับประสบการณ์ด้วยวิธีต่อไปนี้
- รวมประวัติผู้แต่ง
- สร้างหน้าผู้เขียน
- เชื่อมโยงบัญชีโซเชียลมีเดียของผู้สร้างของคุณ
- อ้างอิงแหล่งที่มา
4. เป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์และน่าพึงพอใจ : การอัปเดตเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ของ Google ในเดือนสิงหาคม 2022 จะเป็นการอัปเดตอัลกอริทึมที่สำคัญอีกรายการหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลต่อวิธีที่เราสร้างเนื้อหาในปี 2023
และสิ่งต่อมาคือ ขยายการวิจัยคำหลักของคุณเพื่อรวมข้อมูลที่นอกเหนือจากปริมาณการค้นหา โดยพิจารณาจากสิ่งต่อไปนี้
- ใครคือผู้สร้าง
- เนื้อหายาวแค่ไหน
- รวมลิงก์อะไรไว้ในเพจบ้าง
- สามารถตอบคำถามอะไรบ้าง
- ประสบการณ์ของพวกเขาคืออะไร
- สำรวจหัวข้อย่อย หรือคำถามที่เกี่ยวข้องอะไรอีกบ้าง
- เนื้อหาประเภทใดที่ได้รับการจัดอันดับ สำหรับการค้นหาที่เฉพาะเจาะจง
5. ซอฟต์แวร์เขียนเนื้อหา และเนื้อหา AI : ถึงแม้ว่าการอัปเดตทั้งหมดในปี 2022 จะเน้นไปที่การต่อสู้กับเนื้อหาที่ "สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ" แต่การใช้เนื้อหา AI ในปี 2023 มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกครับ
ฉะนั้นด้วยการอัปเดตล่าสุดทั้งหมดของ Google ซอฟต์แวร์เขียนเนื้อหา จะใช้งานได้อย่างปลอดภัยหรือไม่?
คำตอบคือ "ได้อย่างแน่นอน" ซึ่งการออกแบบที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัตินั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกอะไรขนาดนั้น แต่...นักการตลาดสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน เพื่อช่วยเพิ่มความเร็ว workflow และยังคงสร้างเนื้อหาต้นฉบับที่มีคุณภาพในกระบวนการด้วย
6. SEO อัตโนมัติ : แน่นอนว่าเนื้อหา AI งาน SEO จำนวนมากจะขึ้นเป็นแบบอัตโนมัติมากยิ่งขึ้นในปี 2023 เนื่องจากการตลาดดิจิทัลยังคงใช้ประโยชน์จากพลังของแพลตฟอร์มและเครื่องมือซอฟต์แวร์ SEO เช่น
- Keyword research tools
- Site auditing and monitoring platforms l
- Website graders
ฉะนั้นการเพิ่มขึ้นของเครื่องมือเหล่านี้ จะช่วยให้ธุรกิจและเอเจนซีสามารถดูแลกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์มากขึ้น
7. การเปลี่ยนแปลง CTR ตามตำแหน่ง SERP : เตรียมพร้อมที่จะเปลี่ยนสิ่งที่คิดว่ารู้เกี่ยวกับ CTR และตำแหน่งการจัดอันดับ ด้วยการเลื่อนอย่างไม่รู้จบที่มีอยู่ทั้งบนมือถือและเดสก์ท็อป Google ทำให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนดูผลลัพธ์ SERP หลายหน้าเพื่อค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
แต่ในปี 2023 อัตราการคลิกผ่านน่าจะได้รับผลกระทบเนื่องจากผู้ค้นหายังไปหน้าต่างๆ ของผลการค้นหาได้ง่ายขึ้น ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกำลังปรับชื่อหน้า และคำอธิบายเมตาเหล่านั้นให้เหมาะสม และใช้คุณลักษณะต่างๆ เช่นมาร์กอัปสคีมาเพื่อทำให้เนื้อหาของคุณมีส่วนร่วมมากขึ้นและสามารถคลิกได้ใน SERP
8. SEO หน้าผลิตภัณฑ์ : เนื่องจาก Google ยังคงให้รางวัลแก่เนื้อหาที่มีรูปแบบยาว และให้ข้อมูลหน้าเว็บที่มีแนวโน้มเนื้อหาน้อย เช่น หน้าผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะได้ประโยชน์ในปี 2023 จากการให้รายละเอียดที่เป็นประโยชน์มากขึ้นในหน้าผลิตภัณฑ์ และอื่นๆ เช่น
- นโยบายการคืนสินค้าคืออะไร
- คุณเสนอการจัดส่งฟรีหรือไม่
- สินค้ามีการรับประกันการอัปเกรด หรือส่วนเสริมหรือไม่
- มีข้อความรับรองจากลูกค้า หรือบทวิจารณ์ที่คุณสามารถแสดงพร้อมกับผลิตภัณฑ์ได้หรือไม่
นี่เป็นเพียงไม่กี่วิธีในการเพิ่มเนื้อหา เพิ่มเติมในหน้าที่เป็นประโยชน์และให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้ที่กำลังพิจารณาการซื้อที่อาจเกิดขึ้น
9. การวิเคราะห์คู่แข่ง SEO : การมองหาคู่แข่งเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการกำหนดกลยุทธ์ SEO มาโดยตลอด และการวิเคราะห์คู่แข่งจะง่ายยิ่งขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในปี 2023 ด้วยความช่วยเหลือจากเครื่องมือ SEO
เนื่องจาก Google ให้ความสำคัญกับความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและ "หัวข้อต่างๆ" ของเว็บไซต์มากขึ้น การดูผู้นำทางความคิดในอุตสาหกรรมของคุณ จะเป็นวิธีที่แน่นอนในการทำความเข้าใจว่าเนื้อหาประเภทใดในอุตสาหกรรมของคุณจะติดอันดับ
10. ความถี่ในการรวบรวมข้อมูลน้อยลง : เมื่อเร็วๆ นี้ Google ได้ตั้งเป้าหมายใหญ่ด้านสภาพอากาศ โดยรวมไปถึงการใช้พลังงานปลอดคาร์บอนภายในปี 2023 ดังนั้นเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว Google ได้พิจารณาลดความถี่ในการรวบรวมข้อมูลหน้าเว็บ
การลดการรวบรวมข้อมูลจะช่วยรักษาทรัพยากรคอมพิวเตอร์ และเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ง่ายที่สุดที่ Google สามารถทำได้ตามโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืน
นั่นเป็นเหตุผลที่การเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาของตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดบนหน้าเว็บที่ต้องใช้การจัดอันดับ จึงเป็นทางเลือกเชิงกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในปี 2023
11. SEO รูปภาพได้รับการฟื้นฟู : รูปภาพมักถูกละเลยบนเว็บไซต์ แต่รูปภาพเหล่านี้มีบทบาทในการจัดอันดับที่ดีขึ้นสำหรับการค้นหารูปภาพเสมอ ฉะนั้นทำตามรายการตรวจสอบ SEO สำหรับรูปภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าเรากำลังปฏิบัติตามสิ่งที่ต้องทำทั้งหมดเกี่ยวกับรูปภาพในปี 2023
12. เว็บไซต์ที่โหลดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูง : นับตั้งแต่มีการอัปเดตประสบการณ์การใช้งานหน้าเว็บในปี 2021 Google ได้ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพสูง และโหลดเร็วมากขึ้นในอัลกอริทึมการจัดอันดับ
ซึ่งในปี 2023 Page Speed Insights และ Core Web Vitals จะยังคงเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการตรวจสอบและประเมินความเร็ว หรือประสิทธิภาพของเว็บไซต์นั่นเอง
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการทำ SEO เพิ่มเติมได้ที่ : การทำ SEO
“ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ”
--Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—
ข้อมูลจาก : wordstream.com