08 ก.พ. 2567

608

Digital PR สำหรับ SEO คืออะไร by seo-winner.com

Digital PR สำหรับ SEO คืออะไร

การสร้างลิงก์ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ SEO ที่สำคัญมากๆ มาเป็นระยะเวลาที่เนิ่นนานแล้ว เช่นลิงก์ย้อนกลับ ยิ่งเราได้ลิงก์เหล่านี้มากเท่าไหร่ โดยเฉพาะจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่มีชื่อเสียง อันดับการค้นหาของเราก็จะยิ่งดีขึ้นมากเท่านั้น.

แต่อย่างไรก็ตามอย่างที่เรารู้อย่างที่เราทราบ SEO นั้นมีการพัฒนาอัลกอริทึมของ Google มีความซับซ้อนมากขึ้นในปัจจุบัน และในอนาคตคาดว่าจะมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ 

ฉะนั้น เพื่อปรับปรุงอันดับการค้นหาในปัจจุบัน เราจะต้องมีกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ดิจิทัลที่ครอบคลุม ซึ่งปลูกฝังความเชี่ยวชาญ กำหนดเป้าหมายจุดสัมผัสที่สำคัญในเส้นทางของผู้ซื้อ สร้างเรื่องราวข้อมูลที่น่าสนใจ และรวบรวมอิทธิพลผ่าน Reputation และการยอมรับนั่นเอง

บูรณาการ PR และ SEO

สำหรับการใช้ PR กับ SEO เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Reputation ของบุคคล องค์กรและเนื้อหาของเราต่อกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งไม่ใช่เกี่ยวกับแค่เครื่องมือค้นหาเท่านั้น โดยมุมมองนี้จะทำให้กลยุทธ์ ยุทธวิธี และมาตรการของเรามุ่งเน้นไปที่สัญญาณที่ Google กำลังมองหา เพื่อปรับปรุงการจัดอันดับ

ดังนั้น Reputation กับ Google จึงเป็นผลจากการให้ความสำคัญกับ Reputation ของเรากับกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง 

Digital PR คืออะไร

Digital PR สำหรับ SEO คือ: การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับเครื่องมือค้นหาและผู้ชม โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้าง Reputation ของผลิตภัณฑ์ บริการ เว็บไซต์ เนื้อหา และบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง ฉะนั้น Digital PR จึงเป็น Reputation ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสม

ต่อไปนี้คือลักษณะสำคัญของ Digital PR สำหรับ SEO.

1. เป็นสาขาความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน: สาขาความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านคือ ขอบเขตเฉพาะที่บุคคลหรือองค์กรมีความรู้และทักษะที่สำคัญ โดยประเภทของความเชี่ยวชาญอาจรวมถึง: 

1. ความเชี่ยวชาญเฉพาะบุคคล

2. ความเชี่ยวชาญขององค์กร

3. ความลึกของความรู้

4. ประสบการณ์และการฝึกฝน

5. ทักษะที่แสดงให้เห็น

2. เป็นข้อพิสูจน์ถึงความเชี่ยวชาญ: การพิสูจน์ถึงความเชี่ยวชาญหมายถึง การแสดงและไม่บอก ให้ตัวอย่างความเชี่ยวชาญส่วนบุคคลหรือองค์กรของเราในชีวิตจริง ซึ่งอาจเป็นผลิตภัณฑ์ บริการ หรือความรู้ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม การพิสูจน์ความเชี่ยวชาญอาจมีได้หลายรูปแบบ แต่พื้นฐานบางอย่างก็ดำเนินการได้ง่าย เช่น

1. การวิจัยเฉพาะ

2. เรื่องราวของลูกค้า/ลูกค้า

3. ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ

3. เป็นโครงเรื่องที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล: "ตรงกันข้ามกับการสร้างลิงก์" โดย Digital PR สำหรับ SEO จำเป็นต้องมีการเสนอเรื่องราวให้นักข่าวและผู้จัดพิมพ์ทราบ ซึ่งนักข่าวมีเวลาว่างและกระตือรือร้นในการค้นหาผู้เชี่ยวชาญและข้อมูลเพื่อสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจ

การสร้างการศึกษาหรือการวิจัยที่เป็นเอกลักษณ์ ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของผลิตภัณฑ์และการตลาดทั่วไปในการสื่อสารโซลูชันให้กับลูกค้า แต่อย่างไรก็ตาม การวิจัยลูกค้าเพียงอย่างเดียวอาจไม่สอดคล้องกับโครงเรื่องที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่นักข่าวมักสร้างขึ้นเสมอไป

ขั้นแรกให้ทำการวิเคราะห์แนวโน้มของสื่อ เพื่อระบุหัวข้อการวิจัยที่เป็นไปได้ จากนั้นจึงสร้างงานวิจัยที่เปิดเผยหรือสนับสนุนแนวโน้ม เมื่อโครงเรื่องของไดรฟ์ข้อมูลถูกสร้างขึ้น ความครอบคลุมของสื่อก็จะกลายเป็นสิ่งเหล่านี้….

1. ประชาสัมพันธ์เชิงโต้ตอบ

2. การประชาสัมพันธ์แบบพาสซีฟ

3. ทางสายย่อย/ความคิดเห็น

4. ประชาสัมพันธ์ขาเข้า

5. พอดแคสต์

เคล็ดลับ: พยายามคาดการณ์แนวโน้ม และอย่าเพียงแต่คาดเดาแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้น ค้นพบปัญหาที่คนมีแต่สื่อไม่ได้พูดถึง ผู้คนสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับจุดปวดที่รุนแรง

4. มีอิทธิพลและการยอมรับในสาขานี้: อิทธิพลและการยอมรับ เป็นวิธีที่ความเชี่ยวชาญของเราเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้อื่น เพื่อดำเนินการบางอย่าง โดยการดำเนินการอาจอยู่ในรูปแบบของ....

1. การแชร์ลิงก์ไปยังงานวิจัย เนื้อหา ผลิตภัณฑ์/บริการ แบรนด์ หรือบุคคลของเรา

2. กล่าวถึงแบรนด์ การวิจัย ผลิตภัณฑ์ เรื่องราวของลูกค้า ฯลฯ

3. การซื้อและพูดคุยเกี่ยวกับสินค้า/บริการ

โดยทั่วไปหุ้นเหล่านี้อาจมาจาก 7 ด้านเหล่านี้:

1. นักข่าว

2. โฮสต์พอดแคสต์

3. บล็อกเกอร์

4. ผู้มีอิทธิพล

5. นักการตลาดเนื้อหา

6. ลูกค้า

7. รางวัล

5. เกี่ยวข้องกับผู้ชม: Digital PR ควรกำหนดเป้าหมายผู้ชมเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับความเชี่ยวชาญของเรามากที่สุด

1. กลุ่มเป้าหมายเฉพาะคืออะไร?

2. ในส่วนนั้น บุคลิกภาพมีอะไรบ้าง?

3. บุคคลเหล่านี้มีลักษณะอย่างไร

นักข่าว บรรณาธิการ และผู้สร้างเนื้อหาพยายามสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ชมอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ชมเหล่านี้มีจุดสัมผัสเฉพาะที่พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาและวิธีแก้ไข 

6. เป็นการเดินทางของผู้ซื้อ: แผนที่การเดินทางของผู้ซื้อโดยใช้ชื่ออื่นยังคงเป็นแผนที่การเดินทางของผู้ซื้อ บางคนเรียกมันว่าแผนที่การเดินทางของลูกค้า บางคนเรียกว่าแผนที่ที่มีอิทธิพล และบางคนเรียกมันว่าแผนที่ประสบการณ์

แต่อย่างไรก็ตามแผนที่การเดินทางของผู้ซื้อคือ แผนที่ภาพขั้นตอนการทำงาน หรือการกระทำของบุคคลเมื่อซื้อสินค้าจากหรือมีส่วนร่วมกับบริษัทนั่นเอง 

ซึ่งการเดินทางโดยทั่วไปมี 3 ขั้นตอนได้แก่ การตระหนักรู้ การพิจารณา และการตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม ในการประชาสัมพันธ์ดิจิทัลสำหรับ SEO พบว่ามีประโยชน์….

1. การรับรู้

2. ระบุตัวตน

3. การพิจารณา

4. ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม

5. การตัดสินใจ

ต่อไปนี้คือ 6 หมวดหมู่เพื่อวิจัยจุดติดต่อเฉพาะจากผู้ชม:

1. เครื่องมือค้นหา

2. พอดแคสต์

3. บล็อก

4. กด (การคลิกเข้าชม)

5. จดหมายข่าว

6. สังคม

ดังนั้น การใช้จุดสัมผัสเหล่านี้กับการเดินทางของลูกค้า จะสร้างช่องทาง SEO และ PR ที่บูรณาการ ค้นหาจุดติดต่อสำหรับผู้ชมที่มีส่วนร่วมกับชื่อแบรนด์ของคู่แข่ง

สรุป

1. Digital PR สำหรับ SEO ไม่ใช่การสร้างลิงก์ แต่เป็นทางเลือกหนึ่งของการสร้างลิงก์

2. บูรณาการ SEO และประชาสัมพันธ์ Google ใช้ AI เพื่อทำหน้าที่เหมือนมนุษย์ เพื่อประเมิน Reputation ของตน นี่คือเหตุผลว่าทำไมการประชาสัมพันธ์และ SEO ดิจิทัลจึงถูกรวมเข้ากับ Reputation

3. Digital PR สำหรับ SEO ไม่ใช่แค่ลิงก์และการกล่าวถึงแบรนด์เพียงอย่างเดียว ลิงก์และการกล่าวถึงเป็นส่วนหนึ่งของ Reputation

4. Digital PR สำหรับ SEO เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Reputation ออนไลน์ของบริษัทและผลิตภัณฑ์/บริการของบริษัท ช่องทางติดต่อลูกค้า และการรวบรวมส่วนแบ่งข้อมูลของบริษัทผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ

5. แคมเปญข้อมูลที่สอดคล้องกับกระแสสื่อรวบรวมสื่อเพื่อเพิ่ม Reputation

บทความ

เหตุผลที่ WordPress ต้องใช้ Web Hosting

เหตุผลที่ WordPress ต้องใช้ Web Hosting

WordPress ต้องใช้ Web Hosting เพราะ Web Hosting เป็นที่ที่เก็บไฟล์และข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ รวมถึงทำให้เว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้บนอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไม Dwell Time ถึงสำคัญสำหรับ SEO

ทำไม Dwell Time ถึงสำคัญสำหรับ SEO

Dwell Time เป็นหนึ่งในปัจจัยที่บ่งบอกถึงความพึงพอใจของผู้ใช้และคุณภาพของเนื้อหาในเว็บไซต์ การเพิ่ม Dwell Time จึงเป็นวิธีที่ช่วยปรับปรุง SEO และผลการจัดอันดับของเว็บไซต์ในเครื่องมือค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

Traditional SEO คืออะไร

Traditional SEO คืออะไร

Traditional SEO เป็นกระบวนการที่ใช้เทคนิคและกลยุทธ์ต่างๆ ในการปรับปรุงอันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา โดยการปรับแต่งทั้งด้านในและด้านนอกของเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและความน่าเชื่อถือให้กับเครื่องมือค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

อัตราการแปลง (Conversion Rate)

อัตราการแปลง (Conversion Rate)

อัตราการแปลง (Conversion Rate) ใน SEO เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดความสำเร็จของเว็บไซต์ในการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้าหรือผู้ที่ดำเนินการตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ... อ่านเพิ่มเติม

Impressions คืออะไร

Impressions คืออะไร

Impressions คือการวัดการแสดงผลของเนื้อหาหรือโฆษณาบนหน้าจอของผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้เข้าใจถึงการเข้าถึงและการมองเห็นแบรนด์หรือเนื้อหาของเราในตลาด ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Page Speed

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Page Speed

Page Speed เป็นสิ่งที่สำคัญทั้งในการเพิ่มประสิทธิภาพ SEO และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน เว็บไซต์ที่โหลดเร็วจะช่วยให้ผู้ใช้มีความสุขในการใช้งาน ทำให้โอกาสในการทำอันดับในผลการค้นหาดีขึ้น ... อ่านเพิ่มเติม

Accessibility สำคัญยังไง

Accessibility สำคัญยังไง

Accessibility หรือการเข้าถึง คือการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันให้สามารถใช้งานได้โดยผู้ใช้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีความทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว การได้ยิน หรือการมองเห็น ... อ่านเพิ่มเติม

กลยุทธ์ SEO ระดับนานาชาติ

กลยุทธ์ SEO ระดับนานาชาติ

การทำ International SEO ช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายการเข้าถึงผู้ใช้จากหลายประเทศและหลายภาษาได้ ทำให้เพิ่มโอกาสในการเติบโตในตลาดต่างประเทศ และสามารถปรับกลยุทธ์ SEO ให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละตลาด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ, ยกระดับการแสดงผลในผลการ ... อ่านเพิ่มเติม

การลงโทษจาก Google

การลงโทษจาก Google

การลงโทษจาก Google มักจะเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่ละเมิดกฎและข้อกำหนดของ Google Search หรือ Google Play Store ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับในผลการค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม