สำหรับแคมเปญโฆษณานั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน เช่นโฆษณาแบบดิสเพลย์นั้นบางครั้งก็เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ในขณะที่บางแคมเปญนั้นได้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความบันเทิงและมีส่วนร่วมผ่านเกมง่ายๆ 

อย่างไรก็ตามแคมเปญโฆษณาที่ประสบความสำเร็จนั้น ก็มักจะมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายช่องทาง และโฆษณาแบบดิสเพลย์นั้นยังเป็นส่วนสำคัญของแผนการตลาดแบบบูรณาการต่างๆ อีกด้วย

โฆษณาแบบดิสเพลย์คืออะไร : Display ads หรือโฆษณาแบบดิสเพลย์เป็นโฆษณาออนไลน์ที่รวมเนื้อหาองค์ประกอบด้านภาพด้วยข้อความกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) ที่เชื่อมไปยังหน้าแรก 

ซึ่งโฆษณาแบบดิสเพลย์ได้พัฒนาเป็นช่องทางที่เสนอการเข้าถึง การปรับขนาด และประสิทธิภาพการทำงานผ่านตำแหน่งโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายรูปแบบที่หลากหลาย และมีการวัดผลด้วย

อีกทั้งโฆษณาแบบดิสเพลย์สามารถดึงดูดสายตาช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และยังเป็นวิธีที่วัดผลได้สำหรับแบรนด์เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการตลาดได้นั่นเอง

ขนาดโฆษณาแบบดิสเพลย์ทั่วไป : สมาคมโฆษณาออนไลน์ (IAB) มีการกำหนดมาตรฐานสำหรับ (ขนาดของโฆษณาแบบดิสเพลย์) ตามตัวอย่างดังนี้

1. ลีดเดอร์บอร์ดบนมือถือ: 320 x 50 - 640 x 100 พิกเซล @2X (จำเป็นต้องใช้)
2. สี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่: 300 x 600 พิกเซล
3. สี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกลาง: 300 x 250 พิกเซล
4. โฆษณาแบบแนวตั้ง: 160 x 600 พิกเซล
5. ลีดเดอร์บอร์ด: 728 x 90 พิกเซล

โฆษณาแบบดิสเพลย์ทำงานอย่างไร : 1. เริ่มต้นด้วยการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย : แน่นอนว่าขั้นตอนนี้สำคัญมากๆ เช่นกันเพราะจะทำให้คุณนั้นกำหนดกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลต่างๆ เช่นสัญญาณการจับจ่าย ข้อมูลประชากรศาสตร์ ดังนั้นการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมจะช่วยให้มั่นใจว่าโฆษณาของคุณจะแสดงต่อกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องมากที่สุดให้กับแบรนด์นั่นเอง

2. กำหนดเป้าหมายและตั้งค่าแคมเปญ : เป็นการแสดงถึงผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีที่คุณนั้นต้องขับเคลื่อน เช่น การกำหนดงบประมาณแคมเปญ และการเข้าถึงหรือผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) อีกทั้งยังสามารถกำหนดตั้งค่าเพิ่มเติม เช่น ประเภทอุปกรณ์ แหล่งจัดหา จังหวะ การกรองการรับส่งข้อมูลล่วงหน้าเป็นต้น

3. สร้างเนื้อหาและดีไซน์ที่ดึงดูดความสนใจให้กับโฆษณาดิสเพลย์ของคุณ 

4. วัดขนาดโฆษณาแบบดิสเพลย์ให้เป็นสเปก : เนื่องจากโฆษณาจะมีลักษณะแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับว่าโฆษณาเหล่านี้ใช้สำหรับมือถือหรือเดสก์ท็อปนั่นเอง

5. วัดทราฟฟิกโฆษณาแบบดิสเพลย์ให้เป็นเวลา

6. ตรวจสอบเมทริกซ์ของโฆษณาแบบดิสเพลย์ของคุณ : ควรให้ความสำคัญกับการตั้งค่าแคมเปญและองค์ประกอบโฆษณาของคุณ เพราะการกระตุ้นให้เกิดการดำเนินการ (CTA) อาจส่งผลต่อความสำเร็จในแคมเปญโฆษณาดิจิทัลของคุณได้

7. จดบันทึกการเรียนรู้สำหรับแคมเปญโฆษณาแบบดิสเพลย์ในอนาคต : การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่รวบรวมจากแคมเปญจะช่วยประหยัดเวลา เงิน และแรงของคุณกับแคมเปญในอนาคตได้

ข้อดีและข้อเสียของโฆษณาแบบดิสเพลย์

“ข้อดี”

1. โฆษณาแบบดิสเพลย์ประหยัดค่าใช้จ่ายและให้ความคุ้มค่า
2. โฆษณาแบบดิสเพลย์เข้าถึงลูกค้าในทุกขั้นตอนของช่องทางและเติมเต็มช่องทางอื่นๆ ด้วย
3. วัดผลได้
4. โฆษณาแบบดิสเพลย์ทำให้เกิดการรับรู้ถึงแบรนด์ที่ดีขึ้นยืดหยุ่นและเข้าถึงได้

“ข้อเสีย”

1. คนไม่ชอบโฆษณา
2. โฆษณาแบบดิสเพลย์อาจมีน้อยเกินไป
3. มีอัตราการคลิกผ่านและอัตราการแปลงที่ค่อนข้างต่ำ

โฆษณาแบบดิสเพลย์มีประเภทใดบ้าง : มีโฆษณาแบบดิสเพลย์หลายประเภทสำหรับธุรกิจให้เลือก ได้แก่

1. โฆษณารีมาร์เก็ตติ้ง
2. โฆษณาส่วนบุคคล
3. โฆษณาที่กำหนดเป้าหมายตามบริบท
4. โฆษณาบนเว็บไซต์

หวังว่าผู้อ่านจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ไม่มากก็น้อย ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

 

--Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—

ข้อมูลจาก : mailchimp / advertising.amazon