เคยสังเกตไหมครับว่าเวลาเราค้นหาข้อมูลหรือกำลังดูเกี่ยวกับสิ่งนั้นๆ อยู่ เรามักจะเห็นโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ดูเหมือนว่าจะสมบูรณ์แบบสำหรับเรา และดูเหมือนว่าจะโชคดีที่อยู่ๆ การรีวิวหรือโฆษณาเหล่านี้ปรากฏขึ้นให้เรานั้นได้เลือกดูสิ่งที่เรากำลังค้นหาอยู่

“แต่นั่นไม่ใช่โชคหรือความบังเอิญแต่อย่างใด โดยเกิดจากบริษัทต่าง ทำให้สถานการณ์เหล่านี้เป็นไปได้ด้วยการวิจัยตลาดเชิงกลยุทธ์”

ดังนั้นเมื่อมี "ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับการตลาดเป้าหมาย" ทำให้บริษัทสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างแคมเปญการตลาดที่ดึงดูดผู้บริโภคได้โดยตรง และยังสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ได้รับจากการวิจัยตลาดเพื่อขับเคลื่อนบริษัทของเราให้ประสบความสำเร็จได้หลายวิธีอีกด้วย

แล้วการวิจัยตลาดสำคัญอย่างไร ในบทความนี้เราได้สรุปจาก cint มาให้ได้วิเคราะห์กัน ฉะนั้นสำคัญอย่างไรไปดูกันเลย.

1. การวิจัยตลาดในธุรกิจคืออะไร : การวิจัยตลาดเกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มประชากรเป้าหมายและผู้บริโภค เพื่อให้ธุรกิจสามารถทำการตลาดให้ตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยการวิจัยตลาดนั้นเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ทางธุรกิจ ไม่ว่าธุรกิจจะเป็นลักษณะใดก็ตาม ซึ่งจะทำให้ธุรกิจมุ่งไปข้างหน้าได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ในการตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูล

แน่นอนว่าบริษัทส่วนใหญ่รู้ว่าการวิจัยตลาดคืออะไรและรับทราบถึงความสำคัญในแง่ทั่วไป แต่อาจไม่ทราบว่าการวิจัยตลาดมีความสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจอย่างไร

ดังนั้นหากต้องการระบุแนวโน้มของตลาด และทำความเข้าใจลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น หรือเพื่อเป้าหมายอื่นๆ การวิจัยตลาดคือคำตอบ!

2. ประเภทของการวิจัยตลาด : สำหรับการวิจัยตลาดนั้นเป็นหมวดหมู่กว้างๆ โดยในความเป็นจริงแล้ว มีการวิจัยตลาดมากมายที่เราสามารถใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายเฉพาะของธุรกิจของเราได้ ตามตัวอย่างด้านล่างต่อไปนี้

• การวิจัยตราสินค้า : สำหรับการวิจัยตลาดจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างหรือปรับแต่งตราสินค้า เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่กลุ่มเป้าหมาย โดยเราสามารถดูระดับความรับรู้การรับรู้ถึงแรนด์, ความภักดีของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ และคุณสมบัติประเภทใดที่ผู้คนเชื่อมโยงกับแบรนด์ของเรา และแง่มุมอื่นๆ นั่นเอง
• การประเมินแคมเปญการตลาด : โดยทั่วไปการตลาดจะเน้นเฉพาะประสิทธิภาพของแคมเปญ แต่ที่แตกต่างไปจากนี้คือเราสามารถประเมินได้ว่ามีคนเห็นโฆษณาจำนวนกี่คน อัตราการคลิกผ่านเป็นอย่างไร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปปรับเปลี่ยนแคมเปญในอนาคตให้ดียิ่งขึ้นได้ และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นอีกด้วย
• การวิจัยคู่แข่ง : การวิจัยคู่แข่งมุ่งเน้นไปที่การแข่งขันเพื่อช่วยให้เราได้รับข้อมูลเชิงลึกว่า และทำให้รู้ว่าบริษัทของเราจะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไร การดูแคมเปญการตลาดของคู่แข่ง สามารถช่วยให้เราเรียนรู้จากจุดแข็งและจุดอ่อนของพวกเขาได้
• การวิจัยการแบ่งกลุ่มลูกค้า : สำหรับการวิจัยตลาดประเภทที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจใหม่คือการแบ่งกลุ่มลูกค้า โดยการศึกษาเหล่านี้สามารถแบ่งฐานของผู้บริโภคออกเป็นกลุ่มๆ ได้ เพื่อทำความเข้าใจผู้บริโภคในแต่ละประเภท และสามารถช่วยคุณสร้างแคมเปญเฉพาะบุคคลซึ่งปรับให้เหมาะกับแต่ละกลุ่มได้
• การวิจัยผู้บริโภค : การวิจัยบางอย่างเน้นเฉพาะเจาะจงไปที่การทำความเข้าใจผู้บริโภคในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งให้ดีขึ้น โดยการเรียนรู้พฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างละเอียด ฉะนั้นยิ่งเราเข้าใจผู้บริโภคมากเท่าไหร่โอกาสดึงดูดยิ่งมากเท่านั้น
• การพัฒนาผลิตภัณฑ์ : ตัวอย่างเช่น ยอดขายเรานั้นลดลงอย่างมาก และความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนไป  จากนั้นเราพบว่าผลิตภัณฑ์นี้ควรนำเสนอคุณสมบัติใหม่เพื่อให้มีประโยชน์หรือสะดวกยิ่งขึ้น
• การทดสอบการใช้งาน : การทดสอบการใช้งานจะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ โดยเน้นที่วิธีที่ผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา (ประสบการณ์ผู้ใช้) เช่นเราปล่อยแอปพลิเคชันขายของออนไลน์ลงสู่ท้องตลาด และขอรับคำติชมจากผู้ใช้เพื่อดูว่ามีข้อบกพร่องหรือปัญหาอื่นๆ ที่เราต้องแก้ไขหรือไม่ เป็นต้น

3. ประโยชน์ของการวิจัยตลาด : สำหรับการวิจัยตลาดสามารถให้ประโยชน์อันมีค่าแก่บริษัทของเราได้ ฉะนั้นมาดูวิธีการวิจัยตลาดที่จะช่วยให้บริษัทของเราประสบความสำเร็จได้

• ช่วยรักษาแนวทางที่ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง : วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดวิธีหนึ่งในการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการวิจัยตลาดของเราคือ การใช้แบบจำลองการแบ่งส่วนตำแหน่งการกำหนดเป้าหมาย (STP) รูปแบบการตลาดนี้เกี่ยวข้องกับ : การแบ่งกลุ่ม, การกำหนดเป้าหมาย และการวางตำแหน่ง เป็นต้น
• ช่วยเชื่อมต่อกับผู้ชมของเราอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น : เราจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อพูดถึงแคมเปญการตลาดของเรา เราไม่ต้องการเสียเวลาและเงินไปกับการลองผิดลองถูก เป็นต้น
• ช่วยระบุโอกาสในการเติบโต : การทำวิจัยตลาดเป็นระยะๆ สามารถช่วยให้เราค้นพบโอกาสใหม่ๆ ในการปรับปรุงและเติบโต ตัวอย่างเช่น เราอาจค้นพบ : ส่วนที่ยังเข้าไม่ถึง, พันธมิตรทางธุรกิจ และการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
• ช่วยลดความเสี่ยงโดยการทดสอบแนวคิด : ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมักจะลดความเสี่ยงด้วยวิธีเชิงกลยุทธ์ วิธีหลีกเลี่ยงความเสี่ยงไม่ใช่การหลีกเลี่ยงการทำอะไร ธุรกิจควรใช้การวิจัยตลาดเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนสูงสุด
• ช่วยให้ข้อมูลมากขึ้นในการตัดสินใจ : การวิจัยตลาดช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถตัดสินใจได้อย่างรอบรู้มากขึ้นซึ่งได้รับการสนับสนุนจากข้อมูล ดังนั้นข้อมูลวิจัยตลาดจึงสามารถทำหน้าที่เป็นเข็มทิศนำทางแต่ละทางเลือกที่บริษัททำ เพื่อให้ใกล้เป้าในการแปลงและรักษาลูกค้าเป้าหมายได้สำเร็จ
• ช่วยให้การแข่งขันนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น : การวิจัยตลาดที่มั่นคงสามารถเป็นความแตกต่างที่ทำให้เราได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด เช่น การทำความเข้าใจลูกค้าของเราให้ดียิ่งขึ้น, การวิจัยคู่แข่งที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคู่แข่งของเราโดยตรง, การวิจัยตลาดสามารถช่วยเราค้นหาว่าผู้บริโภคไม่พอใจแบรนด์เหล่านี้และข้อเสนอของพวกเขาอยู่ที่จุดใด และวิจัยตลาดเพื่อช่วยให้เราค้นพบกลุ่มตลาดที่ด้อยโอกาส
• ช่วยให้อยู่เหนือเทรนด์ : พฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบันนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ฉะนั้นการวิจัยตลาดเป็นสิ่งสำคัญหากเราต้องการตามให้ทัน โดยเราต้องตระหนักถึงแนวโน้มเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค ช่องทางการโฆษณาที่ได้รับความนิยมสูงสุด การออกแบบบรรจุภัณฑ์ และอื่นๆ อีกมากมาย (หากเรานำข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ไปปรับใช้กับเทรนด์ใหม่ๆ จะดีกว่า) ดีกว่าตามเทรนด์อย่างเดียวโดยไม่สนอะไร

4. วิธีการดำเนินการวิจัยตลาด : บริษัทต่างๆ สามารถทำการวิจัยตลาดด้วยวิธีการต่างๆ ประการแรกทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างสองประเภทหลัก ในการจัดหาข้อมูลการวิจัยตลาดจะเป็นประโยชน์ได้แก่การวิจัยหลักและรอง

การวิจัยเบื้องต้น : สำหรับการวิจัยเบื้องต้นคือข้อมูลที่บริษัทรวบรวม หรือผู้เชี่ยวชาญรวบรวมในนามของบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ของการวิจัยตลาด หรือเรียกว่าการวิจัยภาคสนาม

สำหรับการวิจัยหลักบางอย่างเป็นแบบสำรวจ ซึ่งหมายความว่าเป็นการวิจัยแบบปลายเปิดมากกว่า อีกทั้งการวิจัยหลักรูปแบบอื่นๆ มีเป้าหมายเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคำถามหรือประเด็นที่เฉพาะเจาะจง เป็นต้น

การวิจัยทุติยภูมิ : สำหรับการวิจัยทุติยภูมินั้น เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น เราสามารถปรึกษาข้อมูลการสำรวจสำมะโนประชากรของรัฐบาล, รายงานข้อมูลอุตสาหกรรม หรือสถิติเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด 

โดยการวิจัยประเภทนี้สามารถเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำความเข้าใจตลาดให้กว้างขึ้นและเรียนรู้เกี่ยวกับการแข่งขัน และการวิจัยขั้นทุติยภูมิมีแนวโน้มที่จะเป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่จะทำการวิจัยขั้นปฐมภูมินั่นเอง

มีหลายวิธีที่บริษัทวิจัยหลักใช้เพื่อเรียนรู้จากผู้บริโภค วิธีการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีดังนี้

1. แบบสำรวจ
2. กลุ่มเป้าหมาย
3. บทสัมภาษณ์
4. ข้อสังเกต

5. การวิจัยตลาดนั้นได้ผลหรือไม่ : สำหรับการวิจัยตลาดนั้นต้องใช้เวลา ความพยายาม และเงินทุนจึงจะสำเร็จ ดังนั้นจึงเหมาะสมที่จะใช้ทรัพยากรเหล่านี้ หากเราได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้นเท่านั้น!! 

แต่ในความเป็นจริงแล้ว การวิจัยตลาดยังคงเป็นส่วนที่สำคัญของการดำเนินธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากมันค่อนข้างที่จะคุ้มค่ากับการลงทุน

อย่างไรก็ตามการวิจัยตลาดเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ช่วยทำให้ธุรกิจของเราประสบความสำเร็จได้ แต่จะให้ข้อมูลที่จำเป็น สำหรับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่จะนำพาบริษัทของเราไปสู่ความสำเร็จได้

ทั้งนี้หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านไม่มากก็น้อย นี่เป็นเพียงการวิเคราะห์การสรุป “การวิจัยตลาด” มาจาก cint เท่านั้นซึ่งผู้อ่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ cint

และผู้อ่านสามารถปรึกษาเรื่องของการตลาดออนไลน์ได้ที่ การทำตลาดออนไลน์

 

 

 

 

--Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—

ข้อมูลจาก : cint.com