04 ส.ค. 2564
1649
กลุ่มขายออนไลน์ 5 กลุ่ม สะท้อนทิศทางตลาด E-Commerce ในอนาค
ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผู้บริโภคอีกต่อไป และมีการเติบโตน่าสนใจ จนใครหลายคนสามารถสร้างรายได้จากการเป็น ‘พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์’ ได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด กำไรมหาศาล
จาก Online Seller Archetypes ของ Sea (Group) ที่ได้สำรวจผู้ค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มช้อปปี้ราว 42,000 ราย จากทั้งหมด 6 ประเทศ ประกอบไปด้วย ประเทศไทย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย พบว่า พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. กลุ่มแม่บ้าน-พ่อบ้าน
2. กลุ่มนักเรียน-นักศึกษา
3. กลุ่มผู้ประกอบการมืออาชีพจากโลกออฟไลน์
4. กลุ่มทำอาชีพเสริมคู่งานประจำ
5. กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์มืออาชีพ
ซึ่งแต่ละกลุ่มมีการใช้งาน E-Commerce เพื่อตอบโจทย์ความจำเป็นที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกลุ่มเหล้านี้กันค่ะ ว่า แต่ละกลุ่มมีพฤติกรรมที่สะท้อนถึงทิศทางของตลาด E-Commerce ในอนาคอย่างไรได้บ้าง
1. กลุ่มแม่บ้าน-พ่อบ้าน
กลุ่ม The Homemaker เกือบทั้งหมดเป็นคุณแม่ในช่วงวัย 30 ที่รับหน้าที่ดูแลบ้าน และความเป็นอยู่ของสมาชิกในครอบครัวเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 4 คน โดย 60% ของ The Homemaker ระบุว่า การค้าขายผ่านอีคอมเมิร์ซ เพื่อ‘นำรายได้มาใช้ในการดูแลครอบครัว’ ส่วนปัจจัยสำคัญที่ทำให้เลือกช่องทางอีคอมเมิร์ซในการทำธุรกิจ ได้แก่ ‘ความยืดหยุ่นของเวลาการทำงาน’ เพราะทำให้ ดำเนินธุรกิจและดูแลครอบครัวควบคู่กันไปได้
2. กลุ่มนักเรียน-นักศึกษา
ได้แก่ ‘กลุ่มคนรุ่นใหม่ในวัยเรียน’ ที่ค้าขายออนไลน์ควบคู่ไปกับการเรียน มีรายได้จากการขายสินค้าออนไลน์เป็นรายได้หลักและนำรายได้ไปใช้เพื่อการศึกษาในอัตราที่สูงโดดเด่นจากกลุ่มอื่นๆ อย่างชัดเจน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับผู้ค้าออนไลน์กลุ่มอื่นๆ แล้ว The Student มีเงินออมส่วนบุคคลค่อนข้างน้อย อีกทั้งยังต้องเข้าเรียนเต็มเวลาตามที่หลักสูตรการศึกษานั้นๆ กำหนด จึงทำให้มี ‘ความอ่อนไหวทางด้านการเงินและปัญหาการจัดการเวลา’ สูง
ดังนั้น อีคอมเมิร์ซจึงเข้ามาเป็นโซลูชันที่ช่วยให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้ ได้ทดลองทำการค้าขายตามไอเดียและความสร้างสรรค์ของตนได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย มีต้นทุนต่ำและระดับความเสี่ยงที่ต่ำ นับเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ The Student ผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการบนโลกอีคอมเมิร์ซได้ง่ายยิ่งขึ้น
3. กลุ่มผู้ประกอบการมืออาชีพจากโลกออฟไลน์
คือ ผู้ประกอบการที่เดิมทำธุรกิจอยู่บนช่องทางออฟไลน์ และมีความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์การทำธุรกิจที่ยาวนานกว่า 10 ปี แต่พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปกดดันให้กลุ่มนี้ต้องเข้ามาใช้อีคอมเมิร์ซอย่างกะทันหัน ไม่เพียงเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน รักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีอยู่ แต่ยังต้องการหาโอกาสขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่ๆ อีกด้วย
แม้ว่า The Never-too-late จะมีความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์การทำงานจริงเป็นจุดแข็ง แต่ก็มีจุดอ่อนเช่นกัน คือ การที่พวกเขาเป็นกลุ่มที่มีประสบการณ์ร่วมกับเทคโนโลยีดิจิทัลน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับผู้ค้าออนไลน์กลุ่มอื่นๆ จากสถิติชี้ว่า สัดส่วนยอดขายบนอีคอมเมิร์ซโดยเฉลี่ยของผู้ค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ 28% เท่านั้น ยังเติบโตได้อีกมาก หาก Reskill-Upskill ผู้ประกอบการและพนักงาน เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดให้ธุรกิจใช้ประโยชน์จาก Digital Tools ได้เต็มที่มากขึ้น
4. กลุ่มทำอาชีพเสริมคู่งานประจำ
คือ กลุ่มพนักงานประจำที่ขายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซเป็นอาชีพเสริม โดยมองว่า ‘อีคอมเมิร์ซใช้งานง่าย’ ช่วยให้จัดการร้านค้าและคำสั่งซื้อได้ตามเวลาที่สะดวก และต้นทุนต่ำ จึงตัดสินใจนำเข้ามาใช้เป็นโซลูชันในการรักษาระดับความพึงพอใจของทั้งนายจ้างและลูกค้าบนโลกออนไลน์ เนื่องจากงานประจำคือความมั่นคง
ส่วนอีคอมเมิร์ซเป็นแหล่งที่มาของรายได้หลัก ยิ่งไปกว่านั้น 2 ใน 3 ของ The Moonlighter เป็นกำลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว พวกเขาจึงมีมุ่งมั่นและจริงจังกับการทำธุรกิจส่วนตัวบนอีคอมเมิร์ซ โดยกลุ่มนี้มีความสามารถในการใช้ Digital Tools ดีอยู่แล้ว หากเติมความรู้ในการบริหารธุรกิจเข้าไป ก็จะทำให้มีศักยภาพการขยายธุรกิจสูง
5. กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์มืออาชีพ
กลุ่ม The Highly-Digital คือ กลุ่มคนที่สังคมมักจะนึกถึงเมื่อเราพูดคำว่า “พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์” โดยพวกเขาขายสินค้าออนไลน์เป็นอาชีพหลักเพียงอาชีพเดียว มีความแอคทีฟบนอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มสูง บริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างยอดขายจากช่องทางอีคอมเมิร์ซได้มากกว่า 50% ของยอดขายทั้งหมด นับเป็นกลุ่มที่มีทักษะการทำธุรกิจบนช่องทางดิจิทัลสูงที่สุดในกลุ่มผู้ค้าออนไลน์ทั้งหมด ซึ่งกลุ่ม The Highly-Digital มักเป็นคนช่วงอายุ 30 ปี โดย 66% ระบุว่าต้องการหารายได้เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว และอีก 57% ระบุว่าต้องการนำรายได้ไปลงทุนต่อเพื่อขยายธุรกิจบนอีคอมเมิร์ซ
จากผลสำรวจยังระบุอีกว่า นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้ามาเร่งกระบวนการ Digital Transformation ให้เร็วขึ้น หลายๆ ประเทศมีความพยายามที่จะสนับสนุนและส่งเสริม SMEs ให้อยู่รอดด้วยการใช้ Digitalization ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตาม การใช้มาตรการเยียวยาหรือส่งเสริมศักยภาพ SMEs แบบ One-size-fit-all อาจไม่ใช่คำตอบ เนื่องจากธรรมชาติของผู้ค้าออนไลน์มีความหลากหลาย ทั้งด้านปูมหลัง แรงจูงใจ และการนำอีคอมเมิร์ซไปปรับใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม ‘Hidden Entrepreneur’ อย่าง The Homemaker และ The Student ที่แตกต่างไปจากภาพผู้ประกอบการในความคิดของสังคมส่วนใหญ่อย่างชัดเจน