27 ก.พ. 2563
8947
ขั้นตอนการทำ Marketing Automation
“Marketing Automation” เป็นระบบทำการตลาดให้กับลูกค้าแบบอัตโนมัติ และลูกค้าจะเป็นฝ่ายเข้ามาหาคุณเอง ลูกค้าเพิ่มขึ้น ยอดขายก็เพิ่มขึ้น แต่.. ตอนลงมือทำอาจจะไม่ง่ายเท่าไหร่ เพราะมีขั้นตอนที่ต้องวิเคราะห์มากมาย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
วันนี้พวกเรา Wynnsoft ได้นำขั้นตอนการทำ Marketing Automation อย่างง่าย มาให้ศึกษากัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ธุรกิจย่อมมีหลายประเภท ธุรกิจที่ต่างกันก็มีวิธีการลงมือทำที่ไม่เหมือนกัน แต่อย่างน้อยคุณจะได้ประโยชน์จากบทความต่อไปนี้อย่างแน่นอน
ขั้นตอนในการทำ Marketing Automation
1. ดูตัวเองให้ถี่ถ้วนก่อน
ก่อนที่คุณจะเริ่มเอา Marketing Automation ไปใช้กับธุรกิจของคุณ สิ่งแรกที่คุณควรทำคือพิจารณาดู ก่อนว่าบริษัทของคุณจำเป็นหรือเหมาะสมที่จะต้องทำ Marketing Automation จริงๆ รึเปล่า
สิ่งที่ควรพิจารณามีอยู่ 2 อย่างด้วยกัน คือ
-คนในทีมพร้อมเปิดรับเครื่องมือใหม่ๆ หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากแค่ไหน เวลาที่บริษัทจะทำหรือเปลี่ยนแปลงอะไร สิ่งที่จะบอกว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะสำเร็จหรือล้มเหลว ประเด็นที่สำคัญที่สุดเลย คือคน สิ่งนี้คือสิ่งแรกที่คุณควรทำก่อนที่จะเอาเทคโนโลยีอย่าง Marketing Automation ไปใช้
-การทำ Automation แพงกว่าใช้คนรึเปล่า?
แน่นอนว่าเมื่อจะลงมือทำอะไร ต้องมีการลงทุนเพิ่มเข้ามา คำว่าลงทุนที่ว่านี้คือลงทุนในแง่ของทั้งคนและทั้งซอฟต์แวร์ ซึ่งช่วงราคาเป็นไปได้ตั้งแต่หลักไม่กี่หมื่นจนถึงหลักหลายล้าน เราจะแนะนำให้ลองคิดถึงงานที่คุณต้องการจะทำให้เป็นอัตโนมัติดู จากนั้นเปรียบเทียบระหว่างว่า จากนั้นเปรียบเทียบระหว่างว่า ‘จ้างคนและซื้อซอฟต์แวร์มาทำ Marketing Automation’ กับ ‘ใช้คนเอาก็ได้เพราะงานที่ต้อง Automate มันไม่ได้เยอะและไม่ได้ใช้แรงมาก’ ดูว่าอันไหนคุ้มค่ามากกว่าภายใต้กรอบระยะเวลาที่คุณสนใจ (เช่น 1 ปีหรือ 2 ปี)
2. เริ่มต้นทำ Marketing Automation ด้วยการวางแผน
การทำ Marketing Automation มันคือ “เทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการและส่งมอบคอนเทนต์ไปให้กับคนที่ใช่ในเวลาที่ใช่และในช่องทางที่ใช่โดยอัตโนมัติ ซึ่งสุดท้ายแล้วเทคโนโลยีที่ว่านี้จะต้องช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการตลาดและการขายด้วย”
ทั้งนี้ ต่อให้คุณมีเทคโนโลยีที่เจ๋งที่สุดในโลก แต่คุณไม่มีแผนที่จะจัดการกับมัน เทคโนโลยีนั้นๆ ก็ไม่สามารถเปล่งประกายได้เต็มที่ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือการวางแผน ซึ่งการที่คุณจะส่งสิ่งที่ใช่ไปในเวลาที่ใช่และในช่องทางที่ใช่นั้นสิ่งแรกๆ ที่คุณควรรู้คือเรื่องของ Life Cycle Stage
ความหมายคือคนที่เข้ามาปฏิสัมพันธ์กับคุณแต่ละคนนั้นอยู่คนละช่วงเวลากันและเป็นคนที่ไม่เหมือนกันเพราะฉะนั้นคุณจะต้อง Treat พวกเขาต่างกัน
3.หา Traffic เข้ามาใส่ระบบอัตโนมัติของคุณ
สมมติว่าคุณเปิดร้านค้าและคุณมีสินค้าที่ดีมากๆ คุณเตรียมเนื้อหาความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าไว้นำเสนอให้กับคนที่สนใจมากมาย แต่ไม่มีใครเข้ามายังร้านของคุณ เนื้อหาความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าต่อให้ดียังไง มันก็ยังคงถูกเก็บไว้แบบนั้น จริงไหม?
เช่นเดียวกัน ต่อให้คุณมีระบบ Automation และคอนเทนต์ที่ดีแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่สามารถดึงดูดให้คนเข้ามาหาคุณได้เลย ระบบอัตโนมัติของคุณก็คงจะไม่ได้ใช้งาน เพราะฉะนั้นถ้าคุณยังไม่สามารถหาวิธีที่ทำให้คุณได้มาซึ่ง Traffic อย่างอัตโนมัติ (และอย่างยั่งยืน) คุณยังไม่ควรที่จะมาทำ Marketing Automation
4.เก็บข้อมูล Leads มาให้ได้
โดยปกติแล้วถ้าจะแบ่งข้อมูลของ Lead มันจะแบ่งออกมาได้เป็น 2 แบบคือ Non-PII กับ PII
-Non-PII คือชุดข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ เช่นข้อมูลชุดที่คุณดูได้จาก Google Analytics (มีคนเข้ามาเว็บไซต์คุณ 100 คน คุณจะรู้ได้ว่ามีผู้หญิง 60 คนและผู้ชาย 40 คน แต่คุณจะไม่สามารถรู้ได้ว่า A คือผู้ชาย)
-PII คือชุดข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ เช่นข้อมูลที่คุณได้จากการให้คนกรอกมาผ่านงานอีเวนต์
ดังนั้นการที่คุณจะทำ Marketing Automation ให้ได้ผลดีน้ัน คุณควรจะต้องสามารถเก็บข้อมูลที่เป็น PII มาให้ได้ก่อน
5.สื่อสารกับ Lead ที่ได้มาด้วยการตลาดแบบอัตโนมัติ
โดยปกติแล้วการสร้าง Workflow ใน Marketing Automation ให้ใช้งานได้จะประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ Trigger และ Action
-Trigger คือกิจกรรมอะไรบางอย่างที่ทำให้ Workflow นั้นๆ ทำงาน ยกตัวอย่างเช่นการที่คนกรอกฟอร์ม หรือการที่คนทำอะไรก็แล้วแต่ที่คุณต้องการให้ Lead ทำ
-Action คือกิจกรรมอะไรบางอย่างที่จะเกิดใน Workflow นั้นๆ ยกตัวอย่างเช่นการส่งอีเมล การส่ง SMS การส่ง LINE Message รวมไปถึงการอัปเดตฐานข้อมูลของ Lead ในระบบ
6.วัดผลและปรับปรุง
ซอฟต์แวร์ในการทำ Marketing Automation ที่ดีจะทำให้คุณสามารถเก็บการปฏิสัมพันธ์ของ Lead ได้ในหลายๆ Touchpoint ตั้งแต่วันที่เขาเข้ามารู้จักคุณจนกระทั่งวันที่เขากลายเป็นคนที่สนใจหรือลูกค้าของคุณ
ในช่วงแรกๆ คุณอาจจะต้องเฝ้าติดตามผลการทำ Marketing Automation บ่อยๆ อาจจะเริ่มจากการเข้ามาดูทุกวันและปรับเปลี่ยน Message
ที่ให้ผลลัพธ์แย่มากๆ ออกไป เมื่ออยู่ตัวแล้ว การมารีวิว Workflow ต่างๆ ที่เคยสร้างไว้สักเดือนละครั้งหรือไตรมาสละครั้งก็เป็นสิ่งที่เพียงพอแล้ว
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นวางแผน เลือกเครื่องมือ และลงมือทำ Marketing Automation ให้กับธุรกิจของคุณได้
ที่มา : contentshifu