28 ธ.ค. 2564
1359
เช็กกันหรือยัง? Top 5 เทรนด์ SEO ในปี 2022
เราต่างทราบกันดีว่า Search Engine Optimization หรือที่เรียกกันติดปากว่า SEO นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามายังแพลตฟอร์มออนไลน์ของเรา สิ่งหนึ่งที่คนทำ SEO รู้ดีคือ SEO มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราจำเป็นต้องติดตามเทรนด์อยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์ของเรามีประสิทธิภาพมากพอ เพราะกลยุทธ์ที่เก่ากว่าไม่เพียงแต่ไม่ได้ผลในปัจจุบันเท่านั้น แต่กลยุทธ์ที่ล้าสมัยบางอย่าง เช่น การใช้คำหลักมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อ SEO ด้วยซ้ำ สิ่งนี้ทำให้เราจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ SEO ให้เข้ากับแนวโน้มล่าสุดอย่างต่อเนื่อง หากสงสัยว่าแนวโน้ม SEO ที่จะมีผลกระทบมากที่สุดในปี 2022 มีอะไรบ้าง ตามมาเลยค่ะ!
1. ปัญญาประดิษฐ์จะมีบทบาทมากขึ้นใน SEO
ในขณะที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนโต้ตอบกับเนื้อหาออนไลน์ AI ก็จะเริ่มมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์ SEO ด้วยเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ AI algorithm RankBrain ของ Google เนื่องจากสิ่งนี้อาจกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยการจัดอันดับที่สำคัญที่สุดของ Google (search engine results pages) ในปี 2022 เพราะตั้งแต่ที่ Google เปิดตัว RankBrain ธุรกิจจำนวนมากก็สงสัยว่าสิ่งนี้จะส่งผลต่อ SEO อย่างไร แล้วเราจะใช้กลยุทธ์เนื้อหากับอัลกอริทึม AI ได้อย่างไร?
แม้ว่า Google จะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานภายในของ RankBrain แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าประสบการณ์ของผู้ใช้จะยังเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการจัดอันดับ ซึ่งหมายความว่าอัตราการคลิกและระยะเวลาการเข้าชมเว็บไซต์จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ RankBrain จะใช้ในการจัดลำดับความสำคัญของเนื้อหา สิ่งสำคัญคือเราต้องสร้างเนื้อหาที่มีการจัดระเบียบที่ดีและมีประโยชน์ เพื่อให้ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้
2. การเปลี่ยนไปใช้เนื้อหาแบบยาว
เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้าชมเว็บไซต์ เราจะต้องเปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์เนื้อหาแบบยาว มีการแสดงเนื้อหาตั้งแต่ 3,000 คำขึ้นไป เพื่อให้ได้รับการเข้าชมและแชร์มากกว่าเนื้อหาแบบสั้น การเปลี่ยนโฟกัสไปที่การสร้างเนื้อหาแบบยาวที่มีคุณภาพสามารถปรับปรุงอันดับการค้นหาของเราได้เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ เพื่อให้เนื้อหาแบบยาวประสบความสำเร็จ เราจะต้องดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วม และเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม สิ่งสำคัญคือเราจะต้องแบ่งเนื้อหาออกเป็นหลายส่วนย่อย โดยใช้หัวข้อย่อย H2 และ H3 เพื่อเอื้ออำนวยให้ผู้อ่านสแกนเนื้อหาได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เราควรตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่าเนื้อหาของเราแชร์ได้ง่าย โดยการรวมลิงก์การแชร์ไว้ที่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของเนื้อหาอย่างชัดเจน
3. เป็นมิตรกับมือถือ สิ่งสำคัญสำหรับการจัดอันดับของ Google
รองรับการใช้งานบนมือถือหรือเป็นมิตรกับมือถือเป็นรากฐานที่สำคัญของ SEO โดย Google ได้กำหนดให้เป็นปัจจัยในการจัดอันดับตั้งแต่ปี 2015 อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ เนื่องจาก Google ได้เปิดตัวการจัดทำดัชนีเพื่ออุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นอันดับแรกในปี 2019 หมายความว่าเสิร์ชเอ็นจิ้นจะดูที่เว็บไซต์เวอร์ชันมือถือเป็นหลักเมื่อมีการจัดอันดับของเนื้อหา เนื่องจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ถือเป็นเวอร์ชันหลัก แทนที่จะเป็นเวอร์ชันเดสก์ท็อป การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่น่าแปลกใจสำหรับหลายๆ คน เนื่องจากคาดว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเกือบ 75% จะเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่เพียงอย่างเดียวภายในปี 2025
4. เนื้อหาควรเป็นไปตามหลักการ EAT ของ Google
Google เน้นย้ำว่าคุณภาพของเนื้อหามีความสำคัญต่อความสำเร็จในการจัดอันดับ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจต่างๆ มักมีความสงสัยว่า "เนื้อหาที่มีคุณภาพ" ของ Google หมายความว่าอย่างไร เมื่อเราพยายามปรับปรุงคุณภาพเนื้อหาเพื่อทำ SEO สิ่งสำคัญคือต้องอ้างอิงหลักการ EAT โดย EAT ย่อมาจาก expertise, authoritativeness และ trustworthiness หากแปลเป็นไทยก็จะคือคำว่า ความเชี่ยวชาญ ความเชื่อถือได้ และความน่าเชื่อถือ Google ใช้ปัจจัยเหล่านี้ในการพิจารณาว่าหน้าเว็บมีเนื้อหาที่มีคุณภาพหรือไม่ และเป็นสิ่งที่ธุรกิจจำเป็นต้องตระหนักเพื่อพัฒนาเนื้อหาสำหรับเว็บไซต์ของตัวเอง
เพื่อให้แน่ใจว่าเรากำลังสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ สิ่งสำคัญคือเราเข้าใจบุคลิกของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะสามารถช่วยให้เราเข้าใจได้ดีขึ้นว่าเนื้อหาประเภทใดที่เป้าหมายของเราให้ความสำคัญ ลักษณะของกลุ่มเป้าหมายกลายเป็นส่วนสำคัญของ SEO เนื่องจากสามารถช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและจัดรูปแบบในลักษณะที่เป้าหมายเห็นว่าน่าสนใจ เราต้องคำนึงถึง EAT เมื่อเราพัฒนาเนื้อหาก็ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้มีการอ้างอิงด้วยสถิติและข้อเท็จจริง และตรวจสอบว่าเนื้อหาของเรามาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และมีลิงก์ที่เชื่อถือได้ในเนื้อหา สิ่งเหล่านี้เป็นวิธีในการปฏิบัติตามเกณฑ์ทั้งหมดในหลักการของ EAT
5. SEO ที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีวิดีโอ
หากเรายังไม่เคยลองใช้วิดีโอ ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องพัฒนากลยุทธ์ SEO ที่มีวิดีโอด้วย ความจริงก็คือแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ได้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจจำนวนมากก็เริ่มหันไปใช้แพลตฟอร์ม เช่น YouTube และ TikTok เพื่อขยายการเข้าถึงและเพิ่มการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย
การสร้างเนื้อหาวิดีโอที่เหมาะสมควรเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ SEO ในอนาคต แต่เราจะเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาวิดีโอได้อย่างไร วิธีหนึ่งที่เราสามารถทำได้คือการตรวจสอบว่าได้ปรับคำอธิบายในช่องวิดีโอได้อย่างเหมาะสม อธิบายให้ชัดเจนว่าช่องของเราเกี่ยวข้องกับอะไร คำหลักจะมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาวิดีโอ โดยคำหลักและแฮชแท็กที่มีประโยชน์สองสามคำจะสามารถช่วยนำเนื้อหาของเราไปยังกลุ่มเป้าหมายได้
SEO ยังคงมีบทบาทสำคัญในการจัดลำดับเนื้อหาของเรา อย่างไรก็ตาม SEO ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ การติดตามแนวโน้มปัจจุบันจะทำให้เราสร้างกลยุทธ์ที่มากกว่าใส่คำหลักในเนื้อหา เราต้องไตร่ตรองและสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพเพื่อที่จะอยู่ในอันดับที่ดีในอัลกอริทึมของ Google
อ้างอิง: Top SEO Trends Of 2022 | Web Design & Development | Faster Solutions