24 ก.ย. 2564

1490

เทคนิคทางการตลาดที่เรียกว่า “FOMO” by seo-winner.com

เทคนิคทางการตลาดที่เรียกว่า “FOMO”

เป้าหมายสูงสุดของการสร้างแคมเปญโฆษณาสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ ก็คือ การที่จะทำให้ลูกค้าได้ตัดสินใจซื้อสินค้าของเราได้ทันที ซึ่งการเขียน Copywriting หรือการเขียนโฆษณาที่ดี เป็นอีกวิธีการที่จะทำให้คุณบรรลุเป้าหมายนี้ได้ 

และถ้าหากคุณกำลังเจอกับปัญหาเหล่านี้ ที่เขียน Copywriting ยังไงก็ไม่มีคนอ่าน มีคนอ่าน แต่ไม่มีคนซื้อ ไม่ส่งผลให้เกิดยอดขายได้ เราจึงนำบทความในวันนี้มาแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ทุกคนกันค่ะ นั่นก็คือ การเขียนข้อความดึงดูดให้คนตัดสินใจ “ซื้อ” ได้ง่ายมากขึ้น จากเทคนิคทางการตลาดที่เรียกว่า “FOMO” ค่ะ

FOMO คืออะไร? “FOMO” ย่อมาจาก “Fear of Missing Out” หรือความรู้สึกกลัว อาการของคนที่กลัวว่าจะพลาดบางสิ่งบางอย่างไป และจะไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะความกลัวเป็นอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์ แต่ความกลัวในรูปแบบนี้เห็นได้ชัดยิ่งขึ้น เมื่อ social media เข้ามามีบทบาทในชีวิตของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน 

FOMO เป็นจิตวิทยาที่สามารถทำให้ผู้คนตัดสินใจทำบางสิ่งเช่น ซื้อสินค้า ลงทะเบียน หรือคลิก ในช่วงขณะนั้นได้ ในแง่ธุรกิจ SMEs ก็สามารถที่จะใช้ประโยชน์จาก FOMO ในการทำการตลาดดิจิทัลได้เช่นกัน โดยการทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่ต้องการพลาด หรือปล่อยให้โอกาสให้หลุดมือไป เราจะเห็นไวรัลแคมเปญต่างๆ ที่มักจะกระตุ้นให้ลูกค้าเห็นว่าคนรอบตัวซื้อสินค้านี้แล้วตนเองก็ต้องซื้อด้วย 

เทคนิคทางการตลาดที่เรียกว่า “FOMO” มีทั้งหมด 9 ข้อ มาดูกันเลยค่ะ  

  • 1.ใช้เงื่อนไขเรื่องเวลา

การตั้งเงื่อนไขเรื่องของเวลาสามารถกระตุ้นการตัดสินใจด้วยความกดดันภายใต้เวลาที่กำหนดได้ การจัดแคมเปญต่างๆ จำเป็นที่จะต้องกำหนดเรื่องของเวลาจริงๆ ห้ามต่อระยะเวลาเด็ดขาด เพราะลูกค้าจะคิดว่าเป็นการหลอกลวง อาจส่งผลต่อเสียชื่อเสียงของแบรนด์ได้ เช่น มอบส่วนลด 20% หากสั่งซื้อภายใน 48 ชั่วโมง หรือจัดส่งฟรีในเดือนนี้เท่านั้น พอหมดเวลา ข้อเสนอก็จะหมดไปทันที

  • 2. พลังของ Influencers

คำพูดของผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดในโลกโซเชียลสามารถกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี การใช้ Influencers จะมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม Instagram นอกจากนี้ยังสามารถนำคำพูดของ Influencers ไปใช้ในช่องทางอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น เอาไปใช้ในหน้า Page หรือ ในคลิป video โปรโมท และอื่น ๆ

  • 3. เสียงตอบรับหรือรีวิวจากลูกค้า และข้อมูลทางวิชาการ 

ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังที่สุด แต่ต้องนำไปใช้ในเวลาที่เหมาะสม โดยเฉพาะใช้ช่วง the bottom of the funnel เพราะลูกค้าค่อนข้างพร้อมที่จะตัดสินใจซื้อ ในสถานการณ์ที่มีการแย่งกันซื้อสินค้าหรือของกำลังจะหมด สถานการณ์เหล่านี้มีนัยว่ามีบางสิ่งเป็นที่นิยมชมชอบของคนอื่น ๆ ถ้าไม่เลือกรีบซื้ออาจพลาดสิ่งดี ๆ ไปก็ได้ สิ่งนี้สามารถกระตุ้น FOMO ได้ดีทีเดียว

  • 4. ขายสินค้าหรือบริการแบบควบรวม

การจัดแพ็ครวมสินค้าหรือบริการได้รับความนิยมมากในหลายธุรกิจ เช่น การขายพ่วงในธุรกิจโทรคมนาคม บริการอินเทอร์เน็ต รวมถึงบริการทีวีแบบรับสมาชิกหรือ Cable TV หรือการเสนอให้ลูกค้าเปิดบัญชีเงินฝาก บัตรเครดิต หรือสินเชื่อสวนบุคคล ควบคู่กับการขายหน่วยลงทุนหรือประกันภัยของธุรกิจธนาคาร การจัดแคมเปญขายสินค้าในลักษณะควบรวม ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าจ่ายน้อยลงกว่าเดิม และยังสามารถนำกลยุทธ์เรื่องของเวลาเข้ามาใช้ร่วมด้วยก็ได้

  • 5. ภาษากระตุ้นยอดขาย 

ภาษามีความสำคัญอย่างมาก ในการสร้างความรู้สึกต่อ FOMO เมื่อต้องการให้ลูกค้ารู้สึกว่าเวลากำลังจะหมดไปและกำลังจะสูญเสียข้อเสนอที่น่าสนใจ อาจใช้คำที่มีผลกระทบต่อความรู้สึกได้ เช่น อย่าพลาด ของมีจำนวนจำกัด ทุกชิ้นราคาเดียว โอกาสทองใกล้หมดแล้ว ลดสุดขีด ลดล้างสต๊อค ฯลฯ เป้าหมายคือการส่งสารว่าหากลูกค้าไม่ทำอะไรตอนนี้ พวกเขาจะเสียใจกับการตัดสินใจนั้น

  • 6. กระจายช่องทางเผยแพร่ การตลาดแบบ FOMO ไม่ได้เพียงแค่ส่งเสริมการขาย

ยังมีประโยชน์ในการสร้างแบรนด์ได้อีกด้วยโดยเฉพาะหากใช้วิธีการหลอมรวมช่องทางการสื่อสาร แบบ omnichannel เช่น ส่งอีเมลเพื่อโปรโมตช่องทางพอดคาสต์ โดยมีโปรโมชั่นพิเศษในพอดคาสต์เท่านั้น ไม่สามารถเห็นได้จากที่อื่น การเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ กัน จะช่วยสร้างผู้ติดตาม ในหลายช่องทาง และช่วยสร้างการจดจำแบรนด์และความภักดีได้อีกด้วย

  • 7. ข่าวสารเฉพาะกับกลุ่ม 

ใครว่าลีดต้องเป็นแค่ลีดตลอดไป เราสามารถเปลี่ยนพวกเขาได้ ด้วยการเสนอคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ให้แก่กลุ่มที่มีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นลูกค้า แต่เป็นการให้ในจำนวนจำกัด แม้ต้องการใช้การตลาดแบบ FOMO เพื่อสร้างลีดมากกว่าการขาย แต่ผลลัพธ์ที่ได้อาจออกมาเหมือนกันได้

  • 8. เสียงจาก UGC 

แม้ว่าการรีวิว เสียงตอบรับ Influencers หรือสิ่งที่เรียกว่า social proof จะมีอิทธิพลต่อลูกค้าหรือผู้บริโภค แต่ก็ไม่ควรมองข้ามกลุ่มผู้ติดตามที่ยินดีสร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับแบรนด์ ของคุณหรือที่เรียกว่า UGC (User Generated Content) ผู้ติดตามเหล่านี้ไม่ใช่คนแปลกหน้า หรือไกลกับลูกค้าเหมือนดาราและ Influencers ตรงกันข้ามพวกเขาใกล้ชิดเป็นเพื่อน หรือคนในครอบครัวเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นเสียงของผู้ติดตามเหล่านี้มีความน้ำหนักอย่างมากต่อความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมาย สามารถนำไปใช้เพื่อการตลาดแบบ FOMO ได้เช่นกัน

  • 9. ใช้ Pop-Up คูปอง  

อีกหนึ่งวิธีที่ดีในการสร้าง FOMO ให้กับผู้คนคือการใช้คูปองแบบ Pop-Up ที่จะให้โอกาสแค่ครั้งเดียว ซึ่งอาจเป็นการให้ส่วนลดหรือมอบสิทธิพิเศษอื่น ๆ ป๊อปอัปคูปองมักจะปรากฏขึ้น เมื่อผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณกำลังปิดแท็บหรือหน้าต่างเบราว์เซอร์ ไม่ควรพลาดที่จะใช้วิธีนี้ เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้รู้ว่าพวกเขาได้รับโอกาสที่ดีแล้ว

FOMO marketing จะใช้ได้ผลจริงจำเป็นต้องกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายเร่งตัดสินใจดำเนินการอย่างรวดเร็ว หากวางแผนโปรโมทดี ๆ กลยุทธ์ FOMO จะช่วยการขายได้มากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

บทความ

ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหา 27 ปี ได้แบ่งปัน 5 ขั้นตอนในการปรับปรุง SEO ของเรา

ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหา 27 ปี ได้แบ่งปัน 5 ขั้นตอนในการปรับปรุง SEO ของเรา

ใน Summit เมื่อเร็วๆ นี้ Duane Forrester ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดผ่านการค้นหามา 27 ปีได้แบ่งปันคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเป็น SEO ที่ดีขึ้น และพัฒนาทักษะเพื่อคาดการณ์ได้ดีขึ้นว่าการตลาดผ่านการค้นหากำลังมุ่งหน้าไปที่ใด ... อ่านเพิ่มเติม

ขับเคลื่อนยอดขายด้วย PR ดิจิทัล (สิ่งที่แบรนด์อีคอมเมิร์ซจำเป็นต้องรู้)

ขับเคลื่อนยอดขายด้วย PR ดิจิทัล (สิ่งที่แบรนด์อีคอมเมิร์ซจำเป็นต้องรู้)

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลและการสื่อสารเป็นเรื่องราวของทุกวินาที การขับเคลื่อนยอดขายด้วย PR ดิจิทัลกำลังก้าวเข้าสู่ขอบเขตใหม่ๆ ที่มีศักยภาพไม่จำกัด ... อ่านเพิ่มเติม

วิธีการแข่งขัน SEO เพื่อบรรลุอันดับที่สูงขึ้น (เหนือกว่าคู่แข่งของเรา)

วิธีการแข่งขัน SEO เพื่อบรรลุอันดับที่สูงขึ้น (เหนือกว่าคู่แข่งของเรา)

เว็บไซต์ที่ใช้กลยุทธ์ SEO มักจะมีประสิทธิภาพดีกว่าเว็บไซต์ที่ไม่ทำ SEO ในหลายๆ ด้าน เช่น การได้รับ Traffic และการมองเห็นในผลการค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

วิธีสร้างสมดุลระหว่าง SEO และ UX

วิธีสร้างสมดุลระหว่าง SEO และ UX

การผสมผสาน SEO และ UX เข้าด้วยกันนั้นมีความสำคัญยิ่งในการสร้างเว็บไซต์ที่ไม่เพียงแต่ดึงดูดการเข้าชมจากการค้นหาอย่างมีประสิทธิภาพ ... อ่านเพิ่มเติม

วิธีทำให้ Google จัดทำดัชนีเว็บไซต์ของเรา

วิธีทำให้ Google จัดทำดัชนีเว็บไซต์ของเรา

การจัดทำดัชนีเนื้อหาเว็บไซต์ของ Google มีบทบาทสำคัญในการกำหนดว่าเนื้อหาของเรา ว่าจะปรากฏบนผลการค้นหาหรือไม่ ซึ่งส่งผลต่อการเข้าถึงและการมองเห็นของเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต ... อ่านเพิ่มเติม

วิธีสร้างเนื้อหาธุรกิจท้องถิ่นที่ทำให้เกิด Conversion

วิธีสร้างเนื้อหาธุรกิจท้องถิ่นที่ทำให้เกิด Conversion

การสร้างเนื้อหาธุรกิจท้องถิ่นคือกระบวนการออกแบบและผลิตเนื้อหาที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับชุมชนหรือพื้นที่ที่ธุรกิจดำเนินการ โดยมุ่งเน้นที่การนำเสนอข้อมูล ผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่ตอบสนองความต้องการและความสนใจของประชากรในพื้นที่นั้นๆ ... อ่านเพิ่มเติม

เคล็ดลับการทำ Redirection สำหรับ SEO

เคล็ดลับการทำ Redirection สำหรับ SEO

การทำ Redirection สำหรับ SEO คือ กระบวนการนำทางผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาจาก URL เดิมไปยัง URL อื่น โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกที่ลิงก์หรือดำเนินการใดๆ เป็นวิธีการที่ใช้เมื่อเนื้อหาบนเว็บไซต์ถูกย้ายไปยังตำแหน่งใหม่หรือเมื่อต้องการรวมหลายหน้าเว็บเข้าด้วยกัน ... อ่านเพิ่มเติม

เคล็ดลับในการรักษาอันดับ SEO  ในขณะที่อัปเดตการออกแบบเว็บไซต์ของเรา

เคล็ดลับในการรักษาอันดับ SEO ในขณะที่อัปเดตการออกแบบเว็บไซต์ของเรา

การปรับปรุงอัปเดตเว็บไซต์ใหม่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้ เว็บทันสมัย ผู้เยี่ยมชมราบรื่นมีความสุข นั่นหมายถึงโอกาสในการขายมากขึ้น ... อ่านเพิ่มเติม

Google ยืนยันว่า Content คุณภาพสูงมีการรวบรวมข้อมูลบ่อยขึ้น

Google ยืนยันว่า Content คุณภาพสูงมีการรวบรวมข้อมูลบ่อยขึ้น

ทีมค้นหาสัมพันธ์ของ Google ได้เปิดเผยว่าเนื้อหา (Content) คุณภาพสูงและการเน้นผู้ใช้เป็นหลัก กลายเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มความต้องการในการรวบรวมข้อมูล ซึ่งเป็นการหักล้างความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับงบประมาณในการวบรวมข้อมูล ... อ่านเพิ่มเติม