27 ก.พ. 2563

8516

ขั้นตอนการทำ  Marketing Automation by seo-winner.com

ขั้นตอนการทำ Marketing Automation

“Marketing Automation” เป็นระบบทำการตลาดให้กับลูกค้าแบบอัตโนมัติ  และลูกค้าจะเป็นฝ่ายเข้ามาหาคุณเอง ลูกค้าเพิ่มขึ้น ยอดขายก็เพิ่มขึ้น แต่.. ตอนลงมือทำอาจจะไม่ง่ายเท่าไหร่ เพราะมีขั้นตอนที่ต้องวิเคราะห์มากมาย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

วันนี้พวกเรา Wynnsoft ได้นำขั้นตอนการทำ  Marketing Automation อย่างง่าย มาให้ศึกษากัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ธุรกิจย่อมมีหลายประเภท  ธุรกิจที่ต่างกันก็มีวิธีการลงมือทำที่ไม่เหมือนกัน แต่อย่างน้อยคุณจะได้ประโยชน์จากบทความต่อไปนี้อย่างแน่นอน

ขั้นตอนในการทำ Marketing Automation
1. ดูตัวเองให้ถี่ถ้วนก่อน
ก่อนที่คุณจะเริ่มเอา Marketing Automation ไปใช้กับธุรกิจของคุณ สิ่งแรกที่คุณควรทำคือพิจารณาดู ก่อนว่าบริษัทของคุณจำเป็นหรือเหมาะสมที่จะต้องทำ Marketing Automation จริงๆ รึเปล่า

สิ่งที่ควรพิจารณามีอยู่ 2 อย่างด้วยกัน คือ
-คนในทีมพร้อมเปิดรับเครื่องมือใหม่ๆ หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากแค่ไหน เวลาที่บริษัทจะทำหรือเปลี่ยนแปลงอะไร สิ่งที่จะบอกว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะสำเร็จหรือล้มเหลว ประเด็นที่สำคัญที่สุดเลย คือคน สิ่งนี้คือสิ่งแรกที่คุณควรทำก่อนที่จะเอาเทคโนโลยีอย่าง Marketing Automation ไปใช้
-การทำ Automation แพงกว่าใช้คนรึเปล่า?
แน่นอนว่าเมื่อจะลงมือทำอะไร ต้องมีการลงทุนเพิ่มเข้ามา คำว่าลงทุนที่ว่านี้คือลงทุนในแง่ของทั้งคนและทั้งซอฟต์แวร์ ซึ่งช่วงราคาเป็นไปได้ตั้งแต่หลักไม่กี่หมื่นจนถึงหลักหลายล้าน เราจะแนะนำให้ลองคิดถึงงานที่คุณต้องการจะทำให้เป็นอัตโนมัติดู จากนั้นเปรียบเทียบระหว่างว่า จากนั้นเปรียบเทียบระหว่างว่า ‘จ้างคนและซื้อซอฟต์แวร์มาทำ Marketing Automation’ กับ ‘ใช้คนเอาก็ได้เพราะงานที่ต้อง Automate มันไม่ได้เยอะและไม่ได้ใช้แรงมาก’ ดูว่าอันไหนคุ้มค่ามากกว่าภายใต้กรอบระยะเวลาที่คุณสนใจ (เช่น 1 ปีหรือ 2 ปี)

2. เริ่มต้นทำ Marketing Automation ด้วยการวางแผน
การทำ Marketing Automation มันคือ “เทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการและส่งมอบคอนเทนต์ไปให้กับคนที่ใช่ในเวลาที่ใช่และในช่องทางที่ใช่โดยอัตโนมัติ ซึ่งสุดท้ายแล้วเทคโนโลยีที่ว่านี้จะต้องช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการตลาดและการขายด้วย”
ทั้งนี้ ต่อให้คุณมีเทคโนโลยีที่เจ๋งที่สุดในโลก แต่คุณไม่มีแผนที่จะจัดการกับมัน เทคโนโลยีนั้นๆ ก็ไม่สามารถเปล่งประกายได้เต็มที่ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือการวางแผน ซึ่งการที่คุณจะส่งสิ่งที่ใช่ไปในเวลาที่ใช่และในช่องทางที่ใช่นั้นสิ่งแรกๆ ที่คุณควรรู้คือเรื่องของ Life Cycle Stage

ความหมายคือคนที่เข้ามาปฏิสัมพันธ์กับคุณแต่ละคนนั้นอยู่คนละช่วงเวลากันและเป็นคนที่ไม่เหมือนกันเพราะฉะนั้นคุณจะต้อง Treat พวกเขาต่างกัน

3.หา Traffic เข้ามาใส่ระบบอัตโนมัติของคุณ
สมมติว่าคุณเปิดร้านค้าและคุณมีสินค้าที่ดีมากๆ คุณเตรียมเนื้อหาความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าไว้นำเสนอให้กับคนที่สนใจมากมาย แต่ไม่มีใครเข้ามายังร้านของคุณ เนื้อหาความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าต่อให้ดียังไง มันก็ยังคงถูกเก็บไว้แบบนั้น จริงไหม?

เช่นเดียวกัน ต่อให้คุณมีระบบ Automation และคอนเทนต์ที่ดีแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่สามารถดึงดูดให้คนเข้ามาหาคุณได้เลย ระบบอัตโนมัติของคุณก็คงจะไม่ได้ใช้งาน เพราะฉะนั้นถ้าคุณยังไม่สามารถหาวิธีที่ทำให้คุณได้มาซึ่ง Traffic อย่างอัตโนมัติ (และอย่างยั่งยืน) คุณยังไม่ควรที่จะมาทำ Marketing Automation 


4.เก็บข้อมูล Leads มาให้ได้
โดยปกติแล้วถ้าจะแบ่งข้อมูลของ Lead มันจะแบ่งออกมาได้เป็น 2 แบบคือ Non-PII กับ PII

-Non-PII คือชุดข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ เช่นข้อมูลชุดที่คุณดูได้จาก Google Analytics (มีคนเข้ามาเว็บไซต์คุณ 100 คน คุณจะรู้ได้ว่ามีผู้หญิง 60 คนและผู้ชาย 40 คน แต่คุณจะไม่สามารถรู้ได้ว่า A คือผู้ชาย)
-PII คือชุดข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ เช่นข้อมูลที่คุณได้จากการให้คนกรอกมาผ่านงานอีเวนต์

ดังนั้นการที่คุณจะทำ Marketing Automation ให้ได้ผลดีน้ัน คุณควรจะต้องสามารถเก็บข้อมูลที่เป็น PII มาให้ได้ก่อน

5.สื่อสารกับ Lead ที่ได้มาด้วยการตลาดแบบอัตโนมัติ
โดยปกติแล้วการสร้าง Workflow ใน Marketing Automation ให้ใช้งานได้จะประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ Trigger และ Action

-Trigger คือกิจกรรมอะไรบางอย่างที่ทำให้ Workflow นั้นๆ ทำงาน ยกตัวอย่างเช่นการที่คนกรอกฟอร์ม หรือการที่คนทำอะไรก็แล้วแต่ที่คุณต้องการให้ Lead ทำ
-Action คือกิจกรรมอะไรบางอย่างที่จะเกิดใน Workflow นั้นๆ ยกตัวอย่างเช่นการส่งอีเมล การส่ง SMS การส่ง LINE Message รวมไปถึงการอัปเดตฐานข้อมูลของ Lead ในระบบ

6.วัดผลและปรับปรุง
ซอฟต์แวร์ในการทำ Marketing Automation ที่ดีจะทำให้คุณสามารถเก็บการปฏิสัมพันธ์ของ Lead ได้ในหลายๆ Touchpoint ตั้งแต่วันที่เขาเข้ามารู้จักคุณจนกระทั่งวันที่เขากลายเป็นคนที่สนใจหรือลูกค้าของคุณ

ในช่วงแรกๆ คุณอาจจะต้องเฝ้าติดตามผลการทำ Marketing Automation บ่อยๆ อาจจะเริ่มจากการเข้ามาดูทุกวันและปรับเปลี่ยน Message
ที่ให้ผลลัพธ์แย่มากๆ ออกไป เมื่ออยู่ตัวแล้ว การมารีวิว Workflow ต่างๆ ที่เคยสร้างไว้สักเดือนละครั้งหรือไตรมาสละครั้งก็เป็นสิ่งที่เพียงพอแล้ว


หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นวางแผน เลือกเครื่องมือ และลงมือทำ Marketing Automation ให้กับธุรกิจของคุณได้

 


ที่มา : contentshifu

 

 

 

 

 

 

บทความ

ทำไมต้องทำ On-Page และ Off-Page เว็บไซต์

ทำไมต้องทำ On-Page และ Off-Page เว็บไซต์

ทำไมต้องทำ On-Page และ Off-Page เว็บไซต์ เป็นสองส่วนสำคัญที่ทำงานร่วมกัน เพื่อให้เว็บไซต์ โดดเด่นและติดอันดับสูงในผลการค้นหาของ Google ... อ่านเพิ่มเติม

Google Search Central มีช่องทางติดต่อใน LinkedIn แล้ว

Google Search Central มีช่องทางติดต่อใน LinkedIn แล้ว

Google Search Central มีช่องทางการติดต่ออย่างเป็นทางการบน LinkedIn แล้ว เปิดตัวเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2024 เป็นช่องทางในการติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก Search Engine ... อ่านเพิ่มเติม

Digital Content Writer สำคัญกับการทำ SEO อย่างไร?

Digital Content Writer สำคัญกับการทำ SEO อย่างไร?

Digital Content Writer นักเขียนเนื้อหาออนไลน์ มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อกลยุทธ์ SEO เปรียบเสมือนฟันเฟืองหลักที่ขับเคลื่อนให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าแรกของ Google ... อ่านเพิ่มเติม

อยากติด Top 10 ของ Google ต้องทำ SEO OFF PAGE

อยากติด Top 10 ของ Google ต้องทำ SEO OFF PAGE

อยากติด Top 10 ของ Google ต้องทำ SEO OFF PAGE เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ SEO ที่ดีจะช่วยให้เว็บไซต์มีอันดับที่ดีขึ้น Traffic มากขึ้น แบรนด์หรือธุรกิจเป็นที่รู้จักมากขึ้น ... อ่านเพิ่มเติม

Content กับ SEO

Content กับ SEO

Content กับ SEO เป็นคู่หูที่ขาดไม่ได้สำหรับความสำเร็จในการทำเว็บไซต์ การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและการใช้เทคนิค SEO อย่างเหมาะสมจะช่วยให้เว็บไซต์เติบโตและดึงดูดผู้ชมเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ... อ่านเพิ่มเติม

Keyword Research หัวใจของการทำ SEO

Keyword Research หัวใจของการทำ SEO

Keyword Research หัวใจของการทำ SEO เปรียบเสมือนการแข่งขันวิ่งมาราธอน เป้าหมายคือการนำเว็บไซต์ไปสู่หน้าแรกของผลการค้นหา เปรียบเสมือนแผนที่และเข็มทิศที่จะนำพาไปสู่ชัยชนะ ... อ่านเพิ่มเติม

การจัดหมวดหมู่เนื้อหา กับ SEO

การจัดหมวดหมู่เนื้อหา กับ SEO

การจัดหมวดหมู่เนื้อหา กับ SEO เป็นจัดกลุ่มเนื้อหาบนเว็บไซต์ตามหัวข้อที่เกี่ยวข้องช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจเนื้อหา เพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้ และช่วยให้สร้างโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีขึ้นด้วย ... อ่านเพิ่มเติม

 On-Page SEO คืออะไร

On-Page SEO คืออะไร

On-Page SEO หมายถึง การปรับแต่งเนื้อหาและองค์ประกอบต่างๆ บนหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้เหมาะสมต่อทั้งผู้ใช้งานและตัวอัลกอริทึมของ Search Engine ทำให้เข้าใจได้ง่ายว่า เว็บไซต์กำลังพูดถึงเรื่องอะไร เกี่ยวข้องกับอะไร ... อ่านเพิ่มเติม

Digital Entertainment กับการทำ  SEO

Digital Entertainment กับการทำ SEO

Digital Entertainment กับการทำ SEO มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจปัจจุบัน เพราะผู้คนใช้เวลากับสื่อดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ Digital Entertainment ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตผู้คนทั่วโลก และเติบโตอย่างรวดเร็ว ... อ่านเพิ่มเติม