27 ก.พ. 2563

8869

ขั้นตอนการทำ  Marketing Automation by seo-winner.com

ขั้นตอนการทำ Marketing Automation

“Marketing Automation” เป็นระบบทำการตลาดให้กับลูกค้าแบบอัตโนมัติ  และลูกค้าจะเป็นฝ่ายเข้ามาหาคุณเอง ลูกค้าเพิ่มขึ้น ยอดขายก็เพิ่มขึ้น แต่.. ตอนลงมือทำอาจจะไม่ง่ายเท่าไหร่ เพราะมีขั้นตอนที่ต้องวิเคราะห์มากมาย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

วันนี้พวกเรา Wynnsoft ได้นำขั้นตอนการทำ  Marketing Automation อย่างง่าย มาให้ศึกษากัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ธุรกิจย่อมมีหลายประเภท  ธุรกิจที่ต่างกันก็มีวิธีการลงมือทำที่ไม่เหมือนกัน แต่อย่างน้อยคุณจะได้ประโยชน์จากบทความต่อไปนี้อย่างแน่นอน

ขั้นตอนในการทำ Marketing Automation
1. ดูตัวเองให้ถี่ถ้วนก่อน
ก่อนที่คุณจะเริ่มเอา Marketing Automation ไปใช้กับธุรกิจของคุณ สิ่งแรกที่คุณควรทำคือพิจารณาดู ก่อนว่าบริษัทของคุณจำเป็นหรือเหมาะสมที่จะต้องทำ Marketing Automation จริงๆ รึเปล่า

สิ่งที่ควรพิจารณามีอยู่ 2 อย่างด้วยกัน คือ
-คนในทีมพร้อมเปิดรับเครื่องมือใหม่ๆ หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากแค่ไหน เวลาที่บริษัทจะทำหรือเปลี่ยนแปลงอะไร สิ่งที่จะบอกว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะสำเร็จหรือล้มเหลว ประเด็นที่สำคัญที่สุดเลย คือคน สิ่งนี้คือสิ่งแรกที่คุณควรทำก่อนที่จะเอาเทคโนโลยีอย่าง Marketing Automation ไปใช้
-การทำ Automation แพงกว่าใช้คนรึเปล่า?
แน่นอนว่าเมื่อจะลงมือทำอะไร ต้องมีการลงทุนเพิ่มเข้ามา คำว่าลงทุนที่ว่านี้คือลงทุนในแง่ของทั้งคนและทั้งซอฟต์แวร์ ซึ่งช่วงราคาเป็นไปได้ตั้งแต่หลักไม่กี่หมื่นจนถึงหลักหลายล้าน เราจะแนะนำให้ลองคิดถึงงานที่คุณต้องการจะทำให้เป็นอัตโนมัติดู จากนั้นเปรียบเทียบระหว่างว่า จากนั้นเปรียบเทียบระหว่างว่า ‘จ้างคนและซื้อซอฟต์แวร์มาทำ Marketing Automation’ กับ ‘ใช้คนเอาก็ได้เพราะงานที่ต้อง Automate มันไม่ได้เยอะและไม่ได้ใช้แรงมาก’ ดูว่าอันไหนคุ้มค่ามากกว่าภายใต้กรอบระยะเวลาที่คุณสนใจ (เช่น 1 ปีหรือ 2 ปี)

2. เริ่มต้นทำ Marketing Automation ด้วยการวางแผน
การทำ Marketing Automation มันคือ “เทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการและส่งมอบคอนเทนต์ไปให้กับคนที่ใช่ในเวลาที่ใช่และในช่องทางที่ใช่โดยอัตโนมัติ ซึ่งสุดท้ายแล้วเทคโนโลยีที่ว่านี้จะต้องช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการตลาดและการขายด้วย”
ทั้งนี้ ต่อให้คุณมีเทคโนโลยีที่เจ๋งที่สุดในโลก แต่คุณไม่มีแผนที่จะจัดการกับมัน เทคโนโลยีนั้นๆ ก็ไม่สามารถเปล่งประกายได้เต็มที่ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือการวางแผน ซึ่งการที่คุณจะส่งสิ่งที่ใช่ไปในเวลาที่ใช่และในช่องทางที่ใช่นั้นสิ่งแรกๆ ที่คุณควรรู้คือเรื่องของ Life Cycle Stage

ความหมายคือคนที่เข้ามาปฏิสัมพันธ์กับคุณแต่ละคนนั้นอยู่คนละช่วงเวลากันและเป็นคนที่ไม่เหมือนกันเพราะฉะนั้นคุณจะต้อง Treat พวกเขาต่างกัน

3.หา Traffic เข้ามาใส่ระบบอัตโนมัติของคุณ
สมมติว่าคุณเปิดร้านค้าและคุณมีสินค้าที่ดีมากๆ คุณเตรียมเนื้อหาความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าไว้นำเสนอให้กับคนที่สนใจมากมาย แต่ไม่มีใครเข้ามายังร้านของคุณ เนื้อหาความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าต่อให้ดียังไง มันก็ยังคงถูกเก็บไว้แบบนั้น จริงไหม?

เช่นเดียวกัน ต่อให้คุณมีระบบ Automation และคอนเทนต์ที่ดีแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่สามารถดึงดูดให้คนเข้ามาหาคุณได้เลย ระบบอัตโนมัติของคุณก็คงจะไม่ได้ใช้งาน เพราะฉะนั้นถ้าคุณยังไม่สามารถหาวิธีที่ทำให้คุณได้มาซึ่ง Traffic อย่างอัตโนมัติ (และอย่างยั่งยืน) คุณยังไม่ควรที่จะมาทำ Marketing Automation 


4.เก็บข้อมูล Leads มาให้ได้
โดยปกติแล้วถ้าจะแบ่งข้อมูลของ Lead มันจะแบ่งออกมาได้เป็น 2 แบบคือ Non-PII กับ PII

-Non-PII คือชุดข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ เช่นข้อมูลชุดที่คุณดูได้จาก Google Analytics (มีคนเข้ามาเว็บไซต์คุณ 100 คน คุณจะรู้ได้ว่ามีผู้หญิง 60 คนและผู้ชาย 40 คน แต่คุณจะไม่สามารถรู้ได้ว่า A คือผู้ชาย)
-PII คือชุดข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ เช่นข้อมูลที่คุณได้จากการให้คนกรอกมาผ่านงานอีเวนต์

ดังนั้นการที่คุณจะทำ Marketing Automation ให้ได้ผลดีน้ัน คุณควรจะต้องสามารถเก็บข้อมูลที่เป็น PII มาให้ได้ก่อน

5.สื่อสารกับ Lead ที่ได้มาด้วยการตลาดแบบอัตโนมัติ
โดยปกติแล้วการสร้าง Workflow ใน Marketing Automation ให้ใช้งานได้จะประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ Trigger และ Action

-Trigger คือกิจกรรมอะไรบางอย่างที่ทำให้ Workflow นั้นๆ ทำงาน ยกตัวอย่างเช่นการที่คนกรอกฟอร์ม หรือการที่คนทำอะไรก็แล้วแต่ที่คุณต้องการให้ Lead ทำ
-Action คือกิจกรรมอะไรบางอย่างที่จะเกิดใน Workflow นั้นๆ ยกตัวอย่างเช่นการส่งอีเมล การส่ง SMS การส่ง LINE Message รวมไปถึงการอัปเดตฐานข้อมูลของ Lead ในระบบ

6.วัดผลและปรับปรุง
ซอฟต์แวร์ในการทำ Marketing Automation ที่ดีจะทำให้คุณสามารถเก็บการปฏิสัมพันธ์ของ Lead ได้ในหลายๆ Touchpoint ตั้งแต่วันที่เขาเข้ามารู้จักคุณจนกระทั่งวันที่เขากลายเป็นคนที่สนใจหรือลูกค้าของคุณ

ในช่วงแรกๆ คุณอาจจะต้องเฝ้าติดตามผลการทำ Marketing Automation บ่อยๆ อาจจะเริ่มจากการเข้ามาดูทุกวันและปรับเปลี่ยน Message
ที่ให้ผลลัพธ์แย่มากๆ ออกไป เมื่ออยู่ตัวแล้ว การมารีวิว Workflow ต่างๆ ที่เคยสร้างไว้สักเดือนละครั้งหรือไตรมาสละครั้งก็เป็นสิ่งที่เพียงพอแล้ว


หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นวางแผน เลือกเครื่องมือ และลงมือทำ Marketing Automation ให้กับธุรกิจของคุณได้

 


ที่มา : contentshifu

 

 

 

 

 

 

บทความ

Google Trends Data

Google Trends Data

Google Trends Data เปรียบเสมือนกระจกเงาที่สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของผู้คนทั่วโลกในหัวข้อต่างๆ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง จะเก็บข้อมูลการค้นหาบน Google Search ทั้งหมด แล้วนำมาวิเคราะห์และแสดงผลออกมาในรูปแบบกราฟ ... อ่านเพิ่มเติม

กลยุทธ์ SEO ในพื้นที่ (Local SEO)

กลยุทธ์ SEO ในพื้นที่ (Local SEO)

กลยุทธ์ SEO ในพื้นที่ (Local SEO) มุ่งเน้นให้ธุรกิจปรากฏในผลการค้นหาของ Google ปั้นธุรกิจให้โด่งดังในละแวกใกล้เคียง ... อ่านเพิ่มเติม

Commercial Investigation การเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้อ

Commercial Investigation การเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้อ

การเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้อ หัวใจสำคัญของ Commercial Investigation เป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าสูง ... อ่านเพิ่มเติม

ประโยชน์ของ User Intent

ประโยชน์ของ User Intent

ประโยชน์ของ User Intent เข้าใจผู้ใช้ เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจและช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าผลการค้นหาของ Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ... อ่านเพิ่มเติม

Web Hosting ปัจจัยที่ส่งผลต่อ Page Speed

Web Hosting ปัจจัยที่ส่งผลต่อ Page Speed

Web Hosting ปัจจัยที่ส่งผลต่อ Page Speed บริการที่ให้เช่าพื้นที่บนเซิร์ฟเวอร์ (Server) ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา เพื่อเก็บไฟล์ต่างๆ ของเว็บไซต์ ทำให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้ผ่านอินเทอร์เน็ต ... อ่านเพิ่มเติม

ข้อดีของการ Crawl เว็บไซต์

ข้อดีของการ Crawl เว็บไซต์

เป้าหมายหลักของการ Crawl เว็บไซต์ ก็คือการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เจอบนเว็บไซต์เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ วิดีโอ หรือข้อมูลอื่นๆ ที่มีอยู่ใน HTML code เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ... อ่านเพิ่มเติม

ค่า DR DA สำคัญกับคนทำ Backlink อย่างไร

ค่า DR DA สำคัญกับคนทำ Backlink อย่างไร

ค่า DR และ DA สำคัญกับคนทำ Blacklink เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญมากสำหรับคนที่ทำ Backlink เพราะค่าเหล่านี้บ่งบอกถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ... อ่านเพิ่มเติม

ข้อดีของ Google AdWords

ข้อดีของ Google AdWords

Google Ads หรือที่เคยรู้จักกันในชื่อ Google AdWords เป็นเครื่องมือโฆษณาออนไลน์ที่ทรงพลัง ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ... อ่านเพิ่มเติม

5 ปลั๊กอิน Wordpress ที่จำเป็นต้องติดตั้ง

5 ปลั๊กอิน Wordpress ที่จำเป็นต้องติดตั้ง

5 ปลั๊กอิน WordPress ที่จำเป็นต้องติดตั้ง เพื่อเว็บไซต์แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพและฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์ได้อย่างมากมาย ... อ่านเพิ่มเติม