23 ก.พ. 2566
922
10 สิ่งที่ต้องทำก่อนสร้างเว็บไซต์ธุรกิจ 2023
ไม่อาจปฏิเสธไปได้เลยว่าในยุคดิจิทัล การสร้างตัวตนบนเว็บสำหรับธุรกิจไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่นั้นคือสิ่งสำคัญ เว็บไซต์ก็เปรียบเสมือนตัวเราเองที่ต้องดูแลเอาใจใส่ และพัฒนาอยู่เรื่อยๆ ด้วยกลยุทธ์ต่างๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : SEO-Winner.com
ฉะนั้นหากใครที่กำลังคิดจะทำเว็บไซต์เพื่อธุรกิจ หรืออื่นๆ ต่อไปนี้จะเป็นขั้นตอนสำคัญ 10 ประการในการสร้างเว็บไซต์ ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมมาเป็นลูกค้าครับ!
1. ให้ความสำคัญกับภาพถ่าย : เราได้เน้นย้ำมาหลายบทความแล้วว่าภาพถ่ายนั้นคือสิ่งสำคัญ "ฉะนั้นอย่าละเลยคุณภาพของภาพถ่าย" เนื่องจากรูปภาพนั้นสามารถถ่ายทอดสิ่งต่างๆ ต่อ "ความรู้สึก" ของธุรกิจได้ (หมายถึงรูปภาพสามารถถ่ายทอดความรู้สึกได้มากกว่าตัวหนังสือ ฉะนั้นถ้ามีสองอย่างนี้อยู่ด้วยกันจะดีมากๆ)
ดังนั้นการรวบรวมรูปภาพที่จำเป็นทั้งหมด หรือวิดีโอ ก่อนที่จะสร้างเว็บไซต์นั้นเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เช่น รูปภาพผลิตภัณฑ์จริงทั้งหมด, การสร้างแผนผังรูปภาพที่จำเป็นทั้งหมด, และภาพพนักงาน อย่างไรก็ตามอย่าลืมคำนึงถึงคุณภาพของรูปภาพด้วยนะครับ เช่น มุมถ่ายที่จะสื่อออกมา หรือความละเอียดของภาพ เป็นต้น
2. โลโก้คือสิ่งสำคัญ : โลโก้ที่ดีนั้น จะมาในรูปแบบที่สอดคล้องกันกับธุรกิจ และช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ ฉะนั้นหากโลโก้ของคุณไม่เป็นที่นิยม ให้รีบแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนทันที ก่อนที่จะสายไปมากกว่านี้ เนื่องจากหากปล่อยไว้นานและมาเปลี่ยนอาจทำให้ลูกค้าเกิดความสับสน หากแบรนด์ของคุณยังไม่เป็นที่รู้จักหรือน่าเชื่อถือมากพอ
ดังนั้นควรให้ความสำคัญกับโลโก้ เช่น ออกแบบให้จดจำง่าย, สามารถสื่อความหมายได้ว่าเกี่ยวกับอะไร, ดูน่าเชื่อถือ และเป็นเอกลักษณ์ หรืออัตลักษณ์ สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ : การทำโลโก้
3. การเขียนเนื้อหาบนเว็บไซต์ : เนื้อหานั้นควรเริ่มตั้งแต่... การเขียนโครงสร้างก่อนทำเว็บไซต์-ไปจนถึงการเขียนเนื้อหาเพื่อกลยุทธ์ทางการตลาด และเพื่อให้เว็บไซต์เติบโต เช่น
- ควรเขียนเนื้อหาที่กระชับเข้าใจง่าย
- จัดวางลำดับคำสำคัญของหัวข้อ ไปจนถึงคำอธิบาย ให้เชื่อมโยงกัน
- ตัวหนังสือ (รูปแบบตัวหนังสือนั้น สามารถสื่อความหมายได้)
- เรียบเรียงข้อมูลที่จะนำเสนอให้ถูกต้อง และเชื่อมโยงกันทั้งเว็บ
อย่างไรก็ตาม หากงานเขียนไม่ใช่งานระดับมือาชีพ ให้พิจารณาจ้างนักเขียนมาเขียนมาเกลาให้ เนื่องจากหากเรียบเรียงคำไม่ดี เขียนไม่รู้เรื่อง หรือใช้ไวยากรณ์ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ปิดหนี หรืออาจมองว่าไม่น่าเชื่อถือก็เป็นได้ ดังนั้นสุดท้ายแล้วอาจทำให้คุณนั้นเสียลูกค้าไปได้นั่นเองครับ
4. การระบุคำหลัก SEO : หากต้องการให้กลุ่มเป้าหมายเจอเว็บไซต์เราผ่านเครื่องมือค้นหา คุณจำเป็นต้องเสียเวลาสักนิดเพื่อไปศึกษาหลักการเขียน SEO โดยการระบุคำหลัก SEO จะต้องระบุคำหลักเป้าหมาย 3-5 คำ (หากเยอะเกินไปอาจโดน Google Spamได้) ซึ่งคำหลักนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คิดว่ากลุ่มเป้าหมายจะค้นหา เช่น ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณ ดังนั้นควรให้มีคำหลักแทรกซึมอยู่ทั่วทั้งเว็บไซต์ (แต่อย่าใส่มั่วนะครับ ขอร้อง555555)
หรือหากคิดไม่ออก เราสามารถดูได้จากเทรนด์ หรือเครื่องมือคำหลักเพื่อเจาะลึกคำหลักยอดนิยมที่จะช่วยเพิ่มผลการค้นหาทั่วไปของเว็บไซต์ของคุณ (หมายถึงเว็บไซต์ของคุณจะปรากฏขึ้นบนผลการค้นหาของ Google จากคีย์เวิร์ดนั้นๆ) อย่างไรก็ตามผู้อ่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การเขียนบทความ SEO
5. ศึกษาการแข่งขัน : ก่อนที่เราจะทุ่มเทเวลา แรงกาย แรงใจ และต้นทุน ให้กับเว็บไซต์ของเรานั้น ให้เสียเวลาสักนิดในการศึกษาข้อมูลเว็บไซต์คู่แข่ง 3-5 แห่งที่ธุรกิจคล้ายคลึงกัน โดยการจดบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณชอบ และไม่ชอบในเว็บไซต์ของพวกเขาเหล่านั้น
จากนั้นนำมาวิเคราะห์ ปรับปรุง แก้ไข เพื่อให้เว็บไซต์ของเรานั้นมีจุดเด่น จุดแข็ง และน่าดึงดูดกว่า ฉะนั้นอย่าลืมพัฒนาแนวคิดตัวเองที่จะนำไปสู่เว็บไซต์ที่มีคุณภาพนะครับ อิอิ
6. รักษาความปลอดภัยของ URL : เนื่องจาก URL ทำหน้าที่เป็นที่อยู่ของเว็บไซต์บนเว็บ ฉะนั้น URL ต้องน่าจดจำ รวบรัด และสะกดง่าย ซึ่งหากชื่อบริษัทของคุณนั้นยาว ให้พิจารณาว่ามีวิธีใดที่ที่จะย่อชื่อให้สั้นลง โดยที่ยังคงเอกลักษณ์ไว้ได้ ดังนั้นเมื่อตัดสินใจเลือก URL ได้แล้ว ให้ซื้อโดเมนทันที หรือทันใด!
7. การวางแผนไซต์ : ตัวอย่างเช่น! หากคุณเปิดร้านขายข้าวหลามหนองมนอยู่ข้างทางร่วมกับร้านขายข้าวหลามอีกหลายร้านๆ แล้วรถที่ผ่านไปผ่านมากลับขับผ่านไปซื้อร้านถัดไป โดยที่ไม่จอดร้านคุณเลยคุณจะทำอย่างไร
เช่นเดียวกับการทำเว็บไซต์ โปรดจงจำไว้ให้ดีนะครับ ฉะนั้นหน้าแรกของเว็บไซต์นั้นสำคัญมากๆ คุณต้องทำให้น่าดึงดูด ดูมั่นคง เรียบง่าย น่าเชื่อถือ ที่จะนำไปสู่สายตาของเป้าหมาย! เช่น การใช้คำหลัก เนื้อหาที่สื่อ สีสัน รูปภาพ โปรพิเศษ และอื่นๆ อีกมากมาย
ในขณะที่คุณกำลังพิจารณาแผนผังเว็บไซต์อยู่นั้น อย่าลืมใส่กล่องขอคำติชมด้วยนะ จากผู้ใช้งานทั่วไปที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา หากเป็นไปได้ให้คุณติดตั้ง Google Analytics เพื่อรวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับวิธีที่ผู้ใช้ของคุณเดินทางผ่านไซต์ เพื่อที่เราจะสามารถปรับปรุงโฟลว์ในการอัปเดตได้!
8. รู้จักกับผู้ใช้ของเรา : หากเป็นไปได้ ให้เรียนรู้พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่นพวกเขาทำอาชีพอะไร, กลุ่มไหน, อายุเท่าไร, อะไรถึงดูดพวกเขา, ดูเว็บไซต์เราอย่างไร และช่องทางการจับจ่าย
อย่างไรก็ตามถ้าเป็นไปได้ให้ศึกษาภาพรวม และแยกเป็นช่วงอายุ จะดีมากๆ เนื่องจากจะทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น และอาจสร้างไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ ให้คุณนั้นสามารถนำข้อมูลไปปรับปรุงได้ดียิ่งได้ครับ อิอิ บอกแล้วน๊าาา
9. ระบุเป้าหมาย : เราต้องมองไปที่จุดเป้าหมายว่า เป้าหมายหลักสำหรับเว็บไซต์ของเรานั้นคืออะไร เราต้องการให้ผู้ใช้ทำอะไร เช่น การลงทะเบียน, การบริการ, ขายสินค้า, นัดหมาย และอื่นๆ อีกมากมายแล้วแค่คอนเซปต์ของเรา
ดังนั้นตั้งแต่การวางโครงสร้างเค้าโครง เนื้อหา ภาพถ่าย และองค์ประกอบทั้งหมด ควรมีการวางแผนเพื่อนำผู้ใช้ไปสู่เป้าหมายของเรา และช่วยให้พวกเขาได้รับข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นในการดำเนินการให้เสร็จสิ้นจนกว่าเราจะได้เป้าหมายที่ตั้งไว้นั่นเอง
พอนึกภาพออกไหมครับ? ตัวอย่างเช่น การวางกลยุทธ์ตั้งแต่หน้าแรก โดยนำพาผู้เยี่ยมชมไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น การปิดการขาย
10. ควรตั้งความคาดหวังให้เหมาะสม : หากเราวางแผนที่จะสร้างเว็บไซต์ที่มีคุณภาพให้กับธุรกิจของเรา ภายใน 1-3 วัน หรือภายใน 1 สัปดาห์ นั่นเป็นความคิดที่ผิด การทำเว็บไซต์นั่นเปรียบเสมือนการเปิดร้านค้า แต่เป็นการเปิดอยู่ในโลกออนไลน์ ที่สร้างขึ้นแล้วก็ต้องปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เหมาะสม และเท่าทันความต้องการของผู้บริโภค
ซึ่งจะต้องใช้เวลา และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะให้คอยแนะนำกลยุทธ์ต่างๆ ที่มีการอัปเดตทุกๆ ปี ดังนั้นการสร้างต้องเริ่มต้นด้วยรากฐานที่ดี ถูกหลัก SEO และ Google เพื่อที่จะคุ้มค่ากับสิ่งที่ลงทุนไป และจะได้ไม่ต้องมาปวดหัวทีหลัง กับเรื่องจุกจิกให้เสียเวลาครับ!! เตือนแล้วน๊าาาา
---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—
ข้อมูลจาก : web.uri.edu