19 ก.ย. 2565

876

7 วิธีเลือกคีย์เวิร์ดให้เหมาะสมกับ SEO by seo-winner.com

7 วิธีเลือกคีย์เวิร์ดให้เหมาะสมกับ SEO

แน่นอนครับกลยุทธ์การทำ SEO นั้นมีอยู่หลากหลายวิธีมากๆ โดยวิธีนั้นก็มีความแตกต่างกันออกไปซึ่งผู้อ่านสามารถดูวิธีการทำ SEO ในแบบต่างๆ ได้ที่ seo-winner แต่บทความนี้เราจะมาพูดถึง "7 วิธีเลือก keyword (คีย์เวิร์ด) ให้เหมาะสมกับ SEO" 

ดังนั้นหากคุณสามารถเลือกคีย์เวิร์ดได้อย่างฉลาดคุณเองจะสามารถดึงดูดปริมาณการค้นหาทั่วไปได้อย่างอีกมากมายเลยล่ะ แต่!..หากคุณเลือกคีย์เวิร์ดผิดเนื้อหาของคุณจะดึงดูดเฉพาะการเข้าชมที่มีมูลค่าต่ำหรือไม่มีเลย เพราะนักช้อปปิ้งมากกว่า 50% ใช้ Google เพื่อค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อนั่นเองครับ

ทั้งนี้เราจะอธิบายง่ายๆ เพื่อให้รู้ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง และอะไรบ้างที่ควรระวังเพื่อไม่ให้สับสนเกินไป ซึ่งขั้นตอนการทำและเครื่องมือการทำเราจะมาอธิบายในบทความหน้าครับ เพราะฉะนั้นเราไปดู 7 วิธีเลือก keyword (คีย์เวิร์ด) ให้เหมาะสมกับ SEO กันเลย….

1. การเชื่อมโยงกับหน้า Landing Page : เคล็ดลับนี้จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพหน้า Landing Page เพื่อเชื่อมโยงกับการเลือกคำหลักที่เราจะใช้ ดังนั้นให้คำนึงถึงหน้า Landing Page อยู่เสมอเมื่อจะใช้คำหลัก

เพราะไม่เพียงแค่ Google จะจัดอันดับหน้าของคุณให้สูงขึ้นเท่านั้น แต่หน้า Landing Page ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการขายหรือโอกาสในการขายนั่นเองครับ

2. คีย์เวิร์ดและสื่อที่ตรงกัน : แน่นอนครับการเพิ่มคำหลักในเนื้อหาต้องใช้ทักษะและความแนบเนียนเป็นอย่างมาก เคยสังเกตไหมครับว่าเว็บไซต์จำนวนมากดูเหมือนจะใส่คำหลักลงในเนื้อแค่เพียงน้อยนิดแต่หากดูดีๆ จะมีคำหลักอยู่เป็นจำนวนมากในเนื้อหา

แน่นอนครับเมื่อมีคำหลักจำนวนมากจะทำให้เนื้อหาไม่ได้คุณภาพก็เพราะว่าผู้คนหวังแค่จะติดอันดับเพียงอย่างเดียว ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า Google จะเน้นเรื่องคุณภาพของเนื้อหาเป็นหลัก หากเนื้อหาของคุณไม่ได้คุณภาพเช่น คีย์เวิร์ดคำซ้ำเยอะเกินไปหรือทำผิดกฎ Google จะสแปมและลบออกหรือจัดอันดับให้ต่ำลงนั่นเองครับ

ดังนั้นควรผสมคีย์เวิร์ดและคำหลักที่เกี่ยวข้องกันอย่างเหมาะสม มิฉะนั้นการสร้างเนื้อหาคอนเทนต์ของคุณจะสูญเปล่า อย่างไรก็ตามนอกจากนี้การจับคู่รูปภาพที่ใช่กับคำหลักที่ถูกต้องจะทำให้โอกาสในการเพิ่มอันดับเพิ่มขึ้นอย่างมากเลยล่ะครับ

3. การวิเคราะห์การแข่งขัน : แน่นอนครับการสร้างเนื้อหาไม่ใช่เว็บไซต์เราเว็บไซต์เดียวที่สร้าง แต่ยังมีอีกหลายเว็บไซต์ที่ทำธุรกิจเดียวกันกับเรา และสร้างเนื้อหาเช่นเดียวกันกับเรา ดังนั้นเราต้องวิเคราะห์การแข่งขัน ซึ่งเป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพเอามากๆ ในการค้นหาคำหลักที่ดีที่สุด คือการวิเคราะห์ผ่านเว็บไซต์คู่แข่ง!

ยกตัวอย่างเช่น การนำเครื่องมือ SEMRush เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์การเข้าชมเว็บไซต์อื่นๆ รวมถึงการแข่งขันของคุณ ฉะนั้นใช้มันเพื่อทำความเข้าใจตำแหน่งการจัดอันดับของเว็บไซต์อื่นๆ จากนั้นใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อช่วยกำหนดกลยุทธ์ของคุณต่อไปครับ

4. ปรับแต่งคำหลักของคุณด้วย LSI : LSI หรือ Latent Semantic Indexing ซึ่งเป็นวิธีการที่ซับซ้อนในการพูดคำที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่ามีหลายคนที่ยังไม่รู้ว่า Google นั้นใช้ LSI เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องผ่านบริบท หากจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ search engine (เสิร์ชเอ็นจิ้น) พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่คุณนั้นหมายถึงผ่านคำหลักของคุณนั่นเองครับ

ตัวอย่างเช่น เวลาที่เรานั้นพิมพ์คำค้นหาจะมีข้อความเพิ่มเติมขึ้นมาต่อท้ายคำที่เรานั้นพิมพ์อยู่โดยอัตโนมัติ หากพิมพ์ต่อไปคำเหล่านั้นจะหายไปหรือเปลี่ยนไป ก็เพราะว่า Google นั้นระบุความเป็นไปได้อื่นๆ เมื่อมีการพิมพ์คำค้นหาที่ยาวขึ้น

โดยคำค้นหาที่เกี่ยวข้องเหล่านี้จะแสดงที่ด้านล่างของหน้าจอด้วย ดังนั้นหากอยากติดอันดับก็ควรใช้ความหมายหรือคำที่เกี่ยวข้องเหล่านี้มาผสมผสานปรับแต่งกับคำหลักของคุณด้วยครับ เนื่องจาก Google เคยระบุไว้ว่าคำเหล่านี้มีความสำคัญ ฉะนั้นอย่าลืมให้ความสำคัญด้วยนะครับ

5. การใช้เครื่องมือเพื่อวางแผนคำหลัก : อีกเคล็ดลับที่ดีที่สุดในการเลือกคำหลักที่เหมาะสมคือการรู้ว่าจะเริ่มการวิจัยจากที่ใด ตัวอย่างเช่นเครื่องมือการวางแผนของ Google ซึ่งเป็นเครื่องมือฟรีเพื่อดูว่าคีย์เวิร์ดใดใช้งานได้และคีย์เวิร์ดใดใช้งานไม่ได้

โดยคุณสามารถเข้าถึงได้ภายในแพลตฟอร์ม Google Ads (แต่อย่างสร้างโฆษณา PPC) เพียงแค่สร้างบัญชีจากนั้นใช้ตัววางแผนเพื่อป้อนคำหลักนั่นเอง

หลังจากที่ป้อนคำหลักแล้ว ผลลัพธ์จะแสดงจำนวนผู้ที่ค้นหาคำหลัก หากเวลาผ่านไปบริการก็ยังแสดงคำที่เกี่ยวข้องกับจำนวนการรับส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องอยู่ครับ

จากนั้นเมื่อคุณรู้แล้ว คุณสามารถเพิ่มคำที่ใช้ได้ดีกับแผนการโฆษณาของคุณได้เลย โดยเครื่องมือของ Google มีประโยชน์ในการจัดกลุ่มคำหลักที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ในกลยุทธ์ SEO นั่นเองครับ

อย่างไรก็ตามหากต้องการทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากเครื่องมือ Google สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ "จัดเต็ม! 26 ส่วนขยาย Google Chrome ที่ดีที่สุดสำหรับ SEO" มีทั้งแบบฟรีและเสียเงินครับ

6. การทำความเข้าใจประเภทคำหลัก : สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของการเขียนคอนเทนต์ก็คือประเภทของคำหลัก แน่นอนครับเราต้องรู้จักประเภทของคำหลักที่แตกต่างกัน เช่น

  1. คีย์เวิร์ดหลัก
  2. คีย์เวิร์ดของโครงสร้าง
  3. คีย์เวิร์ดหางยาว

คีย์เวิร์ดหลักจะมีความยาวหนึ่งถึงสองคำและส่งผลต่อการค้นหาจำนวนมาก ในขณะเดียวกันคำหลักในส่วนของเนื้อหาจะยาวกว่าเล็กน้อย โดยปกติแล้วจะมีสองถึงสาม

ในส่วนของคำหลักหางยาวจะมีสี่คำขึ้นไป ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่ตรงประเด็นและแน่นอนครับคนส่วนใหญ่ได้เรียนรู้ที่จะใช้มันในขณะที่พวกเขากำลังค้นหา

อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่ยาก ที่จะสามารถจัดอันดับให้ได้ดีสำหรับคีย์เวิร์ดหลัก ดังนั้นการที่ให้ความสำคัญกับคีย์เวิร์ดหางยาวจะทำได้ง่ายกว่าและยังมีประสิทธิภาพมากกว่าด้วย!

7. วิเคราะห์ความตั้งใจในการค้นหา : ความตั้งใจในการค้นหาจะช่วยในการระบุคีย์เวิร์ด (ที่จะเลือก) โดยพิจารณาจากสาเหตุที่ผู้คนค้นหาซึ่งแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทได้แก่

  1. การนำทาง – ผู้ใช้ต้องการค้นหาหน้าเว็บอื่น
  2. ข้อมูล – ค้นคว้าหัวข้อ
  3. เชิงพาณิชย์ – ความปรารถนาที่จะซื้อ

หากคิดไม่ออกว่าจะใช้คำหลักอะไรให้เหมาะสมและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ให้คิดว่าตอนนี้เราเป็นลูกค้าที่จะค้นหาสิ่งนั้นๆ อยู่

ตัวอย่างเช่นหากค้นหาคำว่า "ซื้อเครื่องทำน้ำร้อนราคาถูก" จะมีความแตกต่างกันอย่างมากจากคำค้นหา "เครื่องทำน้ำร้อนเสีย" ซึ่งทั้ง 2 คำนี้คือวลีสำคัญทางการค้าและอีกอันคือข้อมูล

ตามหลักการแล้วถ้าจะให้ดีคุณควรนำเสนอเนื้อหาทั้งสามด้าน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้คำกระตุ้นการตัดสินใจ (CTA) เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งคำหลักของคุณจะกำหนดเป้าหมายหน้า Landing Page หรือหน้าเว็บต่างๆ สำหรับคำค้นหาเหล่านั้นโดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูงถึงสูงมากโดยเฉพาะเชิงพาณิชย์ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่ามีการจ้าง SEO Agenc เพื่อเขียนเนื้อหา 

ทั้งนี้หากท่านต้องการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเว็บไซต์ของท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ wynnsoft-solution ด้วยบริการ SEO ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกของ Google ง่ายต่อการค้นหา ทำให้คนเข้าถึงสินค้าและบริการมากขึ้นนั่นเองครับ

หวังว่าผู้อ่านจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ






 

 

 

 

 

--Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ

ข้อมูลจาก : ahrefs / actuatemedia

 

บทความ

ทำไมต้องทำ On-Page และ Off-Page เว็บไซต์

ทำไมต้องทำ On-Page และ Off-Page เว็บไซต์

ทำไมต้องทำ On-Page และ Off-Page เว็บไซต์ เป็นสองส่วนสำคัญที่ทำงานร่วมกัน เพื่อให้เว็บไซต์ โดดเด่นและติดอันดับสูงในผลการค้นหาของ Google ... อ่านเพิ่มเติม

Google Search Central มีช่องทางติดต่อใน LinkedIn แล้ว

Google Search Central มีช่องทางติดต่อใน LinkedIn แล้ว

Google Search Central มีช่องทางการติดต่ออย่างเป็นทางการบน LinkedIn แล้ว เปิดตัวเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2024 เป็นช่องทางในการติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก Search Engine ... อ่านเพิ่มเติม

Digital Content Writer สำคัญกับการทำ SEO อย่างไร?

Digital Content Writer สำคัญกับการทำ SEO อย่างไร?

Digital Content Writer นักเขียนเนื้อหาออนไลน์ มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อกลยุทธ์ SEO เปรียบเสมือนฟันเฟืองหลักที่ขับเคลื่อนให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าแรกของ Google ... อ่านเพิ่มเติม

อยากติด Top 10 ของ Google ต้องทำ SEO OFF PAGE

อยากติด Top 10 ของ Google ต้องทำ SEO OFF PAGE

อยากติด Top 10 ของ Google ต้องทำ SEO OFF PAGE เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ SEO ที่ดีจะช่วยให้เว็บไซต์มีอันดับที่ดีขึ้น Traffic มากขึ้น แบรนด์หรือธุรกิจเป็นที่รู้จักมากขึ้น ... อ่านเพิ่มเติม

Content กับ SEO

Content กับ SEO

Content กับ SEO เป็นคู่หูที่ขาดไม่ได้สำหรับความสำเร็จในการทำเว็บไซต์ การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและการใช้เทคนิค SEO อย่างเหมาะสมจะช่วยให้เว็บไซต์เติบโตและดึงดูดผู้ชมเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ... อ่านเพิ่มเติม

Keyword Research หัวใจของการทำ SEO

Keyword Research หัวใจของการทำ SEO

Keyword Research หัวใจของการทำ SEO เปรียบเสมือนการแข่งขันวิ่งมาราธอน เป้าหมายคือการนำเว็บไซต์ไปสู่หน้าแรกของผลการค้นหา เปรียบเสมือนแผนที่และเข็มทิศที่จะนำพาไปสู่ชัยชนะ ... อ่านเพิ่มเติม

การจัดหมวดหมู่เนื้อหา กับ SEO

การจัดหมวดหมู่เนื้อหา กับ SEO

การจัดหมวดหมู่เนื้อหา กับ SEO เป็นจัดกลุ่มเนื้อหาบนเว็บไซต์ตามหัวข้อที่เกี่ยวข้องช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจเนื้อหา เพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้ และช่วยให้สร้างโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีขึ้นด้วย ... อ่านเพิ่มเติม

 On-Page SEO คืออะไร

On-Page SEO คืออะไร

On-Page SEO หมายถึง การปรับแต่งเนื้อหาและองค์ประกอบต่างๆ บนหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้เหมาะสมต่อทั้งผู้ใช้งานและตัวอัลกอริทึมของ Search Engine ทำให้เข้าใจได้ง่ายว่า เว็บไซต์กำลังพูดถึงเรื่องอะไร เกี่ยวข้องกับอะไร ... อ่านเพิ่มเติม

Digital Entertainment กับการทำ  SEO

Digital Entertainment กับการทำ SEO

Digital Entertainment กับการทำ SEO มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจปัจจุบัน เพราะผู้คนใช้เวลากับสื่อดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ Digital Entertainment ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตผู้คนทั่วโลก และเติบโตอย่างรวดเร็ว ... อ่านเพิ่มเติม