ในปี 2017 นักการตลาด 66% ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงจัดอันดับ SEO (Search Engine Optimization) หรือ Organic Search และจากสถิติยังพบว่าเว็บไซต์ที่ค้นหาง่ายหรือติดหน้าหนึ่งบน Google มีอัตราคลิกชมเว็บไซต์สูงถึง 34% เลยทีเดียว

1. ส่องกลยุทธ์ SEO ของคู่แข่ง : แน่นอนว่าในปัจจุบันนี้ธุรกิจออนไลน์ต่างหันมาให้ความสำคัญกับ SEO อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันด้วยเทคนิคต่างๆ แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าห้ามคัดลอกคนอื่น นอกจากจะผิดกฎแล้วยังทำให้เรานั้นเดินตามรอยคนอื่น ซึ่งจะไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้นั่นเอง และสำหรับสิ่งที่ต้องเก็บข้อมูลจาก SEO คู่แข่งมีดังนี้

1. เก็บข้อมูลเทคนิคการทำ SEO บนเว็บไซต์ว่าเป็นอย่างไร เช่นคะแนนเว็บไซต์, ทำอะไรบ้าง, การใช้คีย์เวิร์ด และอื่นๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์คู่แข่ง
2. เก็บข้อมูล Traffic ของเว็บคู่แข่ง แล้วนำมาวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน และวิเคราะห์ประสิทธิภาพ SEO ของเราด้วย

2. สร้างเว็บบล็อก Content Blog แบบมีช่องคอมเมนต์ : การมีช่องทางให้ผู้คนได้คอมเมนต์เป็นอีกเทคนิคง่ายๆ ที่เราสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้การทำ SEO เราดียิ่งขึ้น แต่ควรระวังผู้ไม่หวังดีมารีวิวแบรนด์เชิงลบ หรือมาก่อกวนให้ธุรกิจคุณเสียหายได้!

3. ใช้ Keyword แบบ Longtail ร่วมด้วย : ตัวอย่างเช่นหากเราทำธุรกิจออนไลน์ที่ต้องโปรโมท "ร้านอาหาร" เพื่อให้ผู้คนคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์เรา ดังนั้นนอกเหนือจากคำว่า "ร้านอาหาร" ให้เสริมด้วย Longtail Keywords เข้าไปด้วยอย่างคำว่า ร้านอาหารอร่อย, ร้านอาหารยอดฮิต 2566, ร้านอาหารที่ไหนดีใกล้ฉัน หรือร้านอาหารสะอาดคุ้มค่า เป็นต้น ที่สำคัญควรใช้ให้เข้ากับบริบทในช่วงเวลานั้นๆ เริ่มจากศึกษาพฤติกรรมของผู้คนที่มีต่อร้านอาหาร เป็นต้น

4. ภาพประกอบก็ช่วยดัน SEO ได้ : นอกเหนือจากการเน้นเนื้อหาที่มีคุณภาพแล้ว ภาพประกอบก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะผู้คนจะดูที่ภาพก่อนเป็นหลัก ดังนั้นหากภาพดูมีความน่าสนใจ สวย มองแล้วสามารถเข้าใจในภาพรวมของเรื่องนั้นๆ ได้เลย จะเป็นตัวช่วยในการดัน SEO ได้ดีเลยล่ะ แต่อย่างไรก็ตามแนะนำว่าควรทำไฟล์ภาพไซส์ที่ไม่ใหญ่เกิน 100KB จะทำให้โหลดง่าย โหลดไว ไม่เปลืองเน็ต นั่นเองครับ 

5. รู้จักการใช้เครื่องมือฟรีที่ช่วยทำ SEO : หากเรารู้จักเครื่องมือในการช่วยทำ SEO มากเท่าไหร่จะทำให้การทำ SEO ของเรานั้นง่ายมากขึ้นเท่านั้น อีกทั้งยังช่วยประหยัดงบประมาณได้อย่างมากเลยล่ะ ดังนั้นเครื่องมือที่ต้องรู้จักและนำมาทดลองใช้งาน มีดังนี้

1. เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์เบื้องต้น
2. เครื่องมือช่วยหาไอเดียทำคอนเทนต์ SEO
3. เครื่องมือหาคีย์เวิร์ดฟรี

6. ลองทำ Content หรือ Podcast ที่มีประโยชน์กับสื่อมวลชน : นอกจากการทำ SEO เพื่อส่งเสริมการขายเพียงอย่างเดียวแล้ว การผลิตข้อมูล Content หรือ Podcast ของวงการธุรกิจที่มีประโยชน์กับข่าวสารที่นักข่าว บล็อกเกอร์ สามารถหยิบยกใช้ทำประกอบบทความได้ทันที ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคนิคทำ SEO ฟรีๆ ประหยัดงบ   

7. มีพาร์ตเนอร์แลกบทความ Backlink : การทำ SEO ที่ไม่ให้เปลืองงบและได้ประสิทธิภาพสำหรับข้อนี้คือ การสร้าง Backlink หากทำได้เยอะยิ่งดี ยิ่งลิงก์ของเราถูกกล่าวถึงมากเท่าไหร่ Google ก็จะมองว่าลิงก์มีคุณภาพและทำให้ติดอันดับ SEO สำหรับธุรกิจสตาร์ตอัปที่มีงบน้อย ที่ไม่สามารถซื้อลิงก์จากเว็บใหญ่ๆ ได้

ดังนั้นเทคนิคการแลกบทความกับพาร์ตเนอร์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเราก็น่าทำเพราะ Win Win กันทั้งสองฝ่าย เช่น

1. เราทำธุรกิจขายรถมือสองก็แลกคอนเทนต์กับธุรกิจประกันออนไลน์
2. หรือเราทำธุรกิจโรงแรมก็แลกคอนเทนต์กับธุรกิจท่องเที่ยว ฯลฯ

8.  ให้ผู้ใช้งานจริง หรือลูกค้าของคุณ ทำคอนเทนต์ User-Generated Content (UGC) ให้ธุรกิจเรา : ธุรกิจสตาร์ทอัพนั้นเกิดมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับผู้คน ดังนั้นการแนะนำเทคนิค "การให้ผู้ใช้งานจริงหรือลูกค้ามารีวิว" แบบ User-Generated Content (UGC)

นับว่าเป็นเทคนิคที่เหมาะกับธุรกิจแบบ B2C ที่มีสินค้าและบริการที่สามารถรีวิวได้จริง เช่น การซื้อเป็นอย่างไร เล่าประสบการณ์การใช้งาน หรือจะเล่าฟีเจอร์เด่นของธุรกิจเราก็ได้!

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

--Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—

ข้อมูลจาก : neilpatel.com, growthengblog.com, officialgaetano.com, seranking.com, entrepreneur.com, thegrowthmaster.com