11 ก.ค. 2565

875

Think with Google  ง่ายต่อการรับมือ SEO อย่างไร by seo-winner.com

Think with Google ง่ายต่อการรับมือ SEO อย่างไร

บทความนี้เราจะพาผู้อ่านย้อนมาดู Think with Google ซึ่งเป็นโครงการของ Google ที่ได้รวบรวมเครื่องมือสำหรับนักการตลาดที่มาพร้อมกับชุดข้อมูลตัวเลขและบทความต่างๆ ซึ่งทำให้เจ้าของเว็บไซต์ง่ายต่อการนำมาปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้น

โดย Think with Google เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้เจ้าของเว็บไซต์ได้รู้จักและนำไปปรับใช้ ซึ่งกลยุทธ์ SEO นั้นมีหลากหลายวิธี แต่บทความนี้เราจะพาท่านมารู้จักกับเครื่องมือที่อยู่บน Think with Google กันครับ

Think with Google ส่วนนี้จะเป็นเครื่องมือที่สร้างมาเพื่อ support product ในส่วนต่างๆ ของ Google อีกทีครับ บอกได้เลยว่าเหมาะสำหรับนักทำคอนเทนต์และนักการตลาดที่กำลังมองหาแนวโน้มและทิศทางที่ชัดเจนหรือต้องการจะ benchmark ของตัวเองอยู่ครับ

นักการตลาดมือใหม่และเจ้าของเว็บไซต์มือใหม่ควรที่จะศึกษาไว้ เพราะมีทั้ง 

  1. การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติต่างๆ
  2. การสรุปข้อมูลต่างๆ
  3. การบอกทิศทางและแนวโน้มความเป็นไปได้ในอนาคต

โดยเครื่องมือสำหรับ SEO นั้นมีหลากหลายมากๆ ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการศึกษาพอสมควร ยิ่งศึกษามากคุณก็มีโอกาสในการนำกลยุทธ์เหล่านั้นมาใช้ในการแข่งขันเพื่อเอาชนะคู่แข่งได้มากเท่านั้น

เครื่องมือเบื้องต้นที่เราได้นำมาฝากกันนี้ เป็นแค่เครื่องมือเบื้องต้นเท่านั้น ยังมีอีกหลากหลายเครื่องมือที่เราจะอัปเดตให้ผู้อ่านได้รู้จักและได้ศึกษาเรื่อยๆ เครื่องมือเบื้องต้นที่ว่านี้มีอะไรกันบ้างเราไปดูกันเลยครับ

1. Google trends

Google trends เป็นเครื่องมือที่สำคัญมากๆ ที่ควรศึกษาไว้ เพราะจะช่วยลดการคาดเดาหรือการใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายจนทำให้มือใหม่เกิดการสับสน ซึ่งเครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือที่ช่วยบอกข้อมูล พฤติกรรมการค้นหาผ่าน Search Engine (เครื่องมือการค้นหา) เช่น

  1. แนวโน้มของกลุ่มเป้าหมายที่อาจจะเป็นลูกค้าของเราได้ในอนาคต
  2. ข้อมูลต่างๆ ของคู่แข่ง 
  3. ข้อมูลต่างๆ ของลูกค้า

เมื่อเรารู้แนวโน้มตามข้อมูลดังกล่าวแล้ว ก็นำมาปรับใช้ได้เลย โดยเฉพาะเรื่อง trends (เทรนด์) นักทำคอนเทนต์ก็ไม่ควรพลาดที่จะทำเพราะเครื่องมือนี้จะคอยบอกเทรนด์ยอดนิยมด้วย เช่น ให้ดูว่าช่วงนี้ผู้คนกำลังสนใจเรื่องอะไร และค้นหาสิ่งใดอยู่ 

ตัวอย่างเช่น การนำคอนเทนต์ที่เราสนใจหรือกำลังที่จะทำอยู่มาเปรียบเทียบกัน คือ ตอนนี้เรากำลังจะทำคอนเทนต์เรื่อง SEO คืออะไร (เราก็ทำการไปหาข้อมูลจากเครื่องมือว่า ผู้คนค้นหาเรื่องนี้ด้วย keyword อะไรมากที่สุด) แล้วนำมาปรับใช้ เช่น SEO เป็นอย่างไร หรือ What is SEO? เป็นต้น (เราก็จะได้ keyword ที่ใกล้เคียงกับผู้คนที่ค้นหามากที่สุดครับ)

ที่สำคัญคือมีหน้า Hot trends มี dashboard (แผงควบคุม) ที่คอยชี้แจงเหตุการณ์หรือเทรนด์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นแบบ real-time (เรียลไทม์) และยังสามารถตั้งเป็น screen saver ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามสามารถศึกษาเรื่องเทรนด์ต่างๆ ต่อได้ที่ SEO trends ในปี 2022 ครับ

2. Find My Audience
Find My Audience เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญมากๆ ที่ทำให้คอนเทนต์ของคุณนั้นตรงตามกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เพราะ Find My Audience จะช่วยให้คุณค้นหาหรือเข้าถึงกลุ่มผู้ชมบน YouTube ที่คุณสนใจได้อย่างดีเลยล่ะ 

ตัวอย่างเช่น เริ่มต้นด้วยการเลือกกลุ่มหรือหมวดหมู่ที่ต้องการดังนี้

  1. หากคุณเป็นผู้ขายสินค้า ให้เลือก In-market audiences
  2. หากคุณเป็นผู้ทำคอนเทนต์ ให้เลือก Affnity audiences

เมื่อคุณนั้นทำการเลือกหมวดหมู่ดังกล่าวตามที่ต้องการแล้ว (ระบบจะทำการแตกเป็นหมวดย่อยมาให้) ถ้าเกิดคุณอยากรู้เรื่องอะไรก็กดเข้าไปดูในหัวข้อนั้นๆ 

หลังจากนั้นระบบก็จะบอกรายละเอียดต่างๆ ว่ากลุ่มที่เราต้องการจะเข้าถึงนั้นเป็นอย่างไร เช่น

  1. พฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านั้น
  2. กลุ่มคนเหล่านั้นเป็นอย่างไร
  3. กลุ่มคนเหล่านั้นมีแนวโน้มอย่างไร

เมื่อเรารู้รายละเอียดพฤติกรรมหรือแนวโน้มของกลุ่มคนเหล่านั้นแล้วเราก็จะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับใช้ในการทำคอนเทนต์ได้ ซึ่งจะทำให้คอนเทนต์ของเรานั้นมีประสิทธิภาพและตรงตามกลุ่มเป้าหมายมากที่สุดครับ

3. Test My Site

Test My Site เครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างมากที่จะนำไปสู่การปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้ดีกว่าคู่แข่ง คือ Test My Site มีหน้าที่ช่วยในการตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของเรานั้น มีการดาวน์โหลดอยู่ในระดับไหน ช้าหรือเร็วกว่าคู่แข่ง

ตัวอย่างเช่น หากเราเข้าผ่านโทรศัพท์มือถือ 

  1. ใส่ URL 
  2. เลือกประเทศและระบบอินเทอร์เน็ต

เมื่อเราทำตามตัวอย่างข้างต้นแล้วระบบจะทดสอบ (โดยการดาวน์โหลดจนครบทั้งหมดของหน้าเว็บไซต์) หลังจากนั้นโปรแกรมจะทำการวิเคราะห์เว็บไซต์ 

เมื่อโปรแกรมทำการวิเคราะห์จนเสร็จสิ้นเราก็จะเห็น ระบบแสดงคะแนนของเว็บไซต์ของเรา ที่ Google ได้ให้คะแนนดังกล่าวไว้ และที่สำคัญโปรแกรมจะบอกเราด้วยว่า เวลาในการดาวน์โหลดนั้นควรจะเป็นเท่าไหร่

และโปรแกรมจะแสดงผลรายละเอียดให้เราได้ทราบอีกด้วย เช่น 

  1. แนะนำวิธีให้เว็บไซต์เราดาวน์โหลดได้เร็วขึ้น
  2. เปรียบเทียบความเร็วกับคู่แข่งฯ
  3. เทียบความเร็วเดือนต่อเดือนของเว็บไซต์เรา
  4. เช็กความเร็วในการดาวน์โหลดสำหรับมือถือ

เห็นไหมครับว่าข้อดีของ Test My Site นั้นสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปเปรียบเทียบกับเว็บไซต์ของคู่แข่ง และทำการปรับปรุงพัฒนาให้ดีกว่าเดิม หรือดีกว่าคู่แข่งนั่นเอง 

และที่สำคัญความเร็วของการดาวน์โหลดเว็บไซต์ของคุณยังมีผลต่อการจัดอันดับ Google Search อีกด้วยนะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมศึกษากันนะครับ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากท่านใดที่กำลังจะทำเว็บไซต์เพื่อธุรกิจหรือจุดประสงค์อื่นๆ ก็ไม่ควรพลาดที่จะใส่กลยุทธ์ SEO ให้กับเว็บไซต์ของท่านด้วย

เห็นไหมครับว่าเครื่องมือเบื้องต้นเหล่านี้สามารถช่วยให้เว็บไซต์ของท่านนั้นเอาชนะเว็บไซต์คู่แข่งได้อย่างมากเลยล่ะ ถ้าหากอยากศึกษากลยุทธ์ SEO สามารถศึกษาต่อได้ที่ SEO-Winner.com และถ้าคุณอยากใส่กลยุทธ์ให้เว็บไซต์ของคุณได้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้นสามารถปรึกษาและสอบถามได้ที่ wynnsoft-solution.com ทั้งนี้ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ





 

 

 

 

 

 

-Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ

ข้อมูลจาก : contentmaster.co / rainmaker.in.th / digitalmarketingwow.com

 

บทความ

ACE Indicator System เชื่อมโยงการตลาดกับ SEO

ACE Indicator System เชื่อมโยงการตลาดกับ SEO

ACE Indicator System และการใช้ SEO เข้าใจความเชื่อมโยงเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น การนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกันจะช่วยให้สามารถปรับปรุงอันดับเว็บไซต์ในผลการค้นหาของ Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ... อ่านเพิ่มเติม

PageSpeed Insights กับ GTmetrix

PageSpeed Insights กับ GTmetrix

PageSpeed Insights กับ GTmetrix เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในการวัดประสิทธิภาพและความเร็วของเว็บไซต์ ช่วยให้ผู้พัฒนาเว็บไซต์สามารถระบุปัญหาที่ทำให้เว็บไซต์โหลดช้า ... อ่านเพิ่มเติม

Total Blocking Time คืออะไร

Total Blocking Time คืออะไร

Total Blocking Time (TBT) เป็นหนึ่งในเมตริกที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพของเว็บไซต์ โดยวัดระยะเวลาที่เว็บไซต์ถูกบล็อกจากการตอบสนองต่อผู้ใช้ เนื่องจาก JavaScript ที่ใช้เวลานานในการทำงาน ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไมการทำเว็บไซต์ต้องรู้จัก Core Web Vitals

ทำไมการทำเว็บไซต์ต้องรู้จัก Core Web Vitals

ทำไมการทำเว็บไซต์ต้องรู้จัก Core Web Vitals ชุดของเมตริกที่ Google ใช้ในการวัดประสบการณ์ของผู้ใช้ (User Experience UX) บนเว็บไซต์ ซึ่งเป็นปัจจัยการจัดอันดับของ Google ... อ่านเพิ่มเติม

Topical Authority  กับการจัดอันดับเว็บไซต์

Topical Authority กับการจัดอันดับเว็บไซต์

Topical Authority กับการจัดอันดับเว็บไซต์ เมื่อ Google มองว่าเว็บไซต์มีความรู้และความเชี่ยวชาญในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งเป็นพิเศษ เว็บไซต์นั้นก็จะได้รับการจัดอันดับที่สูงขึ้นในผลการค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

ปลั๊กอิน Elementor สำหรับคนทำ Wordpress

ปลั๊กอิน Elementor สำหรับคนทำ Wordpress

ปลั๊กอิน Elementor สำหรับคนทำ Wordpress ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ใช้งานง่ายและฟีเจอร์ที่หลากหลาย ทำให้สามารถสร้างหน้าเว็บไซต์ที่สวยงามและเป็นมืออาชีพได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเลย ... อ่านเพิ่มเติม

Content Uniqueness คอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Content Uniqueness คอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Content Uniqueness ความเป็นเอกลักษณ์ของคอนเทนต์ ความโดดเด่นและแตกต่างของเนื้อหาที่สามารถสร้างความสนใจและดึงดูดผู้ชมได้เป็นอย่างดี ... อ่านเพิ่มเติม

Key Takeaway ทำ SEO สำหรับคนงบน้อย

Key Takeaway ทำ SEO สำหรับคนงบน้อย

Key Takeaway ทำ SEO สำหรับคนงบน้อย เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการทำ SEO โดยช่วยให้สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า, เพิ่มการเข้าชม, และปรับปรุงอันดับเว็บไซต์ในผลการค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

เทคนิค SXO (Search Experience Optimization)

เทคนิค SXO (Search Experience Optimization)

เทคนิค SXO (Search Experience Optimization) เป็นการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้และเครื่องมือค้นหา ทำให้เว็บไซต์มีโอกาสปรากฏในอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม