11 ก.ค. 2565
953
Think with Google ง่ายต่อการรับมือ SEO อย่างไร
บทความนี้เราจะพาผู้อ่านย้อนมาดู Think with Google ซึ่งเป็นโครงการของ Google ที่ได้รวบรวมเครื่องมือสำหรับนักการตลาดที่มาพร้อมกับชุดข้อมูลตัวเลขและบทความต่างๆ ซึ่งทำให้เจ้าของเว็บไซต์ง่ายต่อการนำมาปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้น
โดย Think with Google เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้เจ้าของเว็บไซต์ได้รู้จักและนำไปปรับใช้ ซึ่งกลยุทธ์ SEO นั้นมีหลากหลายวิธี แต่บทความนี้เราจะพาท่านมารู้จักกับเครื่องมือที่อยู่บน Think with Google กันครับ
Think with Google ส่วนนี้จะเป็นเครื่องมือที่สร้างมาเพื่อ support product ในส่วนต่างๆ ของ Google อีกทีครับ บอกได้เลยว่าเหมาะสำหรับนักทำคอนเทนต์และนักการตลาดที่กำลังมองหาแนวโน้มและทิศทางที่ชัดเจนหรือต้องการจะ benchmark ของตัวเองอยู่ครับ
นักการตลาดมือใหม่และเจ้าของเว็บไซต์มือใหม่ควรที่จะศึกษาไว้ เพราะมีทั้ง
- การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติต่างๆ
- การสรุปข้อมูลต่างๆ
- การบอกทิศทางและแนวโน้มความเป็นไปได้ในอนาคต
โดยเครื่องมือสำหรับ SEO นั้นมีหลากหลายมากๆ ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการศึกษาพอสมควร ยิ่งศึกษามากคุณก็มีโอกาสในการนำกลยุทธ์เหล่านั้นมาใช้ในการแข่งขันเพื่อเอาชนะคู่แข่งได้มากเท่านั้น
เครื่องมือเบื้องต้นที่เราได้นำมาฝากกันนี้ เป็นแค่เครื่องมือเบื้องต้นเท่านั้น ยังมีอีกหลากหลายเครื่องมือที่เราจะอัปเดตให้ผู้อ่านได้รู้จักและได้ศึกษาเรื่อยๆ เครื่องมือเบื้องต้นที่ว่านี้มีอะไรกันบ้างเราไปดูกันเลยครับ
1. Google trends
Google trends เป็นเครื่องมือที่สำคัญมากๆ ที่ควรศึกษาไว้ เพราะจะช่วยลดการคาดเดาหรือการใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายจนทำให้มือใหม่เกิดการสับสน ซึ่งเครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือที่ช่วยบอกข้อมูล พฤติกรรมการค้นหาผ่าน Search Engine (เครื่องมือการค้นหา) เช่น
- แนวโน้มของกลุ่มเป้าหมายที่อาจจะเป็นลูกค้าของเราได้ในอนาคต
- ข้อมูลต่างๆ ของคู่แข่ง
- ข้อมูลต่างๆ ของลูกค้า
เมื่อเรารู้แนวโน้มตามข้อมูลดังกล่าวแล้ว ก็นำมาปรับใช้ได้เลย โดยเฉพาะเรื่อง trends (เทรนด์) นักทำคอนเทนต์ก็ไม่ควรพลาดที่จะทำเพราะเครื่องมือนี้จะคอยบอกเทรนด์ยอดนิยมด้วย เช่น ให้ดูว่าช่วงนี้ผู้คนกำลังสนใจเรื่องอะไร และค้นหาสิ่งใดอยู่
ตัวอย่างเช่น การนำคอนเทนต์ที่เราสนใจหรือกำลังที่จะทำอยู่มาเปรียบเทียบกัน คือ ตอนนี้เรากำลังจะทำคอนเทนต์เรื่อง SEO คืออะไร (เราก็ทำการไปหาข้อมูลจากเครื่องมือว่า ผู้คนค้นหาเรื่องนี้ด้วย keyword อะไรมากที่สุด) แล้วนำมาปรับใช้ เช่น SEO เป็นอย่างไร หรือ What is SEO? เป็นต้น (เราก็จะได้ keyword ที่ใกล้เคียงกับผู้คนที่ค้นหามากที่สุดครับ)
ที่สำคัญคือมีหน้า Hot trends มี dashboard (แผงควบคุม) ที่คอยชี้แจงเหตุการณ์หรือเทรนด์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นแบบ real-time (เรียลไทม์) และยังสามารถตั้งเป็น screen saver ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามสามารถศึกษาเรื่องเทรนด์ต่างๆ ต่อได้ที่ SEO trends ในปี 2022 ครับ
2. Find My Audience
Find My Audience เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญมากๆ ที่ทำให้คอนเทนต์ของคุณนั้นตรงตามกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เพราะ Find My Audience จะช่วยให้คุณค้นหาหรือเข้าถึงกลุ่มผู้ชมบน YouTube ที่คุณสนใจได้อย่างดีเลยล่ะ
ตัวอย่างเช่น เริ่มต้นด้วยการเลือกกลุ่มหรือหมวดหมู่ที่ต้องการดังนี้
- หากคุณเป็นผู้ขายสินค้า ให้เลือก In-market audiences
- หากคุณเป็นผู้ทำคอนเทนต์ ให้เลือก Affnity audiences
เมื่อคุณนั้นทำการเลือกหมวดหมู่ดังกล่าวตามที่ต้องการแล้ว (ระบบจะทำการแตกเป็นหมวดย่อยมาให้) ถ้าเกิดคุณอยากรู้เรื่องอะไรก็กดเข้าไปดูในหัวข้อนั้นๆ
หลังจากนั้นระบบก็จะบอกรายละเอียดต่างๆ ว่ากลุ่มที่เราต้องการจะเข้าถึงนั้นเป็นอย่างไร เช่น
- พฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านั้น
- กลุ่มคนเหล่านั้นเป็นอย่างไร
- กลุ่มคนเหล่านั้นมีแนวโน้มอย่างไร
เมื่อเรารู้รายละเอียดพฤติกรรมหรือแนวโน้มของกลุ่มคนเหล่านั้นแล้วเราก็จะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับใช้ในการทำคอนเทนต์ได้ ซึ่งจะทำให้คอนเทนต์ของเรานั้นมีประสิทธิภาพและตรงตามกลุ่มเป้าหมายมากที่สุดครับ
3. Test My Site
Test My Site เครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างมากที่จะนำไปสู่การปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้ดีกว่าคู่แข่ง คือ Test My Site มีหน้าที่ช่วยในการตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของเรานั้น มีการดาวน์โหลดอยู่ในระดับไหน ช้าหรือเร็วกว่าคู่แข่ง
ตัวอย่างเช่น หากเราเข้าผ่านโทรศัพท์มือถือ
- ใส่ URL
- เลือกประเทศและระบบอินเทอร์เน็ต
เมื่อเราทำตามตัวอย่างข้างต้นแล้วระบบจะทดสอบ (โดยการดาวน์โหลดจนครบทั้งหมดของหน้าเว็บไซต์) หลังจากนั้นโปรแกรมจะทำการวิเคราะห์เว็บไซต์
เมื่อโปรแกรมทำการวิเคราะห์จนเสร็จสิ้นเราก็จะเห็น ระบบแสดงคะแนนของเว็บไซต์ของเรา ที่ Google ได้ให้คะแนนดังกล่าวไว้ และที่สำคัญโปรแกรมจะบอกเราด้วยว่า เวลาในการดาวน์โหลดนั้นควรจะเป็นเท่าไหร่
และโปรแกรมจะแสดงผลรายละเอียดให้เราได้ทราบอีกด้วย เช่น
- แนะนำวิธีให้เว็บไซต์เราดาวน์โหลดได้เร็วขึ้น
- เปรียบเทียบความเร็วกับคู่แข่งฯ
- เทียบความเร็วเดือนต่อเดือนของเว็บไซต์เรา
- เช็กความเร็วในการดาวน์โหลดสำหรับมือถือ
เห็นไหมครับว่าข้อดีของ Test My Site นั้นสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปเปรียบเทียบกับเว็บไซต์ของคู่แข่ง และทำการปรับปรุงพัฒนาให้ดีกว่าเดิม หรือดีกว่าคู่แข่งนั่นเอง
และที่สำคัญความเร็วของการดาวน์โหลดเว็บไซต์ของคุณยังมีผลต่อการจัดอันดับ Google Search อีกด้วยนะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมศึกษากันนะครับ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากท่านใดที่กำลังจะทำเว็บไซต์เพื่อธุรกิจหรือจุดประสงค์อื่นๆ ก็ไม่ควรพลาดที่จะใส่กลยุทธ์ SEO ให้กับเว็บไซต์ของท่านด้วย
เห็นไหมครับว่าเครื่องมือเบื้องต้นเหล่านี้สามารถช่วยให้เว็บไซต์ของท่านนั้นเอาชนะเว็บไซต์คู่แข่งได้อย่างมากเลยล่ะ ถ้าหากอยากศึกษากลยุทธ์ SEO สามารถศึกษาต่อได้ที่ SEO-Winner.com และถ้าคุณอยากใส่กลยุทธ์ให้เว็บไซต์ของคุณได้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้นสามารถปรึกษาและสอบถามได้ที่ wynnsoft-solution.com ทั้งนี้ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
-Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—
ข้อมูลจาก : contentmaster.co / rainmaker.in.th / digitalmarketingwow.com