Gemini เป็นตระกูลโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) ที่พัฒนาโดย Google AI สืบทอดต่อจาก LaMDA และ PaLM 2 Gemini ประกอบด้วย 3 รุ่นหลัก 
Gemini Ultra: รุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสำหรับงานที่ต้องการ การประมวลผลสูง เช่น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การสร้างเนื้อหาสร้างสรรค์ และการแปลภาษา
Gemini Pro: รุ่นที่ปรับสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความคล่องตัว เหมาะสำหรับงานทั่วไป เช่น การตอบคำถาม การสรุปข้อความ และการเขียนเนื้อหา
Gemini Nano: รุ่นที่มีขนาดเล็กและประหยัดทรัพยากร เหมาะสำหรับงานบนอุปกรณ์พกพา เช่น การแชทบอท การจดจำเสียง และการแปลภาษาแบบเรียลไทม์

จุดเด่นของ Gemini:

เข้าใจและสร้างข้อความ: Gemini สามารถเข้าใจความหมายของข้อความในภาษาต่างๆ และสามารถสร้างข้อความใหม่ได้อย่างถูกต้องตามหลักไวยากรณ์และมีความหมาย
แปลภาษา: Gemini สามารถแปลข้อความจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่งได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ รองรับภาษาต่างๆ มากมายทั่วโลก
เขียนเนื้อหาสร้างสรรค์: Gemini สามารถเขียนเนื้อหาสร้างสรรค์ประเภทต่างๆ เช่น บทกวี โค้ด สคริปต์ อีเมล จดหมาย ฯลฯ
ตอบคำถาม ด้วยวิธีที่ให้ข้อมูล: Gemini สามารถตอบคำถามได้อย่างครอบคลุมและให้ข้อมูล แม้ว่าจะเป็นคำถามปลายเปิด ท้าทาย หรือแปลกประหลาดก็ตาม
ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน: Gemini สามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งช่วยให้ประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
เรียนรู้และปรับตัว: Gemini สามารถเรียนรู้และปรับตัวได้ด้วยตัวเอง ซึ่งหมายความว่าโมเดลจะทำงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป

Gemini ถูกนำไปใช้ที่ไหนบ้าง:

Gemini ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของ Google ตัวอย่างเช่น:
-การค้นหา: ช่วยให้ Google ปรับปรุงความแม่นยำของผลการค้นหา 
-การแปลภาษา: ช่วยให้ Google แปลภาษาได้อย่างถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น
-Google Assistant:  ช่วยให้ Google Assistant ตอบคำถามผู้ใช้ได้อย่างครอบคลุมและให้ข้อมูล
-YouTube: ช่วยให้ YouTube แนะนำวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้
-Google Maps: ช่วยให้ Google Maps แสดงเส้นทางที่ถูกต้องและแม่นยำ
Gemini โมเดลนี้สามารถทำงานได้หลากหลายประเภท และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

Gemini ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

Gemini เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) พัฒนาโดย Google AI สืบทอดต่อจาก LaMDA และ PaLM 2 ใช้งานได้หลากหลาย ตัวอย่างการใช้งานที่พบบ่อย ดังนี้:

1. สรุปข้อมูล: สรุปข้อความยาวๆ ให้กระชับ เข้าใจง่ายดึงประเด็นสำคัญใจความหลักของเนื้อหาสรุปเนื้อหาจากแหล่งข้อมูลหลายแหล่ง
2. ตอบคำถาม:ตอบคำถามอย่างครอบคลุมและให้ข้อมูล แม้จะเป็นคำถามปลายเปิด ท้าทาย หรือแปลกประหลาดก็ตามค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคำถามของคุณ อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล 
3.  เขียนเนื้อหา:เขียนเนื้อหาสร้างสรรค์ประเภทต่างๆ เช่น บทกวี โค้ด สคริปต์ ชิ้นดนตรี อีเมล จดหมาย ฯลฯเขียนเนื้อหาตามรูปแบบที่ต้องการ เช่น บทความ ข่าว รายงาน จดหมาย ฯลฯ เขียนเนื้อหาให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย
4. แปลภาษา:แปลข้อความจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่งอย่างถูกต้องและแม่นยำรองรับภาษาต่างๆ มากมายทั่วโลก แปลภาษาแบบเรียลไทม์
5. ทำงานอื่นๆ:ตรวจสอบไวยากรณ์และสะกดคำ เรียบเรียงข้อความให้ถูกต้องตามหลักภาษา วิเคราะห์ข้อมูลจดจำเสียง ฯลฯ

สรุป

แม้ว่า Gemini จะช่วยได้ในหลายๆ เรื่องแต่ก็ยังมี ข้อเสียของเนื้อหาที่สร้างโดย AI เพราะ Gemini ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่มีความสามารถหลากหลาย คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของ Google และเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราโต้ตอบกับคอมพิวเตอร์และโลกดิจิทัล  

 

---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebookรับทำเว็บไซต์ ขอนแก่นและรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ---

ข้อมูลจาก: นักเขียนนิรนาม”