20 ธ.ค. 2565

800

SEO กับ PPC ควรเลือกใช้แบบไหนดี by seo-winner.com

SEO กับ PPC ควรเลือกใช้แบบไหนดี

เชื่อว่ามีหลายคนที่รู้จัก SEO และ PPC ว่าคืออะไร ทำงานอย่าง และควรจะเลือกใช้แบบไหน แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จัก หรือคนที่กำลังเข้าสู่โลกของการตลาดออนไลน์ ซึ่งไม่เพียงแค่คุณสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาแล้วจะขายสินค้าได้เลย แต่คุณจำเป็นต้องศึกษาการตลาดออนไลน์อย่างละเอียด และรู้จักการใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยให้เจ็บน้อยที่สุดหลังจากลงทุนไปแล้วนั่นเอง

ฉะนั้นบทความนี้เราจำเป็นที่จะต้องพาผู้อ่านมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ SEO และ PPC ว่าแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้แบบไหนดีให้เหมาะสมกับธุรกิจของเรา หากคุณเข้าใจสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณมีไอเดีย ที่จะทำให้การตลาดออนไลน์ของคุณนั้นมีประสิทธิภาพขึ้นได้อีกมากเลยล่ะครับ

SEO : SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization คือการทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับต้นๆ ของ Search Engine ซึ่งการทำ SEO นั้นแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ SEO Off Page และ SEO On Page 

  1. SEO Off Page จะเป็นการโปรโมทเว็บไซต์ของเราภายในเว็บอื่นๆ โดยมีจุดหมายเพื่อเพิ่มจำนวนการเข้าชมเว็บเราให้มากขึ้น
  2. SEO On Page จะเป็นการใช้ทุกสิ่งภายในเว็บของเรา โดยการนำมาทำให้ติดอันดับต้นๆ ของการค้นหา ซึ่งมีองค์ประกอบอยู่หลายปัจจัยมากๆ 

PPC : PPC ย่อมาจาก Pay Per Click คือการทำโฆษณาใน Platform ของ Search Engine แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยคิดเงินต่อคลิก ที่มีคนคลิกเข้าดูโฆษณาของเรา ซึ่งจะไม่มีการจำกัดการมองเห็น และถ้าหากมีคนเห็นโฆษณาของเราแต่ไม่คลิกเข้าไปดู เราจะไม่เสียเงิน โดยจะเสียตามจำนวนที่โดนคลิกเข้าไปดูเท่านั้น!

ข้อดีของ SEO

  1. หากมองในระยะยาว SEO มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า : ถึงแม้ว่า SEO จะต้องเสียเงินและเวลาเพื่อจ่ายให้กับเอเจนซีหรือฟรีแลนซ์ แต่เครื่องมือสำหรับ SEO ยังคงถูกกว่า PPC ในระยะยาว
  2. สามารถกำหนดเป้าหมายขั้นตอนต่างๆ ได้ด้วย SEO : ด้วยความเป็น SEO นั้น เราสามารถสร้างเนื้อหาประเภทต่างๆ เช่น บล็อกโพสต์ คู่มือ กรณีศึกษา และอื่นๆ ที่สามารถตอบสนองต่อกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มได้ตรงจุด ที่กลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นอยู่ในช่องทางการขาย
  3. ปริมาณการค้นหามีเสถียรภาพมากขึ้น : หากจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ คือ SEO นั้น ไม่มีสวิตช์ปิดหรือเปิด แต่ในทางกลับกัน การตลาดด้วย PPC จะหยุดปรากฏในผลการค้นหาเมื่องบประมาณหมดลง 
  4. Keyword ทั่วไปช่วยสร้างอำนาจของแบรนด์ : การปรากฏอย่างสม่ำเสมอในผลการค้นหาสำหรับคำหลักที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการ จะช่วยสร้างความไว้วางใจและอำนาจในตราสินค้าให้กับกลุ่มเป้าหมายของคุณได้

ข้อเสียของ SEO 

  1. อัลกอริทึมของเครื่องมือการค้นหาเปลี่ยนไป
  2. จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์อยู่อย่างต่อเนื่อง
  3. ต้องใช้ทักษะและความเชี่ยวชาญระดับสูงในการทำขั้นตอนนั้นๆ
  4. ต้องจัดระเบียบเว็บไซต์
  5. ต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน
  6. keyword เสี่ยงไม่ติดอันดับ

ข้อดีของ PPC

  1. PPC ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว : เราจะเห็นได้ว่าต้องใช้เวลาค่อนข้างหลายเดือนในการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ แต่การทำแคมเปญ PPC อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในการเห็นผลลัพธ์
  2. โฆษณา PPC จะปรากฏเหนือการจัดอันดับทั่วไปเสมอ : หากเราใช้แคมเปญ PPC สำหรับคีย์เวิร์ดเป้าหมาย เว็บไซต์ของเราจะปรากฏเป็นอันดับแรกในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือการค้นหา โดยการจัดอันดับนี้ทำให้ผู้ชมสังเกตเห็นคุณก่อนเลื่อนดูผลลัพธ์อื่นๆ
  3. PPC ช่วยระบุกลุ่มเป้าหมายได้  : ในขณะที่ตั้งค่าแคมเปญ PPC เราจะต้องเลือกผู้ที่ต้องการกำหนดเป้าหมายด้วยโฆษณาได้
  4. สามารถเรียกใช้การทดสอบ A/B บนโฆษณา PPC ได้อย่างรวดเร็ว : ด้วยแคมเปญ PPC เราสามารถเรียกใช้โฆษณาที่แตกต่างกันสองรายการพร้อมกัน เพื่อวัดว่าโฆษณาใดที่ทำให้เกิด Conversion ได้ดีกว่า

ข้อเสียของ PPC

  1. โฆษณา PPC มีราคาค่อนข้างสูง
  2. อัตรากำไรที่ต่ำกว่า
  3. โฆษณา PPC ค้าง  หลังจากนั้นไม่นาน
  4. มีโอกาสที่ User ไม่คลิก (เพราะเห็นว่าเป็นโฆษณา)

SEO และ PPC แบบไหนดีกว่ากัน : หากถามว่าแบบไหนดีกว่ากัน เราไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจน เนื่องจากทั้ง 2 อย่างมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ฉะนั้นหากคุณอยากรู้ว่าควรใช้แบบไหนดี โปรดพิจารณาในแต่ละข้อ ดังต่อไปนี้

ควรใช้ SEO เมื่อ…..

  1. เมื่องบประมาณด้านการตลาดของเรานั้นค่อนข้างจำกัด
  2. เมื่อต้องการสร้างแบรนด์
  3. เมื่อต้องการเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ในระยะยาวให้สูง
  4. เมื่อต้องการสร้างเนื้อหาที่เข้าถึงผู้ชมในขั้นตอนต่างๆ ของช่องทางขาย

ควรใช้ PPC เมื่อ…..

  1. หลักๆ เลยคือเมื่อเราต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว 
  2. เมื่อมีผลิตภัณฑ์แปลกใหม่ และไม่เหมือนใคร
  3. เมื่อเรากำลังโปรโมตข้อเสนอพิเศษตามช่วงเวลา เช่น การลดราคาช่วงเทศกาล
  4. เมื่อเราต้องการนำผู้ชมไปที่การขายหรือหน้า Landing Page

มาดูสถิติ SEO กับ PPC

ในส่วนของ SEO 

  1. Google รับผิดชอบมากกว่า 92.47% ของการเข้าชมเว็บทั่วโลก
  2. 90.63% ของเนื้อหาออนไลน์ได้รับการเข้าชมเป็นศูนย์จาก Google โดยมีเพียง 0.21% เท่านั้นที่ได้รับการเข้าชมมากกว่า 1,000 ครั้งต่อเดือน
  3. 35.18% ของการค้นหาบนเบราว์เซอร์ของ Google ส่งผลให้มีการคลิกลิงก์ทั่วไปในปี 2020
  4. 99.2% ของหน้าเว็บไซต์มีลิงก์ย้อนกลับน้อยกว่า 100 รายการ
  5. Google ประมวลผลการค้นหามากกว่า 5.6 พันล้านรายต่อวัน (หรือการค้นหา 2 ล้านล้านครั้งต่อปี)
  6. 64% ของนักการตลาดลงทุนอย่างจริงจังกับ SEO

ในส่วนของ PPC

  1. เครือข่ายดิสเพลย์ของ Google เข้าถึง 90% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก
  2. การใช้จ่ายด้านการโฆษณาบนการค้นหาอยู่ที่ 144.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 เมื่อเทียบกับ 58 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563
  3. มากกว่า https://backlinko.com/ad-blockers-users
  4. ราคาหนึ่งคลิก (CPC) เฉลี่ยรายเดือนสูงสุดในการโฆษณาบนเครือข่ายการค้นหาของ Google Ads อยู่ในอุตสาหกรรมประกันภัยที่ 18.57 ดอลลาร์ต่อคลิก
  5. CPC ที่ถูกที่สุดในการโฆษณาบนการค้นหาของ Google Ads อยู่ในอุตสาหกรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ 77 เซนต์ต่อคลิก
  6. อัตราการคลิกผ่านโฆษณา Facebook เฉลี่ยในทุกอุตสาหกรรมคือ 1.1%

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ






 

--Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ

ข้อมูลจาก : stepstraining.co / blog.sogoodweb.com / blog.hubspot.com

บทความ

ไซต์รีวิวขนาดเล็กสูญเสียการเข้าชม  Google ถึง 91% ไปยัง SEO Content ที่เน้น Affiliate

ไซต์รีวิวขนาดเล็กสูญเสียการเข้าชม Google ถึง 91% ไปยัง SEO Content ที่เน้น Affiliate

“ผลการค้นหาของ Google ถูกครอบงำโดยแบรนด์ใหญ่ๆ SEO สำหรับไซต์ขนาดเล็ก ซึ่งมันเหมือนกับปี 2003 อีกครั้ง” ... อ่านเพิ่มเติม

จากการศึกษาพบ 56% ของตำแหน่ง  3 อันดับแรกของ Google ถือครองโดย ccTLD เพราะเหตุใด?

จากการศึกษาพบ 56% ของตำแหน่ง 3 อันดับแรกของ Google ถือครองโดย ccTLD เพราะเหตุใด?

การทำ SEO ในระดับสากลเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ระดับโลก และหนึ่งในการปรับปรุงประสิทธิภาพขั้นพื้นฐานที่สุดคือโดเมนและโครงสร้าง URL ที่เราเลือกใช้ ... อ่านเพิ่มเติม

แท็กชื่อ (TITLE TAG) ควรมีความยาวเท่าใดในปี 2024

แท็กชื่อ (TITLE TAG) ควรมีความยาวเท่าใดในปี 2024

แท็กชื่อ (Title Tag) ที่ใช้ในหน้าเว็บควรมีความยาวประมาณ 50-60 ตัวอักษร เพื่อให้แสดงผลได้อย่างเหมาะสมบนผลการค้นหาของ Google ในปี 2024 ... อ่านเพิ่มเติม

วิธีสร้างไอเดียสำหรับ Content ออนไลน์

วิธีสร้างไอเดียสำหรับ Content ออนไลน์

คาดการณ์ว่าภายในปี 2025 การตลาดเนื้อหาสร้างรายได้ประมาณ107 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการตลาดเนื้อหาในส่วนผสมทางการตลาด ... อ่านเพิ่มเติม

จะทำให้คนพูดถึงแบรนด์ของเราได้อย่างไร

จะทำให้คนพูดถึงแบรนด์ของเราได้อย่างไร

การที่ผู้คนพูดถึงแบรนด์ของเราช่วยสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรา เนื่องจากผู้บริโภคมักจะเชื่อถือคำแนะนำจากผู้อื่นมากกว่าการโฆษณาแบบดั้งเดิม ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไม Local Search Engine Optimization  จึงมีความสำคัญสำหรับธุรกิจในประเทศไทย

ทำไม Local Search Engine Optimization จึงมีความสำคัญสำหรับธุรกิจในประเทศไทย

อนาคตของ Local Search Engine Optimization (Local SEO) ในประเทศไทยคาดว่าจะมีการเติบโตและกลายเป็นสิ่งสำคัญยิ่งขึ้น เนื่องจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตและการค้นหาข้อมูลผ่านอุปกรณ์มือถือเพิ่มขึ้น ... อ่านเพิ่มเติม

ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหา 27 ปี ได้แบ่งปัน 5 ขั้นตอนในการปรับปรุง SEO ของเรา

ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหา 27 ปี ได้แบ่งปัน 5 ขั้นตอนในการปรับปรุง SEO ของเรา

ใน Summit เมื่อเร็วๆ นี้ Duane Forrester ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดผ่านการค้นหามา 27 ปีได้แบ่งปันคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเป็น SEO ที่ดีขึ้น และพัฒนาทักษะเพื่อคาดการณ์ได้ดีขึ้นว่าการตลาดผ่านการค้นหากำลังมุ่งหน้าไปที่ใด ... อ่านเพิ่มเติม

ขับเคลื่อนยอดขายด้วย PR ดิจิทัล (สิ่งที่แบรนด์อีคอมเมิร์ซจำเป็นต้องรู้)

ขับเคลื่อนยอดขายด้วย PR ดิจิทัล (สิ่งที่แบรนด์อีคอมเมิร์ซจำเป็นต้องรู้)

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลและการสื่อสารเป็นเรื่องราวของทุกวินาที การขับเคลื่อนยอดขายด้วย PR ดิจิทัลกำลังก้าวเข้าสู่ขอบเขตใหม่ๆ ที่มีศักยภาพไม่จำกัด ... อ่านเพิ่มเติม

วิธีการแข่งขัน SEO เพื่อบรรลุอันดับที่สูงขึ้น (เหนือกว่าคู่แข่งของเรา)

วิธีการแข่งขัน SEO เพื่อบรรลุอันดับที่สูงขึ้น (เหนือกว่าคู่แข่งของเรา)

เว็บไซต์ที่ใช้กลยุทธ์ SEO มักจะมีประสิทธิภาพดีกว่าเว็บไซต์ที่ไม่ทำ SEO ในหลายๆ ด้าน เช่น การได้รับ Traffic และการมองเห็นในผลการค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม