20 ธ.ค. 2565

791

SEO กับ PPC ควรเลือกใช้แบบไหนดี by seo-winner.com

SEO กับ PPC ควรเลือกใช้แบบไหนดี

เชื่อว่ามีหลายคนที่รู้จัก SEO และ PPC ว่าคืออะไร ทำงานอย่าง และควรจะเลือกใช้แบบไหน แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จัก หรือคนที่กำลังเข้าสู่โลกของการตลาดออนไลน์ ซึ่งไม่เพียงแค่คุณสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาแล้วจะขายสินค้าได้เลย แต่คุณจำเป็นต้องศึกษาการตลาดออนไลน์อย่างละเอียด และรู้จักการใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยให้เจ็บน้อยที่สุดหลังจากลงทุนไปแล้วนั่นเอง

ฉะนั้นบทความนี้เราจำเป็นที่จะต้องพาผู้อ่านมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ SEO และ PPC ว่าแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้แบบไหนดีให้เหมาะสมกับธุรกิจของเรา หากคุณเข้าใจสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณมีไอเดีย ที่จะทำให้การตลาดออนไลน์ของคุณนั้นมีประสิทธิภาพขึ้นได้อีกมากเลยล่ะครับ

SEO : SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization คือการทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับต้นๆ ของ Search Engine ซึ่งการทำ SEO นั้นแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ SEO Off Page และ SEO On Page 

  1. SEO Off Page จะเป็นการโปรโมทเว็บไซต์ของเราภายในเว็บอื่นๆ โดยมีจุดหมายเพื่อเพิ่มจำนวนการเข้าชมเว็บเราให้มากขึ้น
  2. SEO On Page จะเป็นการใช้ทุกสิ่งภายในเว็บของเรา โดยการนำมาทำให้ติดอันดับต้นๆ ของการค้นหา ซึ่งมีองค์ประกอบอยู่หลายปัจจัยมากๆ 

PPC : PPC ย่อมาจาก Pay Per Click คือการทำโฆษณาใน Platform ของ Search Engine แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยคิดเงินต่อคลิก ที่มีคนคลิกเข้าดูโฆษณาของเรา ซึ่งจะไม่มีการจำกัดการมองเห็น และถ้าหากมีคนเห็นโฆษณาของเราแต่ไม่คลิกเข้าไปดู เราจะไม่เสียเงิน โดยจะเสียตามจำนวนที่โดนคลิกเข้าไปดูเท่านั้น!

ข้อดีของ SEO

  1. หากมองในระยะยาว SEO มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า : ถึงแม้ว่า SEO จะต้องเสียเงินและเวลาเพื่อจ่ายให้กับเอเจนซีหรือฟรีแลนซ์ แต่เครื่องมือสำหรับ SEO ยังคงถูกกว่า PPC ในระยะยาว
  2. สามารถกำหนดเป้าหมายขั้นตอนต่างๆ ได้ด้วย SEO : ด้วยความเป็น SEO นั้น เราสามารถสร้างเนื้อหาประเภทต่างๆ เช่น บล็อกโพสต์ คู่มือ กรณีศึกษา และอื่นๆ ที่สามารถตอบสนองต่อกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มได้ตรงจุด ที่กลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นอยู่ในช่องทางการขาย
  3. ปริมาณการค้นหามีเสถียรภาพมากขึ้น : หากจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ คือ SEO นั้น ไม่มีสวิตช์ปิดหรือเปิด แต่ในทางกลับกัน การตลาดด้วย PPC จะหยุดปรากฏในผลการค้นหาเมื่องบประมาณหมดลง 
  4. Keyword ทั่วไปช่วยสร้างอำนาจของแบรนด์ : การปรากฏอย่างสม่ำเสมอในผลการค้นหาสำหรับคำหลักที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการ จะช่วยสร้างความไว้วางใจและอำนาจในตราสินค้าให้กับกลุ่มเป้าหมายของคุณได้

ข้อเสียของ SEO 

  1. อัลกอริทึมของเครื่องมือการค้นหาเปลี่ยนไป
  2. จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์อยู่อย่างต่อเนื่อง
  3. ต้องใช้ทักษะและความเชี่ยวชาญระดับสูงในการทำขั้นตอนนั้นๆ
  4. ต้องจัดระเบียบเว็บไซต์
  5. ต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน
  6. keyword เสี่ยงไม่ติดอันดับ

ข้อดีของ PPC

  1. PPC ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว : เราจะเห็นได้ว่าต้องใช้เวลาค่อนข้างหลายเดือนในการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ แต่การทำแคมเปญ PPC อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในการเห็นผลลัพธ์
  2. โฆษณา PPC จะปรากฏเหนือการจัดอันดับทั่วไปเสมอ : หากเราใช้แคมเปญ PPC สำหรับคีย์เวิร์ดเป้าหมาย เว็บไซต์ของเราจะปรากฏเป็นอันดับแรกในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือการค้นหา โดยการจัดอันดับนี้ทำให้ผู้ชมสังเกตเห็นคุณก่อนเลื่อนดูผลลัพธ์อื่นๆ
  3. PPC ช่วยระบุกลุ่มเป้าหมายได้  : ในขณะที่ตั้งค่าแคมเปญ PPC เราจะต้องเลือกผู้ที่ต้องการกำหนดเป้าหมายด้วยโฆษณาได้
  4. สามารถเรียกใช้การทดสอบ A/B บนโฆษณา PPC ได้อย่างรวดเร็ว : ด้วยแคมเปญ PPC เราสามารถเรียกใช้โฆษณาที่แตกต่างกันสองรายการพร้อมกัน เพื่อวัดว่าโฆษณาใดที่ทำให้เกิด Conversion ได้ดีกว่า

ข้อเสียของ PPC

  1. โฆษณา PPC มีราคาค่อนข้างสูง
  2. อัตรากำไรที่ต่ำกว่า
  3. โฆษณา PPC ค้าง  หลังจากนั้นไม่นาน
  4. มีโอกาสที่ User ไม่คลิก (เพราะเห็นว่าเป็นโฆษณา)

SEO และ PPC แบบไหนดีกว่ากัน : หากถามว่าแบบไหนดีกว่ากัน เราไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจน เนื่องจากทั้ง 2 อย่างมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ฉะนั้นหากคุณอยากรู้ว่าควรใช้แบบไหนดี โปรดพิจารณาในแต่ละข้อ ดังต่อไปนี้

ควรใช้ SEO เมื่อ…..

  1. เมื่องบประมาณด้านการตลาดของเรานั้นค่อนข้างจำกัด
  2. เมื่อต้องการสร้างแบรนด์
  3. เมื่อต้องการเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ในระยะยาวให้สูง
  4. เมื่อต้องการสร้างเนื้อหาที่เข้าถึงผู้ชมในขั้นตอนต่างๆ ของช่องทางขาย

ควรใช้ PPC เมื่อ…..

  1. หลักๆ เลยคือเมื่อเราต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว 
  2. เมื่อมีผลิตภัณฑ์แปลกใหม่ และไม่เหมือนใคร
  3. เมื่อเรากำลังโปรโมตข้อเสนอพิเศษตามช่วงเวลา เช่น การลดราคาช่วงเทศกาล
  4. เมื่อเราต้องการนำผู้ชมไปที่การขายหรือหน้า Landing Page

มาดูสถิติ SEO กับ PPC

ในส่วนของ SEO 

  1. Google รับผิดชอบมากกว่า 92.47% ของการเข้าชมเว็บทั่วโลก
  2. 90.63% ของเนื้อหาออนไลน์ได้รับการเข้าชมเป็นศูนย์จาก Google โดยมีเพียง 0.21% เท่านั้นที่ได้รับการเข้าชมมากกว่า 1,000 ครั้งต่อเดือน
  3. 35.18% ของการค้นหาบนเบราว์เซอร์ของ Google ส่งผลให้มีการคลิกลิงก์ทั่วไปในปี 2020
  4. 99.2% ของหน้าเว็บไซต์มีลิงก์ย้อนกลับน้อยกว่า 100 รายการ
  5. Google ประมวลผลการค้นหามากกว่า 5.6 พันล้านรายต่อวัน (หรือการค้นหา 2 ล้านล้านครั้งต่อปี)
  6. 64% ของนักการตลาดลงทุนอย่างจริงจังกับ SEO

ในส่วนของ PPC

  1. เครือข่ายดิสเพลย์ของ Google เข้าถึง 90% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก
  2. การใช้จ่ายด้านการโฆษณาบนการค้นหาอยู่ที่ 144.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 เมื่อเทียบกับ 58 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563
  3. มากกว่า https://backlinko.com/ad-blockers-users
  4. ราคาหนึ่งคลิก (CPC) เฉลี่ยรายเดือนสูงสุดในการโฆษณาบนเครือข่ายการค้นหาของ Google Ads อยู่ในอุตสาหกรรมประกันภัยที่ 18.57 ดอลลาร์ต่อคลิก
  5. CPC ที่ถูกที่สุดในการโฆษณาบนการค้นหาของ Google Ads อยู่ในอุตสาหกรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ 77 เซนต์ต่อคลิก
  6. อัตราการคลิกผ่านโฆษณา Facebook เฉลี่ยในทุกอุตสาหกรรมคือ 1.1%

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ






 

--Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ

ข้อมูลจาก : stepstraining.co / blog.sogoodweb.com / blog.hubspot.com

บทความ

จะทำให้คนพูดถึงแบรนด์ของเราได้อย่างไร

จะทำให้คนพูดถึงแบรนด์ของเราได้อย่างไร

การที่ผู้คนพูดถึงแบรนด์ของเราช่วยสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรา เนื่องจากผู้บริโภคมักจะเชื่อถือคำแนะนำจากผู้อื่นมากกว่าการโฆษณาแบบดั้งเดิม ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไม Local Search Engine Optimization  จึงมีความสำคัญสำหรับธุรกิจในประเทศไทย

ทำไม Local Search Engine Optimization จึงมีความสำคัญสำหรับธุรกิจในประเทศไทย

อนาคตของ Local Search Engine Optimization (Local SEO) ในประเทศไทยคาดว่าจะมีการเติบโตและกลายเป็นสิ่งสำคัญยิ่งขึ้น เนื่องจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตและการค้นหาข้อมูลผ่านอุปกรณ์มือถือเพิ่มขึ้น ... อ่านเพิ่มเติม

ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหา 27 ปี ได้แบ่งปัน 5 ขั้นตอนในการปรับปรุง SEO ของเรา

ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหา 27 ปี ได้แบ่งปัน 5 ขั้นตอนในการปรับปรุง SEO ของเรา

ใน Summit เมื่อเร็วๆ นี้ Duane Forrester ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดผ่านการค้นหามา 27 ปีได้แบ่งปันคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเป็น SEO ที่ดีขึ้น และพัฒนาทักษะเพื่อคาดการณ์ได้ดีขึ้นว่าการตลาดผ่านการค้นหากำลังมุ่งหน้าไปที่ใด ... อ่านเพิ่มเติม

ขับเคลื่อนยอดขายด้วย PR ดิจิทัล (สิ่งที่แบรนด์อีคอมเมิร์ซจำเป็นต้องรู้)

ขับเคลื่อนยอดขายด้วย PR ดิจิทัล (สิ่งที่แบรนด์อีคอมเมิร์ซจำเป็นต้องรู้)

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลและการสื่อสารเป็นเรื่องราวของทุกวินาที การขับเคลื่อนยอดขายด้วย PR ดิจิทัลกำลังก้าวเข้าสู่ขอบเขตใหม่ๆ ที่มีศักยภาพไม่จำกัด ... อ่านเพิ่มเติม

วิธีการแข่งขัน SEO เพื่อบรรลุอันดับที่สูงขึ้น (เหนือกว่าคู่แข่งของเรา)

วิธีการแข่งขัน SEO เพื่อบรรลุอันดับที่สูงขึ้น (เหนือกว่าคู่แข่งของเรา)

เว็บไซต์ที่ใช้กลยุทธ์ SEO มักจะมีประสิทธิภาพดีกว่าเว็บไซต์ที่ไม่ทำ SEO ในหลายๆ ด้าน เช่น การได้รับ Traffic และการมองเห็นในผลการค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

วิธีสร้างสมดุลระหว่าง SEO และ UX

วิธีสร้างสมดุลระหว่าง SEO และ UX

การผสมผสาน SEO และ UX เข้าด้วยกันนั้นมีความสำคัญยิ่งในการสร้างเว็บไซต์ที่ไม่เพียงแต่ดึงดูดการเข้าชมจากการค้นหาอย่างมีประสิทธิภาพ ... อ่านเพิ่มเติม

วิธีทำให้ Google จัดทำดัชนีเว็บไซต์ของเรา

วิธีทำให้ Google จัดทำดัชนีเว็บไซต์ของเรา

การจัดทำดัชนีเนื้อหาเว็บไซต์ของ Google มีบทบาทสำคัญในการกำหนดว่าเนื้อหาของเรา ว่าจะปรากฏบนผลการค้นหาหรือไม่ ซึ่งส่งผลต่อการเข้าถึงและการมองเห็นของเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต ... อ่านเพิ่มเติม

วิธีสร้างเนื้อหาธุรกิจท้องถิ่นที่ทำให้เกิด Conversion

วิธีสร้างเนื้อหาธุรกิจท้องถิ่นที่ทำให้เกิด Conversion

การสร้างเนื้อหาธุรกิจท้องถิ่นคือกระบวนการออกแบบและผลิตเนื้อหาที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับชุมชนหรือพื้นที่ที่ธุรกิจดำเนินการ โดยมุ่งเน้นที่การนำเสนอข้อมูล ผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่ตอบสนองความต้องการและความสนใจของประชากรในพื้นที่นั้นๆ ... อ่านเพิ่มเติม

เคล็ดลับการทำ Redirection สำหรับ SEO

เคล็ดลับการทำ Redirection สำหรับ SEO

การทำ Redirection สำหรับ SEO คือ กระบวนการนำทางผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาจาก URL เดิมไปยัง URL อื่น โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกที่ลิงก์หรือดำเนินการใดๆ เป็นวิธีการที่ใช้เมื่อเนื้อหาบนเว็บไซต์ถูกย้ายไปยังตำแหน่งใหม่หรือเมื่อต้องการรวมหลายหน้าเว็บเข้าด้วยกัน ... อ่านเพิ่มเติม