ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันการแข่งขันทางด้านการตลาดในการทำธุรกิจนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากโดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่ผู้คนนั้นหันมานิยมใช้กันเพราะมีความง่ายสะดวกและการเข้าถึงที่รวดเร็วจึงทำให้นักการตลาดทั้งหลายหันมาทำร้านค้าออนไลน์อยู่ในโลกอินเทอร์เน็ตที่สามารถนำเสนอสินค้าให้ผู้เข้ามาเยี่ยมชมในร้านของตนเองได้ตลอด 24 ชม. 

ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่จะทำให้ผู้คนได้รู้จักร้านค้าออนไลน์และเข้าถึงร้านค้าของเราได้อย่างง่ายนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากหากเป็นร้านค้าเว็บไซต์ที่เปิดใหม่ จึงทำให้การทำเว็บไซต์นั้นต้องอาศัยการทำ SEO ควบคู่ไปด้วย ดังนั้นบทความนี้เราจะพามารู้จักกับ “เครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับ SEO” มีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ

1. Google Analytics

สำหรับเครื่องมืออย่าง Google Analytics เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับผู้ที่ทำ SEO ซึ่งในเครื่องมือชิ้นนี้จะบอกถึงผู้คนที่เข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์, แหล่งที่เข้ามาของช่องทาง, โดยข้อมูลในส่วนนี้จะนำไปสู่การวิเคราะห์ประเมินความต้องการของเจ้าของเว็บไซต์และนำไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ตรงตามเป้าหมายที่ต้องการนั่นเองครับ

2. Google Search Console 

สำหรับเจ้าเครื่องมืออย่าง Google Search Console อยากจะบอกว่าคนที่ทำ SEO ไม่ควรมองข้าม เพราะเจ้าเครื่องมือจาก Google ชิ้นนี้สามารถบอกข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ให้เราได้ เช่น ผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ของเราส่วนมากใช้ Keywords (คำสำคัญ) อะไรในการค้นหากันเป็นส่วนใหญ่ อัตราการคลิก (CTR) เมื่อเปรียบเทียบการแสดงผลของ Google การแจ้งเตือนของ URL และการแจ้งปัญหาสแปมต่างๆ โดยทั้งหมดนี้เราสามารถนำมาประกอบการพิจารณาในการทำ SEO เพื่อให้ข้อมูลที่เราใส่ลงไปนั้นตรงตาม Keywords ที่ผู้คนนั้นค้นหาให้ได้มากที่สุดครับ

3. Structured Data Testing Tool

สำหรับเจ้าเครื่องมือ Structured Data Testing Tool ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สามารถใช้งานได้ฟรีจาก Google โดยการใช้งานนั้นจะใช้ในการตรวจสอบ Structured Data (ข้อมูลโครงสร้าง) เป็นหลัก เพราะจะเป็นการอธิบายว่าเนื้อหาจากบทความนั้นหมายถึงอะไรเมื่อ Google มาเก็บข้อมูล เช่น คุณขายของเกี่ยวกับอะไร บริการอะไร เป็นเว็บไซต์อะไร ทั้งหมดนี้ Google จะดึงข้อมูลทั้งหมดไปจัดอันดับบน Google เพื่อให้ตรงตาม Keywords ของคนที่ค้นหาให้ตรงที่สุดครับ

4. Ahrefs

สำหรับเจ้าเครื่องมืออย่าง Ahrefs จะทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ Backlink บอกได้เลยว่า Ahrefs เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากตัวหนึ่งสำหรับคนที่ SEO เพราะมีลิงก์มากกว่า 1 ล้านลิงก์ในการอัปเดตอย่างน้อยวันละครั้ง และ Keywords กับ Backlink ที่เข้ามายังเว็บไซต์ของเรา ในส่วนนี้เราสามารถนำไปวิเคราะห์ในการทำ SEO เพื่อใช้ทำกลยุทธ์สู้กับคู่แข่งครับ

5. Majestic

สำหรับเจ้าเครื่องมืออย่าง Majestic จะทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือเมื่อมี Backlink เข้ามา เช่น เนื้อหาเกี่ยวกับอะไร อยู่หมวดหมู่อะไร มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ หมวดหมู่เดียวกันไหม ซึ่งในทางกลับกันอาจส่งผลเสียต่ออันดับของคุณหากเว็บไซต์มีคุณภาพต่ำและเนื้อหาไม่มีความเกี่ยวข้องกันครับ

6. Check my links

ในส่วนของเจ้า Check my links จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบลิงก์ภายในหน้าของเว็บไซต์นั้นๆ และยังมีความสามารถในการบอกถึงสถานะของลิงก์ เช่น ลิงก์สมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ ความผิดปกติของลิงก์ หรือลิงก์ที่หายไป ที่สำคัญยังบอกได้ว่าลิงก์ที่เสียนั้นอยู่ส่วนไหนของเว็บไซต์
7. Seoquake     
   

    บอกได้เลยว่าเจ้าเครื่องมืออย่าง Seoquake มีความสำคัญกับคนที่ทำ SEO เป็นอย่างมากเพราะใช้ในการวิเคราะห์คู่แข่งนั้นเอง เช่น Keywords (คำสำคัญ) เดียวกัน เพราะสามารถแสดงถึงข้อมูลTitle, Meta tag , PageRank ,Backlink จำนวน Index ,Keywords density ,whois (ใครเป็นผู้จดโดเมนนี้) ผู้ที่ทำ SEO นั้นสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุงแก้ไขในการทำ SEO ของตนเองได้ครับ

8. Mobile Friendly Test    

  

เครื่องมืออย่าง Mobile Friendly Test เป็นเครื่องมืออัลกอริทึมใหม่ๆ ของ Google โดยจะตอบสนองต่อการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นเจ้า  Mobile Friendly Test จึงได้ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจสอบว่า เว็บไซต์ของคุณนั้นเหมาะกับการใช้งานบนมือถือและแท็บเล็ตหรือไม่ โดยการพิมพ์ URL เว็บไซต์ของคุณลงไป    เจ้าเครื่องมือ Mobile Friendly Test แจ้งให้ทราบว่าเว็บไซต์ของคุณนั้นเหมาะกับการใช้งานบนมือถือและแท็บเล็ตหรือไม่ หลังจากนั้นคุณสามารถปรับปรุงแก้ไขเว็บไซต์ได้เลยครับ

9. Ubersuggest

    

สำหรับเจ้าเครื่องมืออย่าง Ubersuggest บอกได้เลยว่าเหมาะกับมือใหม่ และประหยัดงบ เช่น หาก Keywords ภาษาไทยที่มีข้อมูลเพียงเล็กน้อย เจ้า Ubersuggest จะบอกความยากง่ายของการแข่งขัน Keywords นั้นๆ ที่สำคัญยังบอกอัตราการแข่งขัน Keywords แบบใช้ Ads และยังบอก Search Ad ที่ต้องจ่ายต่อคลิกด้วยครับ

10. creaming Frog

เครื่องมืออย่างเจ้า creaming Frog มีความสามารถรวบรวมข้อมูลต่างๆ ภายในเว็บไซต์และที่สำคัญสามารถดึงภาพและข้อมูลทั้งหมดได้โดยง่าย เช่น  Title , Description , H1 ของหน้าต่างๆ ซึ่งช่วยบอกปัญหาต่างภายในเว็บ (404) ได้ด้วย

อย่างไรก็ตามเราไม่จำเป็นต้องไปตรวจสอบหา URL ต่างๆ ในเว็บไซต์ เพราะเจ้า creaming Frog มีความสามารถในการรวบรวม URL ทั้งหมด และเราสามารถดู URL ที่ซ้ำกันได้จากเจ้า creaming Frog ครับ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการทำ SEO ของท่านได้ และถ้าหากอยากศึกษาเกี่ยวกับการทำ SEO สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ seo-winner.com ได้เลยครับ

 

 

 

---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—   

ข้อมูลจาก : thaidailyseo.com