12 เม.ย. 2566

2710

SEO 12 ประเภทยอดนิยมในปี 2023 by seo-winner.com

SEO 12 ประเภทยอดนิยมในปี 2023

SEO หรือ Search Engine Optimization หมายถึงการปรับปรุงการแสดงผลไซต์ของเราในผลการค้นหาของ Google สำหรับคำหลักหรือคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง SEO ช่วยในการสร้างการเข้าชมเว็บไซต์อย่างเป็นธรรมชาติ โดยผู้บริโภคออนไลน์มีแนวโน้มที่จะเลือกหนึ่งในผลลัพธ์ 10 รายการแรกจากเครื่องมือค้นหา

SEO 12 ประเภทยอดนิยมในปี 2023 : เราไปดู SEO 12 ประเภทยอดนิยม เพื่อไว้เป็นแนวทางในการทำธุรกิจออนไลน์กันเลยครับ

1. SEO หมวกขาว (หรือที่คนมักนิยมเรียกว่า SEO สายขาว) 

หากพูดถึง SEO สายขาวนั้น จะหมายถึงแนวทางปฏิบัติSEO ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดและเงื่อนไขของเครื่องมือค้นหาหลักๆ โดยการทำ SEO แบบสายขาวเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จ แนวทางปฏิบัติ SEO สีขาวบางประการที่เราต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด มีดังนี้

  1. ใช้เมตาแท็กที่มีคำหลักและสื่อความหมายมากมาย
  2. ให้บริการและเนื้อหาที่มีคุณภาพแก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์
  3. ทำให้เว็บไซต์ของเราใช้งานง่าย

อย่างไรก็ตามสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม……..

2. SEO หมวกดำ (หรือที่คนมักนิยมเรียกว่า SEO สายดำ) 

สำหรับ SEO สายดำจะใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของอัลกอริทึมการค้นหาของ Google เพื่อให้อันดับสูงขึ้นในผลการค้นหา และเทคนิคอื่นๆ เช่น กลยุทธ์การสร้างลิงก์ที่เป็นสแปม หรือเสียเงินฯ การยัดคำหลักเยอะๆ การปิดบังฯ และอื่นๆ ที่เราไม่สามารถพูดได้ เพราะมันไม่ดีครับ! 

โดยสิ่งเหล่านี้ถูกนำมาใช้เพื่อความก้าวนำหน้าในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา ซึ่งแนวทางปฏิบัติเหล่านี้ให้ผลลัพธ์ทันที แต่อาจส่งผลเสียต่อเว็บไซต์ของเราหาก Google ตรวจพบ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยง SEO สายดำ เด้ออออออจ้ะ (เราไม่แนะนำน๊าา)

3. SEO หมวกเทา (หรือที่คนมักนิยมเรียกว่า SEO สายเทา) 

สำหรับแนวทางปฏิบัติ SEO สายเทานั้นจะมีความเสี่ยงกว่าสายขาว แต่น้อยกว่าสายดำ นั่นเป็นเพราะแนวปฏิบัติ SEO สายเทาไม่ได้อยู่ในหมวดหมู่สายขาว เนื่องจากข้อกำหนดและเงื่อนไขเกี่ยวกับปัญหาไม่ชัดเจน 

อย่างไรก็ตาม การใช้แนวทางปฏิบัติ SEO สายเทาจะไม่ส่งผลให้ไซต์ถูกแบนจากเครื่องมือค้นหา ซึ่งการรู้แนวทางปฏิบัติ SEO แบบสายเทา จะสามารถช่วยไม่ให้เว็บไซต์ของเราสูญเสียการเข้าชม เนื่องจากเราทราบดีถึงผลเสียที่จะตามมา ซึ่งจะช่วยให้เราปรับใช้แนวทางปฏิบัติที่เป็นธรรม

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างของ SEO สายขาว เทา ดำ ได้ที่นี่

4. On-Page SEO 

SEO บนเว็บไซต์หมายถึงแนวทางปฏิบัติ ในการเพิ่มประสิทธิภาพองค์ประกอบบนเว็บไซต์ เช่น เนื้อหาและโค้ด HTML เพื่อปรับปรุงการจัดอันดับในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา และดึงดูดการเข้าชมที่เกี่ยวข้องมายังเว็บไซต์มากขึ้น 

ซึ่งแตกต่างจาก SEO นอกไซต์ และเกี่ยวข้องกับการปรับปัจจัยภายนอกให้เหมาะสม เช่น ลิงก์ย้อนกลับและสัญญาณโซเชียลมีเดีย และอื่นๆ เช่น

  • การวิจัยคำหลัก SEO
  • เนื้อหา SEO คุณภาพ
  • การเชื่อมโยงภายในสำหรับ SEO
  • การเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ข้อมูลเมตา
  • การเพิ่มประสิทธิภาพ SEO รูปภาพ
  • โครงสร้าง URL

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ On-Page SEO ได้ที่อ่านเพิ่มเติม……

5. Off-Page SEO

Off-page SEO หรือที่เรียกว่า off-site SEO เป็นวิธีปฏิบัติในการปรับปรุงการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหาของเว็บไซต์โดยการปรับปัจจัยภายนอกเว็บไซต์ให้เหมาะสม ซึ่งจะสามารถทำได้โดยการสร้างลิงก์ย้อนกลับคุณภาพสูง การโปรโมตเว็บไซต์บนโซเชียลมีเดีย และการตลาดออนไลน์รูปแบบอื่นๆ

โดยมีเป้าหมายคือ เพื่อเพิ่มอำนาจหน้าที่ ชื่อเสียง และความเกี่ยวข้องของเว็บไซต์ในสายตาของเครื่องมือค้นหา ซึ่งอาจส่งผลให้อันดับของเครื่องมือค้นหาสูงขึ้นและมีการเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น อ่านเพิ่มเติม........

6. SEO ทางเทคนิค

สำหรับ SEO ทางเทคนิคนั้นจะเกี่ยวข้องกับการปรับแต่งเว็บไซต์ที่ช่วยให้เครื่องมือค้นหารวบรวมข้อมูลและจัดทำดัชนีเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น โดยจะเป็นการปรับปรุงอันดับของเครื่องมือค้นหา ซึ่งรวมถึงงานต่างๆ เช่น การปรับเวลาโหลดไซต์ให้เหมาะสม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟล์ robot.txt ได้รับการกำหนดค่าอย่างถูกต้อง และตั้งค่าการเปลี่ยนเส้นทางอย่างถูกต้อง อ่านเพิ่มเติม………..

และเป้าหมายของ SEO ทางเทคนิคคือ การทำให้เว็บไซต์เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และใช้งานง่ายสำหรับทั้งเครื่องมือค้นหา และผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์

7. International SEO

International SEO (SEO ระหว่างประเทศ) จะเป็นการปรับปรุงปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของเราจากพื้นที่และภาษาต่างๆ ดังนั้นหากเราต้องการประสบความสำเร็จใน SEO ระหว่างประเทศหรือระดับสากล เราต้องตอบสนองบริบททางวัฒนธรรมของตลาดเป้าหมายและอนุญาตให้พวกเขาทำธุรกรรมในสกุลเงินและภาษาของพวกเขา 

และเทคนิคอื่นๆ เช่น ใช้รูปแบบวันที่และเวลาที่ถูกต้องตามสถานที่ที่ระบุไว้ หากพวกเขามีความกังวลใดๆ ให้สนทนาเป็นภาษาแม่ของพวกเขา  อย่างไรก็ตาม International SEO มีเป้าหมายเพื่อสร้างประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีสำหรับกลุ่มเป้าหมาย

8. SEO ท้องถิ่น

กลยุทธ์ SEO ท้องถิ่นสำหรับธุรกิจในท้องถิ่นเป็นหนึ่งในประเภทที่สำคัญที่สุดของ SEO เนื่องจากช่วยให้ธุรกิจปรากฏในผลการค้นหาในท้องถิ่นบน Google มากขึ้น

Local SEO นั้นจะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เข้าถึงผู้ชมในท้องถิ่นด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมผ่านการค้นหานับล้านครั้ง หากเราใช้แนวทางปฏิบัติ SEO ในท้องถิ่น ธุรกิจท้องถิ่นของเรานั้น จะมีโอกาสที่จะได้รับการจัดอันดับที่สูงขึ้นในผลการค้นหาและชุดแผนที่ท้องถิ่นในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามสิ่งนี้จะช่วยให้ธุรกิจของเรา เติบโตและเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ของเราได้ อ่านเพิ่มเติม………..

9. E-commerce SEO

สำหรับ E-commerce SEO นั้นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพมากๆ ในการรับการเข้าชมด้วยการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย แต่ต้นทุน SEO นั้นถูกกว่า และช่วยสร้างเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของเราให้มีอันดับสูงขึ้นเมื่อใดก็ตามที่มีคนค้นหาสินค้าหรือบริการ อ่านเพิ่มเติม…….

10. Content SEO

ชื่ออื่นในรายการประเภท SEO คือ Content SEO หมายถึงการสร้างเนื้อหาที่ไม่ซ้ำใคร ไม่ว่าจะเป็นงานเขียน กราฟิก หรือวิดีโอ เพื่อจัดโครงสร้างเว็บไซต์ของเรา จัดอันดับให้สูงขึ้นใน SERPs 

โดยมี 3 สิ่งที่ต้องพิจารณาในขณะที่ทำงานกับ  Content SEO คือ การเขียนคำโฆษณา, โครงสร้างเว็บไซต์ และกลยุทธ์คำหลัก

ดังนั้น สิ่งสำคัญคือเราต้องสร้างสมดุลให้กับทั้ง 3 อย่าง เนื่องจากหากไม่มีเนื้อหาที่มีคุณภาพ เว็บไซต์ของเราไม่สามารถอยู่บนผลการค้นหาได้ อ่านเพิ่มเติม.......

11. Mobile SEO

สำหรับ Mobile SEO (SEO บนมือถือ) เป็นคำที่ใช้เพื่ออธิบายการเพิ่มประสิทธิภาพไซต์สำหรับเครื่องมือค้นหา ในขณะเดียวกันก็คือการดูแลให้สามารถดูได้อย่างเหมาะสมบนอุปกรณ์ต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต เป็นต้น

หากลูกค้ามีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับแบรนด์บนโทรศัพท์มือถือ พวกเขาอาจไม่กลับมาอีก ดังนั้นหากต้องการให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด เราต้องใช้การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหาประเภทนี้ สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่ารูปแบบ โครงสร้าง และความเร็วของหน้าเว็บไม่ทำให้ผู้ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เปลี่ยนใจ อ่านเพิ่มเติม……

12. Negative SEO

SEO เชิงลบนั้น เป็น SEO ประเภทที่น่ารังเกียจและผิดจรรยาบรรณที่ปฏิบัติกันอยู่ในปัจจุบัน เป้าหมายของการทำ SEO เชิงลบคือลดอันดับการค้นหาของคู่แข่งลง เพื่อให้สามารถแซงหน้าพวกเขาหรือได้เปรียบเหนือพวกเขา 

ซึ่งเทคนิค SEO ที่ไม่ดี ได้แก่ การเจาะเข้าไปในเว็บไซต์ของใครบางคนและสร้างลิงก์คุณภาพต่ำจำนวนมากอย่างน่าสงสัยไปยังเว็บไซต์นั้น และการเผยแพร่ความคิดเห็นหรือบทวิจารณ์เชิงลบเกี่ยวกับพวกเขาในฟอรัมอินเทอร์เน็ตและกระดานสนทนาจำนวนมาก เป็นต้น 

ผู้ที่ถูกจับได้ว่าทำ SEO ที่ไม่ดีอาจนำไปสู่ความหลากหลาย ของปัญหาทางกฎหมาย ไม่แนะนำให้ทำนะครับ ไม่ดีเอามากๆ ใช้ความสามารถตัวเองดีกว่า เด้อออออจ้ะ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ 







 

---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ

ข้อมูลจาก : implilearn

 

บทความ

ทำความรู้จักกับ Web Crawler

ทำความรู้จักกับ Web Crawler

Web Crawler หรือที่บางครั้งเรียกว่า Spider, Bot คือโปรแกรมหรือสคริปต์ที่ใช้ในการท่องเว็บและดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ โดยการเยี่ยมชมหน้าเว็บแล้วเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อการประมวลผลต่อไป ... อ่านเพิ่มเติม

ทำความรู้จักกับ XML Sitemap

ทำความรู้จักกับ XML Sitemap

XML Sitemap หรือ แผนผังเว็บไซต์ในรูปแบบ XML คือ ไฟล์ในรูปแบบ XML ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับหน้าเว็บทั้งหมดภายในเว็บไซต์ โดยแสดงโครงสร้างและลำดับการจัดเรียงของเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์ ... อ่านเพิ่มเติม

Robots.txt คืออะไร

Robots.txt คืออะไร

Robots.txt เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยควบคุมการเข้าถึงของ search engine bots ซึ่งช่วยในการจัดการ Crawl Budget, ป้องกันไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ต้องการถูกดัชนี, และช่วยในการป้องกันการสำรวจเนื้อหาที่ซ้ำซ้อน ... อ่านเพิ่มเติม

เหตุผลที่ WordPress ต้องใช้ Web Hosting

เหตุผลที่ WordPress ต้องใช้ Web Hosting

WordPress ต้องใช้ Web Hosting เพราะ Web Hosting เป็นที่ที่เก็บไฟล์และข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ รวมถึงทำให้เว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้บนอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไม Dwell Time ถึงสำคัญสำหรับ SEO

ทำไม Dwell Time ถึงสำคัญสำหรับ SEO

Dwell Time เป็นหนึ่งในปัจจัยที่บ่งบอกถึงความพึงพอใจของผู้ใช้และคุณภาพของเนื้อหาในเว็บไซต์ การเพิ่ม Dwell Time จึงเป็นวิธีที่ช่วยปรับปรุง SEO และผลการจัดอันดับของเว็บไซต์ในเครื่องมือค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

Traditional SEO คืออะไร

Traditional SEO คืออะไร

Traditional SEO เป็นกระบวนการที่ใช้เทคนิคและกลยุทธ์ต่างๆ ในการปรับปรุงอันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา โดยการปรับแต่งทั้งด้านในและด้านนอกของเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและความน่าเชื่อถือให้กับเครื่องมือค้นหา ... อ่านเพิ่มเติม

อัตราการแปลง (Conversion Rate)

อัตราการแปลง (Conversion Rate)

อัตราการแปลง (Conversion Rate) ใน SEO เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดความสำเร็จของเว็บไซต์ในการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้าหรือผู้ที่ดำเนินการตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ... อ่านเพิ่มเติม

Impressions คืออะไร

Impressions คืออะไร

Impressions คือการวัดการแสดงผลของเนื้อหาหรือโฆษณาบนหน้าจอของผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้เข้าใจถึงการเข้าถึงและการมองเห็นแบรนด์หรือเนื้อหาของเราในตลาด ... อ่านเพิ่มเติม

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Page Speed

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับ Page Speed

Page Speed เป็นสิ่งที่สำคัญทั้งในการเพิ่มประสิทธิภาพ SEO และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน เว็บไซต์ที่โหลดเร็วจะช่วยให้ผู้ใช้มีความสุขในการใช้งาน ทำให้โอกาสในการทำอันดับในผลการค้นหาดีขึ้น ... อ่านเพิ่มเติม